เลือกตั้งและการเมือง

รัฐสภา คว่ำสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 100 กลับไปใช้หาร 500

โดย pattraporn_a

6 ก.ค. 2565

147 views

จับตา การประชุมพิจารณาร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งวันที่สอง ลุ้นบทสรุปสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าจะหารด้วย 100 หรือ 500


(6 ก.ค.) ที่ประชุมรัฐสภา เห็นด้วยให้ใช้สูตรคำนวนหาร 500 สำหรับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามที่มีการขอแปรญัตติ แม้กรรมาธิการเสียงข้างมากจะเห็นด้วยให้ใช้สูตรหาร 100 ทำใหนายไพบูลย์ นิติตะวัน ยืนยันว่าจะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทย ต่างแสดงความผิดหวัง ที่มีการปล่อยให้นำสูตรหาร 500 เข้ามาในชั้นกรรมาธิการและผ่านความเห็นของรัฐสภา และสุดท้ายต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตัดสิน


การประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.ในวาระที่ 2 เข้มข้นในมาตรา 23 เกี่ยวกับการดำเนินการคำนวณสัดส่วนเพื่อหาผู้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งมาจากการนำคะแนนรวมที่ทุกพรรคการเมืองได้รับจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อทั้งประเทศ หารด้วย 100 ผลลัพธ์ที่ได้ให้ถือเป็นคะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ที่จะนำไปหารคะแนนรวมจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับ ซึ่งเป็นไปตาม 4 ร่างที่เสนอทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคก้าวไกล และมติเสียงข้างมากของกรรมาธิการก็เห็นด้วย แต่เนื่องจากมีกรรมาธิการขอแปรญัตติให้หาร 500 ทำให้ต้องใช้เวลาอภิปรายนานถึง 4 ชั่วโมง


โดยในเวลา 21.50 น.นายพรเพชร พิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เริ่มให้มีการลงมติในมาตรา 23 ซึ่งสมาชิกรัฐสภา เห็นด้วยกับข้อเสนอที่กรรมาธิการได้แสดงความเห็นแปรญัตติ ด้วยคะแนน 382 เสียง ทำให้มีการลงมติว่าจะเห็นด้วยกับผู้ขอแปรญัตติในญัตติใด ซึ่งมีการขอถอนญัตติ จนเหลือญัตติของนายแพทย์ ระวี มาศฉมาดล ที่เสนอให้ใช้สูตรหาร 500 และในการลงมติ สมาชิกรัฐสภา เห็นด้วย 354 เสียง สมาชิกรัฐสภา เห็นด้วย คณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก 577 ไม่เห็นด้วย 162 เสียง กับญัตติ ของนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่เสนอใช้สูตร 100 ก่อนที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 22.15 น.


สำหรับประเด็นสำคัญในการอภิปรายมุ่งไปที่ประเด็นที่มีการเสนอสูตรหาร 500 กลับเข้ามาพิจารณาอีก โดยนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต้องสอบถามกรรมาธิการว่าปล่อยให้มีกระบวนการแปรญัตติที่ขัดหลักการและเหตุผลกับกฏหมายทั้ง 4 ฉบับ ที่ให้คำนวณคะแนนสัดส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อให้สัมพันธ์โดยตรงกับคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับเลือกตั้งรวมกันทั้งประเทศ ซึ่งต้องหาร 100 การเสนอให้หาร 500 จึงขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ


ตรงกับ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่ตั้งข้อสังเกตุว่า สูตรหาร 500 เป็นไปตามคำสั่งใคร ถือเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตย ที่พรรคเพื่อไทยจะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย


ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า กรรมาธิการเสียงข้างมาก เห็นชอบให้ใช้สูตรหาร 100 ที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องไปพิสูจน์ที่ศาลรัฐธรรมนูญต่อไป


ในส่วนพรรคก้าวไกล ทั้งนายปดิพัทธ์ สันติภาดา อภิปรายยืนยันการใช้สูตรหาร 100 เป็นระบบคู่ขนานที่เหมาะสมแล้ว จึงไม่สามารถเอาสูตรหาร 500 มาใช้ได้ ถ้าปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ ก็อาจบอกได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ทำระบบเลือกตั้งได้มั่วที่สุดในประวัติศาสตร์


ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม ยืนยันว่า พรรคก้าวไกล ยืนยันตามหลักการที่เสนอสูตรหาร 100 แม้ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจทำให้พรรคก้าวไกลเสียเปรียบได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับการมาปรับเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองบางพรรค และน่าเสียดายที่สุดท้ายแล้ว คนชี้ขาดว่าจะใช้วิธีเลือกตั้งแบบใดไม่ใช่รัฐสภา แต่กลับกลายเป็นศาลรัฐธรรมนูญ


ในขณะที่กรรมาธิการเสียงข้างน้อย ทั้ง นายแพทย์ ระวี มาศมาดล ส.ส.พรรคพลังธรรมใหม่ และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ในฐานะกรรมาธิการ แถลงชี้แจงเหตุผลในการขอแปรญัตติให้เป็นสูตร 500 ที่ยืนยันว่า การหารด้วย 500 คือการคำนวณจำนวน ส.ส.พึงมี และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นคะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส.พึงมี แต่ละคน ซึ่งเป็นตรงตามเจตนารมณ์ของมาตรา 91 แห่งรัฐธรรมนูญ


ตลอดทั้งวันมีการแถลงข่าวไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอสูตร 500 ตามที่มีรายงานข่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลว่าเห็นด้วยจะให้ใช้สูตรหาร 500 จนมีท่าทีมาจากพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเห็นด้วยให้ใช้สูตร 500 ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ต่างยืนยันที่จะให้ใช้สุตร 100 ที่เชื่อว่าถูกต้องตามกติกาแล้ว และมองว่าเป็นความพยายามที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยเสียเปรียบในการเลือกตั้ง ในขณะที่พรรคการเมืองเล็ก ต่างเห็นด้วยให้ใช้สูตร 500 โดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ แม้จะเห็นว่าจะได้เปรียบให้ใช้สูตร 500 แต่จะขัดรัฐธรรมนูญ จึงของดออกเสียง


นอกจากนี้ รัฐสภาได้มีมติ เห็นชอบตามมาตรา 6 ที่ให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยให้ใช้คนละหมายเลข เป็น 2 ใบ สองหมายเลข ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอที่ให้ใช้สองบัตรหมายเลขเดียว

คุณอาจสนใจ

Related News