ภท. เปิดที่ทำการใหม่ 34 ส.ส. จากหลายพรรคแห่ซบ

บรรยากาศของทางการเมืองของแต่ละพรรคการเมือง ยิ่งเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะวันนี้พรรคภูมิใจไทย เปิดว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค โดยมีนักการเมืองที่เคยสังกัดพรรคอื่นๆ มากรอกใบสมัครเป็นสมาชิกมากถึง 34 คน และคาดการณ์ว่า จะเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ส่วนนายอนุทิน ระบุว่าภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองใหญ่มานานแล้ว แต่จะทำงานการเมืองให้มั่นคงได้ ต้องไม่ใช่ทำงานเพียงลำพัง

บรรยากาศเปิดที่ทำการพรรคแห่งใหม่ ของพรรคภูมิใจไทยคึกคักไปด้วยนักการเมือง และสมาชิกพรรคกว่า 300 คน ที่เข้าร่วม นอกจากนี้ ยังมีผู้มากรอกใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพอยู่เป็นระยะ ในจำนวนนี้มีอดีตนักการเมืองจากพรรคอื่นๆมากรอกใบสมัครด้วย อย่างน้อย 34 คนแล้ว เช่น กลุ่มของพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นอดีต ส.ส.กทม. ประกอบด้วย นายจักรพันธ์ พรนิมิตร อดีตประธานภาค กทม.ของพรรคพลังประชารัฐ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ และนายอนุชา น้อยวงศ์ อดีตสส.พิษณุโลก เป็นต้น


นอกจากนี้ ยังมี ส.ส.กลุ่มตะวันตกของพรรคพลังประชารัฐ มากรอกใบสมัครพร้อมกัน 8 คน นำโดยนายสุชาติ อุตสาหะ อดีต ส.ส.เพชรบุรี

รวมถึงนางนันทนา สงฆ์ประชา จากพรรคประชาภิวัฒน์ ก็มารวมกลุ่มนี้ด้วย โดยกลุ่มดังกล่าว แถลงยืนยัน ว่าจะมีกลุ่มเพื่อนเนวิน ภาค 2 ทั้งจากพรรคฝ่ายค้านและรัฐบาล ทยอยเปิดตัวเพื่อมาร่วมงานด้วย ภายใน 1-2 วันนี้


ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกในวันนี้ และระบุว่าหัวหน้าและเลขาธิการพรรค พร้อมจะต้อนรับคนอื่นๆที่จะมาตามมาในอนาคต โดยยืนยันตอนนี้ ไม่มีการเซ็นชื่อล่วงหน้า แต่ต้องเกิดจากความพร้อมด้วย


นายอนุทิน ยังระบุว่าการลาออกของ ส.ส.37 คน ไม่ได้กดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภา แต่เป็นความพร้อมของแต่ละคน ที่จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย



นายอนุทิน ระบุว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคจะส่งผู้สมัคร ส.ส. ครบทุกเขต เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ และเมื่อถูกถามว่า ถ้าพรรคการภูมิใจไทยมีความมั่นคงแล้วจะดึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาร่วมด้วยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ทุกคนพร้อมจะทำงานให้บ้านเมืองด้วยความซื้อสัตย์ สุจริต และทำให้ประเทศชาติมั่นคง ซึ่งพรรคจะมั่นคงพรรคเดียวไม่ได้ แต่ต้องช่วยกันทั้งหมด



ค่ำวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานมหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ พร้อมระบุว่า การไปปฎิบัติราชการที่กรุงบรัสเซล สหราชอาณาจักรเบลเยี่ยม ทำให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นที่รู้จักและต้อนรับจากนานาชาติ โดยเฉพาะด้านแหล่งท่องเที่ยว และวัฒนธรรมของไทย ที่มีความหลากหลายและโดดเด่น


ช่วงหนึ่งที่นายกรัฐมนตรี เดินเยี่ยมชมบูธในงานมีประชาชนเข้ามาทักทาย และบอกรักลุงตู่ พร้อมกับให้กำลังใจ ระหว่างนั้นนายกรัฐมนตรี หันไปสอบถามทีมงานว่าอยู่ได้อีกกี่ปี ซึ่งทีมงานบอกว่าอยู่ได้อีก 2 ปี ส่วนผู้ร่วมงานได้ตอบกลับว่าจะอยู่เชียร์ต่ออีก 2 ปี และพลเอกประยุทธ ก็ระบุว่าถ้ารักกันจริง ก็อย่าทิ้งกัน



ขณะที่ความเคลื่อนไหวอีกด้าน วันนี้นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส. พรรคเพื่อไทย ร่วมกันยื่นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 159 และยกเลิกมาตรา 272 ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมี ส.ส. พรรคเพื่อไทยร่วมเข้าชื่อจำนวน 101 คน


ซึ่งนายแพทย์ชลน่าน ระบุว่าที่ผ่านมาได้พยายามยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จเพราะกติกาที่กำหนดในรัฐธรรมนูญมีส่วนทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้ ทั้งการใช้เสียงกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา และต้องได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว. 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง แต่พรรคเพื่อไทยไม่ย่อท้อ จึงยื่นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้ง


โดยสาระสำคัญ คือ การยกเลิกมาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว.250 คน มีส่วนเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่า หากปล่อยให้คงมาตรานี้ไว้จะเป็นปัญหาต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย


ส่วนมาตรา 159 ที่มานายกรัฐมนตรี ที่เพิ่มจากมาตรา 88 คือ ผู้สมควรเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีต้องถูกพรรคการเมืองเสนอชื่อ และพรรคการเมืองนั้นต้องได้เสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 หรือ 25 เสียง โดยพรรคเสนอให้คงที่มาตรา 88 แต่เพิ่มเติมที่มานายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. ของพรรคการเมืองด้วย