เลือกตั้งและการเมือง
เลขาสภาฯ เผยแรงบันดาลใจสร้างโรงหนัง 4D ในรัฐสภา เพราะอยากให้ผู้เยี่ยมชม "กรี๊ด" ประทับใจไม่รู้ลืม
โดย panisa_p
8 พ.ค. 2568
170 views
เรื่องที่สภาของบประมาณมาปรับปรุงแต่งเติมรัฐสภา ยังเป็นเรื่องร้อน วันนี้คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองพิจารณาเรื่องนี้ โดยเชิญเลขาธิการสภาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง บรรยากาศเป็นไปอย่างเข้มขึ้นตลอดการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง
คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน มี สส.ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ จากพรรคประชาชน เป็นประธานคณะกรรมาธิการ วันนี้ได้เชิญ ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการของบประมาณ เพื่อปรับปรุงแต่งเติมรัฐสภามาชี้แจงต่อที่ประชุม และเชิญ สส.และ สว.ที่สนใจมาร่วมสังเกตการประชุม และร่วมซักถามด้วย โดยมีการถ่ายทอดสดการประชุม และเปิดให้สื่อมวลชนเข้าฟังได้ตลอด
บรรยากาศเป็นไปอย่างเข้มข้น ใช้เวลาประชุมเกือบ 3 ชั่วโมงครึ่ง
คุณพริษฐ์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการ ได้กำหนดประเด็นในการพิจารณาว่า จะพิจารณาใน 5 โครงการที่น่าสนใจ จาก 15 โครงการที่สภาของบประมาณ ได้แก่
-โครงการสร้างอาคารที่จอดรถรัฐสภาเพิ่มเติม 1,529 ล้านบาท
-โครงการพัฒนาระบบภาพยนต์ 4D งบ 180 ล้าน
-โครงการปรับปรุงศาลแก้ว 2 หลัง 123 ล้านบาท
-โครงการปรับปรุงห้องประชุมงบประมาณ 118 ล้าน
-และ โครงการออกแบบและตกแต่งฉากหลังบัลลังก์ประธานสภา 133 ล้าน
ที่น่าสนใจและถูกพูดถึงกันมาก คือ ช่วงการพิจารณาเรื่องระบบหนัง 4D ซึ่งนายทิตวัจน์ ณรงค์แสง ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานสารนิเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนฯ ได้เริ่มต้นชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องผิดฝาผิดตัว และมีการสื่อสารที่ผิด จริงๆ คือโครงการปรับปรุงห้องสารสนเทศ สำหรับต้อนรับผู้มาเยี่ยมรัฐสภา แต่มีการไปเขียนชื่อโครงการว่าจะสร้างสื่อ 4D
อย่างไรก็ตาม คุณพริษฐ์ ก็ถามย้ำว่าทำไมต้องเป็น 4D ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูง ขอให้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ แต่ยังไม่ทันที่ทาง ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานสารนิเทศ จะตอบว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ เลขาธิการสภาฯ ก็ขอชี้แจงแทรกขึ้นมา และถือว่าเป็นไฮไลท์ของเรื่อง 4D วันนี้ เพราะท่านเลขาฯ ได้พูดถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นว่าเป็นเพราะทางคณะกรรมาธิการกิจการสภาได้ไปงานที่สตูดิโอของ กฟผ. แล้วได้ไปดูหนัง 4D วันนั้นมีนักเรียนไปเยี่ยมชมด้วย ดูหนังเกี่ยวกับเรื่องทะเลมีแมงกระพรุน และมีเสียงกรี๊ด เป็นที่ถูกใจวัยรุ่น ท่านจึงมาเปรย ๆ กับฝ่ายประชาสัมพันธ์ ว่า อยากให้มีการมากรี๊ดที่สภาบ้าง ซึ่ง สส.ไอติม ก็บอกว่า ไม่สนใจว่าแรงบันดาลใจคืออะไร แต่คำถามคือความเหมาะสมในการใช้งบประมาณ
นายทิตวัจน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานสารนิเทศ จึงชี้แจงอีกครั้ง ดดยสรุป คือ บอกว่าเรื่อง 4D อาจไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะเราอาจไปดูในโรงหนังได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไปดูหนัง 4D ได้ และบอกว่าเด็ก ๆ ที่มาดูหนัง 4D ที่สภาอาจจะได้เป็นแรงบันดาลใจในการมาเป็น สส.
ขณะที่หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯ ที่ได้รับเชิญมาร่วมสังเกตการประชุมด้วย ย้อนว่า ถ้าจะอ้างประชาชน คิดว่าโครงการนี้จะโดนด่ามากกว่าเรื่องที่จอดรถด้วยซ้ำ และบอกว่า 4D ที่ผู้มาเยี่ยมชมสภาต้องการ น่าจะเป็นการได้เจอ สส.ตัวเป็น ๆ มากกว่า
ส่วนประเด็นเรื่องสร้างที่จอดรถใหม่ เป็นเรื่องที่ประชุมใช้เวลาซักถามกันนานที่สุด คือ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง คนหลักที่ซักก็คือ ประธานคณะกรรมาธิการ (สส.ไอติม) ซึ่งก็มีการถามตั้งแต่
-เรื่องความจำเป็นที่ต้องสร้างที่จอดรถเพิ่ม
-ถ้าที่จอดรถไม่พอจริง ๆ ใครต้องรับผิดชอบ เพราะก็ต้องมีการวางแผนเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนก่อสร้างรัฐสภา
-มีการคำนวณที่จอดรถอย่างไร
-ทำไมต้องสร้างใต้ดิน ซึ่งใช้งบประมาณจำนวนมาก
-จนถึง เรื่องที่มีการจ้างบริษัทออกแบบสร้างที่จอดรถแล้ว เอางบมาจากไหน เพราะในงบ 67-68 ไม่มีโครงการนี้
นายอรุณ ลายผ่องแผ้ว ผู้อำนวยการสำนักรักษาความปลอดภัย ชี้แจง โดยสรุปคือ ตามข้อบัญญัติของกทม. พื้นที่ขนาด 120 ตารางเมตร ที่จอดรถ 1 คัน สภาซึ่งมีพื้นที่ 4 แสนกว่าตารางเมตร ต้องมีที่จอดรถประมาณ 3,500 คัน แต่ตอนนี้มีเพียง 1,935 คัน จึงต้องสร้างเพิ่ม
ทางสภาเคยจัดหาและแก้ไขมาหลายวิธีคือการจัดหาพื้นที่บริเวณนอกรอบเพื่อเป็นสถานที่จอดรถชั่วคราว ซึ่งมีความเป็นไปได้ค่อนข้างยาก จึงจะใช้พื้นที่ด้านหน้าอาคารรัฐสภา 21 ไร่ เจาะลงไปที่ด้านล่าง ความลึก 11 เมตร ซึ่งจะได้ใช้พื้นที่อย่างเต็มศักยภาพจอดรถได้สูงสุด 4,600 คัน
ส่วนการคำนวณจำนวนรถ ก็มาจากการประมาณการ และยอมรับว่า มีการโอนงบเหลือใช้ของสภามาใช้ในการจ้างบริษัทออกแบบที่จอดรถใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เซ็นสัญญา เนื่องจาก 2 บริษัทที่ไม่ได้รับการคัดเลือกได้ยื่นอุทธรณ์
ขณะที่ หมออ๋อง ถามกลับอย่างดุเดือดว่า ตกลงฝ่ายการเมืองใช่ไหมที่ต้องการสร้างที่จอดรถ เป็นดำริของประธานสภาฯ หรือ ของใคร เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องมาตอบเรื่องที่น่ากระอักกระอ่วนใจเช่นนี้
เรื่องศาลาแก้ว นายเจษฎา พรหมย้อย ชี้แจงว่า เป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านหน้ารัฐสภา เพื่อให้ผู้ที่จะเข้ามาในอาคารรัฐสภาได้ใช้พื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะจะใช้เป็นสถานที่ต้อนรับผู้นำประเทศ- ทูตานุทูต ต้อนรับอาคันตุกะ ที่มาเยี่ยมอาคารรัฐสภา โดยจะเป็นพิธีการ และเป็นสถานที่จัดเลี้ยง เป็นเหมือนเรือนชานคอยต้อนรับแขกที่มาเยือน
หลังฟังจบ คุณพริษฐ์ถึงกับบอกว่า มองหาความเชื่อมโยงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่ออก แต่ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องการปรับปรุงภูมิทัศน์พอจะเข้าใจได้
ขณะที่ สว.สุนทร พฤกษพิทักษ์ ที่มาร่วมประชุมด้วย อธิบายว่า ศาลาแก้วถูกออกแบบให้มีม่านผ้าใบซึ่งฉาบด้วยวัสดุกันความร้อน ทำให้พอใช้งานได้ อาจจะไม่เย็นเหมือนแอร์ และสถาปนิกก็เห็นว่าไม่ควรติดแอร์ เพราะเป็นศาลา ซึ่งตนก็เห็นเช่นนั้น ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า ตลอดการชี้แจง จะมีประโยคที่ผู้ชี้แจงพูดเหมือนกันในหลายครั้ง คือ ผมเพิ่งมาอยู่ ผมเพิ่งมารับตำแหน่ง ไม่ทราบเรื่องก่อนหน้านี้
