ท่าทีรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ

การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งสุดท้าย จะมีขึ้นในวันที่ 19-22 กรกฏาคมนี้ โดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยพรรคเพื่อไทย ประกาศ เปิดยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน มั่นใจว่าข้อมูลอภิปรายในครั้งนี้สามารถเอาผิดรัฐมนตรีได้ และหวังว่าการลงมติของ ส.ส.จะนำทางออกให้กับประเทศได้ ในขณะที่ นายกรัฐมนตรี ไม่กังวล โดยเฉพาะการย้ายฝั่งไปร่วมกับฝ่ายค้านของ พรรคเศรษฐกิจไทย นำโดย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เพราะมั่นใจในเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล

การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 กรกฏาคม โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านได้กำหนดตัวรัฐมนตรี ที่จะถูกอภิปรายไว้ 11 คน เริ่มที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

และ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านจะแบ่งสัดส่วนรัฐมนตรีที่จะอภิปรายไว้ในแต่ละพรรค วันแรกจะเริ่มที่นายอนุทิน นายศักดิ์สยาม และนายจุรินทร์ ส่วน พลเอกประยุทธ์ จะเน้นหนักไปในช่วงวันสุดท้าย

ซึ่งพรรคเพื่อไทย ได้แถลงความพร้อมยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน นำโดย นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้วเน้นย้ำว่าเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ที่จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง โดยพรรคเพื่อไทยมั่นใจในประเด็นที่จะมาอภิปราย สามารถยื่นเรื่อง ต่อ ปปช.เพื่อเอาผิดกับผู้ทุจริตได้ และได้เปิดกลไกการมีส่วนร่วมผ่านช่องทาง LINE OA เพื่อไทย @pheuthai เป็นต้น

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า กรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจตลอด 4 วัน รัฐบาลจะได้เวลา18 ชั่วโมง ซึ่งรวมประธานและครม.แล้ว ส่วนฝ่ายค้านได้เวลาเต็มที่45 ชม. ซึ่งเวลาทั้งหมดนี้พรรคร่วมรัฐบาลได้จัดสรรค์ให้กับฝ่ายค้านแล้วตามความเหมาะสม

ส่วนประเด็นร้อนที่หลายคนจับตาว่า ร้อยเอกธรรมรัตน์พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่เพิ่งประกาศตัวจะขอมาทำงานกับฝ่ายค้าน จะได้ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจกับฝ่ายค้านหรือไม่นั้น นายสุทิน เปิดเผยว่า หากพร้อมจะอภิปราย วิปฝ่ายค้านก็พร้อมจะให้เวลา โดยทางพรรคเสรีรวมไทย โดยพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ เตมียเวศ ก็ประกาศมาแล้วด้วยว่าพร้อมให้เวลาอภิปรายด้วย


ส่วนท่าทีของพลเอกประยุทธ์ วันนี้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีการเตรียมความพร้อมการอภิปราย ที่นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่าชี้แจงได้ทุกประเด็น ไม่ม่ความกังวลแรงกระเพื่อมจากพรรคเล็ก เพราะที่ผ่านมาทำงานด้วยจิตใจอันบริสุทธ์ มีเป้าหมายเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็รับได้ทุกอย่าง รวมถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ส่วนตัวให้ความมั่นใจพลเอกประวิตรมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา และต่างคนต่างไว้ใจซึ่งกันและกัน

ขณะที่นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ไม่กังวลกรณีพรรคเศรษฐกิจไทย โดยร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศถอนตัวไปร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน เพราะมั่นใจใน ดีเอ็นเอ ของ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยยังเป็นฝั่งรัฐบาล ที่เชื่อว่า พลเอกประวิตร จะพูดคุยได้ รวมถึงเสียงของพรรคเล็กก็ไม่ได้ยืนยันหนักแน่นว่าจะโหวตคว่ำรัฐบาล

ด้านพรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมเตรียมพร้อม ซึ่งมี รัฐมนตรีถูกอภิปราย 3 คน ทั้งนายจุรินทร์ หัวหน้าพรรค นายจุติ และ นายนิพนธ์ ทั้ง 3 คน ยืนยันว่าพร้อมชี้แจง ทุกคนต้องเตรียมตัว และไม่วิตกเรื่องผลคะแนนที่อาจแตกต่างกัน โดยเฉพาะภายในพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาก็มีเสียงแตก

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เปิดเผยว่า ได้ปฏิเสธที่จะยกมือสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ ตามที่พลเอกประวิตร ได้ขอร้อง เพราะถือว่าพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นฝ่ายค้าน ไม่ใช่รัฐบาลแล้ว แต่พรรคยังสนับสนุนการทำหน้าที่ของพลเอกประวิตร เพราะยังไม่เห็นข้อบกพร่องและการทุจริตใด ๆเกิดขึ้น

ในขณะที่คะแนนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล ปัจจุบัน มี 253 เสียง หลังตัดเสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย ไป 16 เสียง ทำให้ฝ่ายค้านมีอยู่ 224 เสียง รวม ส.ส.ที่มีอยู่ 477 เสียง ห่างกันอยู่ 29 เสียง ซึ่งในส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน เป็นที่ทราบกันดีว่ามีส.ส.ที่เตรียมย้ายไปอยู่พรรครัฐบาล ทั้งในส่วนพรรคเพื่อไทย และก้าวไกล รวมแล้วกว่า 10 เสียง ที่มีสัดส่วนไม่น้อยกว่าพรรคเล็กร่วมรัฐบาล ที่มีการจับตาว่าจะย้ายมาอยู่ฝั่งฝ่ายค้านกับร้อยเอกธรรมนัส หรือไม่