‘บิ๊กตู่’ โว นโยบายเงินสวัสดิการเดือนละ 1,000 ทั่วถึงกว่าเงินดิจิทัล 10,000

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ฟิตจัดเดินหาเสียงสามตลาดรวด ย้ำนโยบายเงินสวัสดิการเดือนละ 1,000 บาทพรรครวมไทยสร้างชาติให้ทั่วถึงกว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย และไม่ผิดกฏหมาย กกต.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินตลาดบองมาเช่ ขอคะแนนเสียงจากพรรคประชาชนให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ หมายเลข 22 และผู้สมัครแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมกันหาเสียงอย่างคึกคัก ทั้งร้านค้าและลูกค้า มีการขอถ่ายภาพกับพลเอกประยุทธ์ พร้อมบอกเล่าเรื่องการค้าขายที่ช่วงนี้ดีขึ้นแล้วหลังสถานการณ์โควิด โดยที่นี่มีผู้สนับสนุนคอยส่งเสียงบอกว่าจะเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะที่ทางพรรคมีการประกาศขอโทษประชาชนที่มาซื้อของอาจไม่ได้รับความสะดวก

พล.อ.ประยุทธ์ ยังไปหาเสียงที่ตลาด อตก. ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด และประชาชนที่มาซื้ออาหารในวันอาทิตย์ โดยมีการมาขอถ่ายภาพและให้กำลังใจตลอดทาง ก่อนที่พลเอกประยุทธ์ จะทักทายแม่ค้าร้านทุเรียนชื่อดังในตลาด อตก.ที่ขายมากว่า 30 ปี โดยแม่ค้าบอกว่าอยากขายทุเรียนให้พลเอกประยุทธ์ แต่เมื่อทราบราคาว่าลูกละ 12,000 บาท ถึงกับต้องพูดติดตลกกับแม่ค้าว่าทุเรียนหรือเพชร โดยชื่นชมแม่ค้าร้านทุเรียนว่าเป็นตัวอย่างสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ที่เริ่มต้นจากการเป็นเกษตรที่ติดหน้า ธกส.แต่ก็ประสปความสำเร็ว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ไปเดินตลาดนัดจตุจักร ระหว่างทางได้พูดคุยกับพนักงานร้านนวด จนมีการบริการนวิดให้พลเอกประยุทธ์ และกลุ่มผู้ค้าได้มาขอบคุณที่มีการลดราคาค่าแผงให้ ขณะเดียวกันมีผู้หญิงเสื้อดำมายืนชูสามนิ้ว และตะโกนว่าจะเลือก เศรษฐา และ พิธา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ ไม่กังวลกรณีผลการสำรวจความนิยมประชาชนอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีในหลายสำนัก ยังเป็นรองนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยยืนยันว่าจะหาเสียงอย่างเติ้มที่ และการันตีเรื่องนโยบายเงินสวัสดิการ เดือนละ 1,000 บาทของพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ผิดกฏกกต.และหากเปรียบกับของบางพรรคที่ให้ 10,000 บาท ก็ยังน้อยกว่า

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย หมายเลข 29 ก็ไปลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร กทม.หาเสียงทั้งที่ห้างสรรพสินค้าย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา ซึ่งมีประชาชนมาขอถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง โดยนายเศรษฐา ไม่เป็นห่วงกรณีกระแสพรรคก้าวไกลดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอยากให้พลเอกประยุทธ์ ฟังเสียงประชาชน ยืนยันว่านโยบายเงินดิจิทับไม่ผิดกฏหมาย

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย หมายเลข 32 พร้อมด้วย นางสาว ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ บุตรสาว และผู้สมัคร ส.ส.ฝั่งธนบุรี ลงพื้นที่หาเสียงตลาดน้ำตลิ่งชัน ได้รับคำอวยพรขอให้เป็นนายกรัฐมนตรี และเลือกพรรคไทยสร้างไทยอย่างแน่นอน 100% โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จะผลักดันให้ฝั่งธนฯมี "Canal town" เพื่อเป็นเป้าหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และจะสร้างรายได้ให้ชาวฝั่งธนไม่ต่ำกว่าปีละ 50,000 ล้านบาท และนำทีมผู้สมัคร ขึ้นรถแห่และปราศัยกับประชาชนด้วย