เปิดใจ ขบวนการนศ.แห่งชาติ ยันไม่ได้ทำประชามติแบ่งแยกดินแดน

เปิดใจขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ยืนยันไม่ได้จัดทำประชามติแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นเพียงแบบสอบถามถึงการกำหนดชะตากรรมตนเองตามแนวทางสันติภาพ ยืนยันไม่มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ขณะที่นักวิชาการห่วงฝ่ายความมั่นคงเตรียมดำเนินคดีห่วงบานปลาย ที่ล่าสุดมีการนำไปยื่นยุบพรรครัฐบาล ซึ่งเลขาธิการพรรคเป็นธรรม ยืนยันไม่สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนและให้ความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพการแสดงความเห็นตามกรอบรัฐธรรมนูญ รวมถึงมีความเป็นห่วงกรณีมีกระแสข่าวว่าอาจเป็นเกมล้มพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะมีนโยบายขัดหน่วยงานความมั่นคง



ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ Pelajar bangsa เปิดใจกับข่าว 3 มิติ ไม่คิดว่ากิจกรรมเปิดตัวเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จะถูกนำไปเชื่อมโยงประเด็นถึงขั้นที่จะมีการดำเนินคดี และนำไปร้องเรียนยุบพรรคการเมือง เพราะการก่อตั้งขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ เป็นการรวมตัวของนักศึกษากลุ่มใหม่ หลังสหพันธ์นักเรียน นิสิต นักศึกษา และเยาวชนปาตานี ยุติบทบาทไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเตรียมการเปิดตัวมากว่า 1 ปี ก่อนการเลือกตั้ง จึงยืนยันได้ว่าไม่มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง



นายอักรอม วาบา รองประธาน ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่การจัดทำประชามติแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นแบบสอบถามว่า คุณเห็นด้วยหรือไม่ กับการกำหนดชะตากรรมตนเอง ที่จำลองถามผู้มาร่วมงานว่า คุณเห็นด้วยกับ สิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเองหรือไม่ ที่จะให้ประชาชนปาตานีสามารถออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้นำผลไปใช้ประโยชน์ใดๆ แต่ต้องการนำเสนอหลักการกำหนดชะตากรรมตนเอง ซึ่งมีการพูดคุยกันในพื้นที่มากว่า 10 ปี ว่าจะมีการปกครองรูปแบบใดที่เหมาะสมตามกรอบของกฎหมาย



นายฮูเซ็น บือแน เลขาธิการเขตยะลา ยืนยันว่างานที่จัดขึ้นทำถูกต้องตามกฏหมาย เพราะหลักการกำหนดชะตากรรมตนเอง สามารถนำมาพูดคุยบนโต๊ะเจรจา และเป็นทางเลือกสันติวิธี ไม่ใช่การใช้อาวุธ หาก กอ.รมน.ภาค 4 จะดำเนินคดี ก็พร้อมชี้แจง



เช่นเดียวกับ รศ.ดร.มาร์ค ตามไท ซึ่งได้รับเชิญไปกล่าวปาฐกถาในงานผ่านระบบออนไลน์ ยอมรับว่าภาพการจัดงานถูกนำไปวาดภาพให้รุนแรง แม้เป็นเพียงการใช้สิทธิเสรีภาพอย่างหนึ่ง การดำเนินคดีของฝ่ายความมั่นคงจึงต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะถ้าอ่านแบบสอบถามแล้วไม่ได้บอกว่าได้ทำประชามติในวันนั้น และหลักการทำประชามติกำหนดชะตากรรมตนเอง มีการใช้มาแล้วหลายประเทศทั่วโลก



ซึ่งทั้งหมดต้องเป็นไปตามกฎหมาย และเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสันติภาพ พร้อมตั้งข้อสังเกตุกรณีมีรายงานข่าวว่า การยื่นยุบพรรคการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล อาจมาจากนโยบายที่ขัดแย้งกับฝ่ายความมั่นคง



ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตรภิรมย์ศรี ก็เห็นตรงกันว่า การกำหนดชะตากรรมตนเอง เป็นประเด็นหนึ่งในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพตั้งแต่ยุคเริ่มเต้นเมื่อปี 2556 และการเข้ามาบนโต๊ะเจรจาของขบวนการบีอาร์เอ็น ก็มีเงื่อนไขที่ต้องเป็นไปตามกฏหมายรัฐธรรนูญไทย และการจัดทำประชามติแบ่งแยกดินแดน ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง รัฐต้องเรียนรู้ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการผลักเยาวชนไปใช้แนวทางตรงกันข้ามกับสันติวิธี



ในขณะที่พรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติ และพรรคเป็นธรรม ที่มีภาพโปสเตอร์ และเข้าร่วมการเสวนา ยืนยันว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการจัดทำแบบสอบถามของนักศึกษา การเข้าร่วมงานก็เป็นการไปเสวนาถึงแนวคิดการจัดการตนเอง และในการประชุมคณะทำงานปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้มีการยืนยันไปแล้วว่า ไม่สนับสนุนการทำผิดกฏหมายมาตรา 1 ของรัฐธรรมนุญ โดยกำลังมีการประเมินสถานการณ์กรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ไปยื่นร้องยุบพรรคจะกรณีนี้ ท่ามกลางการตรวจสอบว่าจะเป็นอีกหนึ่งขบวนการล้มพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่