พรรคใหม่แจ้งเกิด! 'พรรคเพื่อไทรวมพลัง' ส่งผู้สมัครส.ส. 2 คน คว้า 2 เขต สร้างตำนานล้มบ้านใหญ่

การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เพียงสร้างปรากฎการณ์ล้มบ้านใหญ่ในหลายเขตหลายจังหวัดเท่านั้น แต่มีผู้สมัครหลายคนที่อาจเรียกได้ว่าเป็นม้ามืด ที่ชนะการเลือกตั้งในเขต ที่มีการแข่งขันดุเดือดได้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเกิดใหม่อย่างเช่นพรรคเป็นธรรมได้ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน ซึ่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล ถึงขั้นระบุว่าได้เชิญ เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย ส่วนพรรคที่สร้างปรากฎการณ์ช็อกคอการเมืองอุบลราชธานี คือพรรคเพื่อไทรวมพลัง ซึ่งเป็นพรรคเกิดใหม่ ส่งผู้สมัครลงแข่ง 2 คน ก็ชนะเลือกตั้งทั้ง 2 คน


พรรคเพื่อไทรวมพลัง ซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่ สร้างปรากฎการณ์ช็อคคอการเมืองจังหวัดอุบลราชธานี ด้วยการเอาชนะมาได้ถึง 2 เขต จากการที่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งเพียง 2 คน เรียกว่าพรรคนี้ ชนะแบบร้อยเปอร์เซ็นต์


นางพิมพกาญจน์ พลสมัคร เปิดเผยว่าพรรคนี้จดทะเบียนเมื่อปีที่แล้ว และส่งผู้สมัครแบบเขต ลงแข่งขันครั้งนี้ทั้งประเทศเพียงแค่สองคน คือเขต 3 และเขต 10 เท่านั้นโดยเขต 3 นางพิมพกาญจน์ เอาชนะนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ จากพรรคเพื่อไทยมาได้ เขตนี้ ส.ส.เดิม เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่นายชูวิทย์ จากเพื่อไทย เคยเป็น ส.ส.ในเขตอื่น แต่ย้ายมาลงเขตนี้เป็นครั้งแรก ขณะที่นางพิมพกาญจน์ เป็นอดีต สจ.ในเขตนี้มาก่อน


นางพิมพกาญจน์ เชื่อว่าที่เธอลงพื้นที่ตลอด โดยเฉพาะช่วงโควิด ทำให้คนจดจำเธอได้ และเชื่อว่าไม่เกี่ยวชื่อ หรือโลโก้พรรค ที่ถูกทักท้วงว่าคล้ายกับพรรค เพื่อไทยมาก


ส่วนคนที่สองของพรรคนี้ คือนายสมศักดิ์ บุญประชม หรือคนท้องถิ่นเรียก เสี่ยเชียง ชนะการเลือกตั้งในเขต 10 อุบลราชธานี เอาชนะนายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.3 สมัยของพรรคเพื่อไทยมาได้ โดยคะแนนทิ้งห่างเกือบ 5 หมืน่คะแนน


นายสมศักดิ์ มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง และเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดอุบลลำปาง เป็นประธานชมรมคนรักษ์น้ำยืน ที่มีเครือขายคนในพื้นที่จำนวนมากปัจจัย เขาเชื่อว่าทำให้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็คือการช่วยเหลือช่วงโควิด-19 ทั้งการหารถรับ-ส่ง และจัดหายา รักษาผู้ป่วยโควิดตลอดซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยหลัก ที่เอาชนะใจคนพื้นที่มาได้


ส่วนพรรคการเมืองอีกพรรค ที่คนทั่วไปอาจไม่คุ้นเคย แต่ข่าว 3 มิติ ก็ติดตามการลงพื้นที่ของพรรคนี้มาตลอด คือพรรคเป็นธรรม โดยพรรคเป็นธรรม เป็นพรรคใหม่ ที่มีนายปิติพงศ์ เต็มเจริญ เป็นหัวหน้าพรรค มีนายกัณวีร์ สืบแสง เป็นเลขาธิการพรรค และเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 โดยพรรคนี้ ส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และในกรุงเทพฯ และแม้ว่าไม่ชนะใน ส.ส.เขต แต่ก็ได้คะแนนบัญชีรายชื่อ ที่ทำให้นายกัณวีร์ สืบแสง เป็นว่าที่ ส.ส.หนึ่งเดียวของพรรค และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ได้เชิญร่วมรัฐบาลด้วย


วันนี้ทั้งนายปิติพงษ์ ที่เป็นหัวหน้าพรรค และนายกัณวีร์ ว่าที่ ส.ส.ของพรรค ก็โพสต์ข้อความขอบคุณทุกคะแนนที่มอบให้ และขอบคุณนายพิธา ที่กล่าวเชิญ เข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคเป็นธรรม ยินดีที่จะร่วมรัฐบาลพรรคก้าวไกล ที่มีอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตย


นายกัณวีร์ ว่าที่ ส.ส.พรรคเป็นธรรม ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสันติภาพ มนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน ผู้ลี้ภัย ความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เคยทำงานในองค์การสหประชาชาติ (UN) ทำงานในตำแหน่ง อดีตหัวหน้าสำนักงานภูมิภาค สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ UNHCR ในหลายประเทศ เช่น ซูดาน ซูดานใต้ ยูกันดา เมียนมา บังคลาเทศ และประเทศไทย


ที่ผ่านมานายกัณวีร์ มีบทบาทนำเสนอนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน นโยบายระหว่างประเทศ และการสร้างสันติภาพชายแดนภาคใต้ จนเป็นที่ยอมรับ และนายพิธา ได้กล่าวถึงความสามารถและนโยบายสิทธิมนุษยชนและสันติภาพ ที่สนใจให้มาร่วมงานกับรัฐบาลพรรคก้าวไกล


นอกจากสองพรรคดังกล่าวแล้ว กกต.ก็ประกาศผลเลือกตั้งที่ทำให้พรรคการเมือง ที่เรียกว่าพรรคเล็ก ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ มีว่าที่ ส.ส. จำนวน 1 คน อีก 5 พรรค คือพรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคพลังสังคมใหม่ครูไทยเพื่อประชาชน