'พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์' นำทัพเสรีรวมไทยลุยสนามเลือกตั้ง แนะ 'บิ๊กตู่' ถอนตัว เพราะ 8 ปี มากเกินพอแล้ว

ในจำนวนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย นอกจากพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และ พรรคประชาชาติ ที่มีฐานสำคัญในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคเสรีรวมไทย เป็นพรรคเล็ก ที่มี ส.ส.10 คน และมีจุดเด่นในการตรวจสอบการเมือง อยู่ที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวช จนได้ฉายา มือปราบสภาฯ และยังมีชื่อติดโพลนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนจะเลือก ซึ่งพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เชื่อมั่นว่า จะเป็นตัวเลือกสำคัญ แต่ยืนยันจะไม่ร่วมกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มองว่าเป็นเรื่องยากที่จะชนะเลือกตั้งได้ จึงเสนอให้พลเอกประยุทธ์ ถอนตัวจากการเลือกตั้ง


พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในวัย 75 ปี ยังคงเดินหาเสียงตามตลาด แจกใบปลิว แนะนำตัวกับประชาชนด้วยตัวเอง เป็นสไตล์การหาเสียง ตั้งแต่การเลือกตั้ง 2562 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว ที่ทำให้พรรคเสรีรวมไทย ชนะเลือกตั้ง กว่า 8 แสน 2 หมื่นคะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 10 คน แต่ในการเลือกตั้ง 2566 ต้องเลือกตั้งแบบัตร 2 ใบ พรรคเล็กอย่างพรรคเสรีรวมไทยอาจต้องเสียเปรียบ แต่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ ยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขต 400 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่มี พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี


สำหรับจุดยืนพรรคเสรีรวมไทย ยืนยันอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยที่พร้อมจับมือจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ยอมรับร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สวรรณ ได้ ซึ่งไม่ใช่ยอมรับโดยตรง แต่เปิดทางไว้กรณีหาก พรรคเพื่อไทยต้องจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ


พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ฝากไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ลงเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ท่ามกลางแนวโน้มที่จะแพ้ ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงแนะนำให้ถอนตัวก่อนจะลงสมัคร เพราะเป็นมา 8 ปีมากพอแล้ว


สำหรับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ที่หากยังจับมือกันเหนียวแน่นทั้ง พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย และประชาชาติ ต้องชนะเลือกตั้งรวมกันให้ได้ ส.ส.มากกว่า 250 ที่นั่งจึงจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ แต่หากจะเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีเสียงมากกว่า 376 เสียงให้ชนะ ส.ว. เช่นเดียวกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ หากจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ต้องมีเสียง ส.ส.มากกว่า 250 เสียง ไม่เช่นนั้นก็เป็นรัฐบาลเสียงข้างนอก ที่ยากต่อการบริหารประเทศ