'เพื่อไทย' ลุยเจรจา 'ก้าวไกล' ให้ได้ตำแหน่งปธ.สภาฯ เพื่อทำงานร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล

ประเด็นร้อนที่สุดในทางการเมืองขณะนี้คือการหาข้อสรุปว่าพรรคการเมืองใด จะครองที่นั่งตำแหน่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งตลอด 3 วันมานี้ มีความเห็นทั้งในนามสมาชิกพรรคและในนามแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของพรรคต่างแสดงเจตนา ที่จะครองตำแหน่งนี้ จนเกิดภาพของการแย่งตำแหน่ง ทั้งที่อยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล ล่าสุดหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันทีมข่าวเมื่อหัวค่ำ ที่ผ่านมาว่าจะเดินหน้าเจรจา กับพรรคก้าวไกล ให้พรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งนี้ เพื่อทำงานร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรีในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่มีทางตีจากพรรคก้าวไกล ขณะที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขอให้ทุกฝ่ายนำเรื่องนี้เข้าวงเจรจา โดยระบุว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยหากเทียบกับความไว้ใจของประชาชน


นายพิธา ลิ้มเจริญ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงทางออกของปัญหาตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า ทั้ง 8 พรรคที่ร่วมกันจัดตั้ง รัฐบาลจะต้อง ปรับจูนกัน คิดว่าทางที่ดีที่สุดคือน่าจะกลับไปพูดคุยกันผ่านทีมเจรจาที่เคยตั้งไว้ และเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน เชื่อว่าจะหาทางออกร่วมกันได้ เพราะยังมีงานใหญ่ที่ท้าทาย ที่ประชาชนรออยู่ ต้องจับมือกันให้แน่น ทำให้ประชาชนไม่เสียกำลังใจ ไม่เสียความหวัง ไม่เสียสมาธิกับเรื่องใหญ่ของประเทศ


นายพิธา ย้ำว่ายังคงเชื่อใจพรรคเพื่อไทย และเชื่อว่ารอยร้าวระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยสามารถสมานกันได้แน่นอน และมั่นใจว่าจะไม่ถึงขั้นต้องไปโหวต ตำแหน่งประธานสภาฯแข่งกันเองในสภา ส่วนที่จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมไปเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวจากการรัฐบาลในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคมนี้นั้น นายพิธา ระบุว่า ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการวิพากษ์วิจารณ์ เป็นส่วนหนึ่งของระบบประชาธิปไตย



ก่อนหน้านี้นายพิธา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ต่อปัญหานี้ใจความสำคัญว่า ปัญหานี้เป็นเรื่องเล็กมากหากเทียบกับภารกิจที่ประชาชนมอบความไว้วางใจ พร้อมกับชวนพรรคร่วมเกี่ยวแขนเดินหน้ายุติการสืบทอดอำนาจรัฐประหาร นำเรื่องนี้ ไปพูดคุยในวงเจรจา และเดินหน้าปรับจูนนโยบายร่วมกันเพื่อตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ



ขณะที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง 3 เมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา ยืนยันการที่พรรคเพื่อไทยต้องการตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่การงอแง หรือหาเรื่องจะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เป็นการหาจุดยืน หรือที่ยืนในการทำงานการเมืองอย่างมีศักดิ์ศรี สมเหตุสม ผล และมีดุลยภาพในการทำงา ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลที่มีคะแนนไม่ห่างจากพรรคแกนนำไปมาก

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าเรื่องนี้จะหาทางออกได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด คือตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยที่มีนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี

นายแพทย์ชลน่าน ยังระบุว่าการที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า หากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรอยู่ในการดูแลของพรรคเพื่อไทย แล้วจะเกิดการเสนอชื่อบุคลลอื่นเป็นนายรัฐมนตรี ในกรณีที่ชื่อนายพิธาไม่ผ่านในรอบแรก ถือว่าเป็นการวิเคราะห์ที่เกินความจริงหรือเรียกว่าเป็นการมโน โดยนายแพทย์ชลน่านระบุว่า หากยังมีความเป็นพรรคร่วมที่มีเอ็มโอยูกันอยู่ ก็ต้องเสนอบุคคลที่พรรคร่วมเห็นตรงกัน การจะไปเสนอชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ข้อตกลงร่วมกัน หรือเข้าข่ายแย่งจัดรัฐบาล หรือรอส้มหล่นนั้น พรรคเพื่อไทยยืนยันมาตลอดว่าไม่ทำ

นายแพทย์ชลน่าน ยังตอบคำถามที่ว่า ส่วนตัวอยากเป็นประธานสภาฯเองหรือไม่ โดยระบุว่า ตัวเองไม่เคยพูดแบบนั้น แต่สื่อมวลชนได้ถามเลขาธิการการพรรคเพื่อไทยว่า นายแพทย์ชลน่านเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งท่านก็ให้เกียรติและตอบว่าเหมาะสม และคนอื่นๆในพรรคก็เหมาะสม โดยนายแพทย์ชลน่านระบุว่าในพรรคยังไม่ได้หารือกันตำแหน่งใด แต่มุ่งเน้นไปที่การตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อนโดยไม่ตีจากพรรคก้าวไกล