สรุปข่าว
เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 11 ต.ค.66 ถกปมเงินจิดิทัล-ส่งเครื่องบินช่วยคนไทยในอิสราเอล-รวบเทศกิจรีดสินบน
11 ต.ค. 2566
42 views
1.นายกฯ-รัฐบาล เร่งช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล
นายกเศรษฐา พยายามเต็มที่ช่วยคนไทยในอิสราเอล ย้ำไทย ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เร่งประสานทุกฝ่ายช่วยเหลือตัวประกัน ปานปรีย์เผย คุยรัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลแล้ว หาทางออกช่วยเหลือตัวประกัน ชาวไทยโดยเร็ว มองเงื่อนไขฮามาสไม่กระทบแรงงานไทย เหตุไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
2.กต.เผยอิสราเอลไฟเขียวส่งเครื่องบินช่วยคนไทยกลับประเทศ
กต.เผยนำคนไทยกลับประเทศล็อตแรก 12 ตุลา มีกระทรวงแรงงานจ่ายเงินเยียวยาทันทีที่แตะสนามบิน เผยอิสราเอล อนุญาตให้กองทัพอากาศนำ Airbus 340 รับผู้โดยสาร 140 คน กลับไทย 15 ตุลานี้ ยอดเสียชีวิตเป็น 18 เจ็บ 9 ถูกจับ 11 ส่วนคนประสงค์กลับไทยพุ่งเป็น 3,862 คน
ขณะที่แม่คนไทยในอิสราเอลร่ำไห้ทำได้แค่ปักธูปขอวิญญาณพ่อที่เสียชีวิต คุ้มครองลูกชายชาวนครพนมวัย 40 ปี แรงงานไทยที่อยู่ในภาพถูกกลุ่มก่อการร้ายจับตัว หลังผ่านไป 3 วัน ยังไม่รู้ชะตากรรม วอนช่วยเหลือให้มีชีวิตกลับบ้าน
3.คุก 6 เดือน 10 วัน ป้านา บ้านโป่ง ตะโกนด่า พล.อ.ประยุทธ์
ศาลแขวงราชบุรี พิพากษาจำคุก ป้านา บ้านโป่ง ที่เคยตะโกนด่าลุงตู่ เมื่อเดือนมีนาคม โทษคุก 6 เดือน 10 วัน เจ้าตัวใช้เงิน 3 หมื่นกองทุนราษฎรประสงค์ ประกันตัว ก่อโกนผมหน้าศาลแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
4.บุกรวบเทศกิจ รีดสินบนแลกไม่ตรวจไซต์งานก่อสร้าง คา สนง.เขตดุสิต
ปปป.บุกจับ เทศกิจวัย 59 เรียกรับเงินผู้รับเหมา คาลานจอดรถสำนักงานเขตดุสิต พร้อมของกลาง 6 พันบาท หลังผู้เสียหายร้องถูกเรียกเงินรายเดือน แลกกับการไม่ตรวจไซต์งานก่อสร้าง ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนักเร่งขยายผล ด้านตัวแทนเขตเร่งตั้งกรรมการสอบทันควัน
5. หนุ่ม 18 ร้องถูกชายต่างชาติล่วงละเมิดทางเพศในห้องน้ำ รพ.
เยาวชนชาย 18 ร้องสายไหมต้องรอด ถูกชายชาวต่างชาติล่วงละเมิดทางเพศคาห้องน้ำโรงพยาบาลดังย่านสุขุมวิท แจ้งตำรวจถูกถามกลับว่าสมยอม หวั่นคดีไม่คืบ
ด้านเอกภพ จี้ ผู้กำกับสน.ลุมพินี เร่งนำตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี หวั่นหลบหนีออกนอกประเทศ สอบข้อเท็จจริงตำรวจพูดกล่าวหาผู้เสียหาย
เรื่องเล่าการเมือง
-จุลพันธ์ เผยรับเงินจิดิทัลต้องลงทะเบียน คนรวยอาจไม่ได้
เรื่องนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทยังเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง เมื่อวาน รมต.จุลพันธ์ เปิด 2 ประเด็นใหม่ คือ ต้องมีการลงทะเบียน และ อาจมีบางกลุ่มถูกตัดออก จากเดิมที่บอกจะให้ทุกคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ เมื่อวาน ซึ่งนอกจากจะยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการต่ออย่างแน่นอน คุณจุลพันธ์ ยังเปิดประเด็นใหม่ที่สำคัญ 2 อย่าง คือ
หนึ่ง จะมีกระบวนการในการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าร่วมโครงการ โดยหากประชาชนคนใดเคยร่วมลงทะเบียนในโครงการอื่นของรัฐแล้ว ก็ไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่ม แค่ยืนยันสิทธิ์เท่านั้น ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าสู่กระบวนการลงทะเบียน จำเป็นต้องลงทะเบียนยืนยันตัวตน หากใครไม่อยากรับ ก็ไม่ต้องลงทะเบียน
อีกประเด็น คือ เรื่องผู้ที่จะได้รับเงินในโครงการนี้ ที่มีข้อเสนอให้ตัดบางกลุ่มออก เอาไว้เฉพาะกลุ่มเปราะบาง นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตอนนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะตัดคนรวยออกหรือไม่ แต่ก็ต้องดูว่าจะใช้เกณฑ์อะไรในการพิจารณาว่าใครคือคนรวย ซึ่งต้องเป็นหลักเกณฑ์ที่เป็นวิทยาศาตร์...ตอนนี้กำลังดูอยู่ จึงอาจจะมีบางกลุ่มที่ถูกตัดออกไปตามความเหมาะสม แต่สุดท้ายการตัดสินใจอยู่ที่คณะกรรมการชุดใหญ่ ทั้งนี้ก็ต้องยึดเป้าหมายหลักของโครงการ คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ
-อุ๊งอิ๊งฝากรัฐบาลทำนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นให้สำเร็จ
ในการประชุมพรรคเพื่อไทยเมื่อวาน ก็ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องโครงการแจกเงินดิจิทัลด้วย ซึ่งอุ๊งอิ๊ง ก็ได้ฝากให้รัฐบาลทำนโยบายนี้ให้สำเร็จ
ช่วงเย็นในการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย มีการจัดเสวนาเรื่องโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เข้าร่วมด้วย
ช่วงต้นได้เปิดให้ สส. สอบถามถึงข้อสงสัย หรือปัญหาที่พี่น้องประชาชนอยากรู้เกี่ยวกับโครงการดังกล่าว จากนั้นนายจุลพันธ์ ได้ร่ายยาวชี้แจงละเอียดยิบ ยืนยันเดินหน้าโครงการ ส่วนความเห็นต่างบางส่วนอาจเกิดจากมุมมองทางการเมืองที่ต้องการโจมตีพรรคเพื่อไทย จึงขอให้ สส. ช่วยชี้แจงประชาชนด้วย
จากนั้น น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวว่า จากที่ สส.ลงพื้นที่และพูดคุยกับประชาชน ไม่ได้มีข้อที่บอกว่าควรทำหรือไม่ควรทำ แต่ถามมากกว่า ว่า จะได้เมื่อไหร่ ฉะนั้นประชาชนในพื้นที่กำลังรอคอยนโยบายนี้อย่างใจจดใจจ่อ
ซึ่งเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ได้ถูกกระตุ้นในภาพรวมและภาพใหญ่แบบนี้มานานแล้ว ถามว่าใหญ่แค่ไหนก็ใหญ่เท่าที่ว่าหากเราทำสำเร็จต่างชาติจะดูเราเป็นตัวอย่างด้วยซ้ำว่าเราทำได้อย่างไร / จากนั้นคุณอุ๊งอิ๊งได้ฝากรัฐบาลให้ทำนโยบายนี้ให้สำเร็จ
-พรหมมินทร์ ไม่เปลี่ยนกลุ่มแจกเงินดิจิทัล ลั่น ปชช. 99% เป็นหนี้
แกนนำพรรคเพื่อไทยอีกคนที่ออกมายืนยันการเดินหน้าโครงการ คือ นพ.พรหมมินทร์ และย้อนข้อเสนอที่ให้แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบางว่า ตอนนี้ประชาชน 99 เปอร์เซ็นต์เป็นหนี้แล้ว ถือว่าเปราะบางหรือยัง
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีนักวิชาการออกมาคัดค้านนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่า นโยบายนี้เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในนโยบายทั้งหมดของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังขยับช้า ๆ
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่จะเปลี่ยนเป้าหมายให้เฉพาะกลุ่มเปราะบาง นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้ประชาชนกว่า 99% เป็นหนี้ไปแล้ว อย่างนี้แสดงว่าทุกคนเปราะบางหรือยัง
เมื่อถามว่า จะมีการทบทวนการจ่ายให้คนอายุ 16 ปีทุกคนหรือไม่ เพราะบางคนเป็นลูกคนรวย นพ.พรหมินทร์ ย้อนถามว่า "จะเปลี่ยนทำไม" รัฐธรรมนูญกำหนดให้ทุกคนเท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้นสิทธิเท่ากัน แต่คนเลือกไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร ส่วนคนที่จะใช้ก็ถือว่าเป็นสิทธิ
ยืนยันว่ารัฐบาลคำนึงถึงเรื่องวินัยการเงินการคลังเป็นสำคัญ "ที่ผ่านมารัฐบาลไทยรักไทยทำให้ประเทศที่เป็นหนี้สินและประเทศเกือบล้มละลายกลับมาคืนหนี้ได้ก่อนกำหนด 2 ปี และสร้างรายได้จนประเทศพ้นวิกฤต"
เมื่อถามว่า นักวิชาการออกมาเป็นห่วงจะซ้ำรอยนโยบายจำนำข้าว นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า รัฐบาลที่ผ่านมา กู้เงินประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท เราใช้ 5 แสนล้านบาท และใช้อย่างระมัดระวัง
-สว.อัดแจกเงินดิจิทัล เปรียบรักษาคนไข้ด้วยยาพิษเคลือบน้ำผึ้ง
ขณะที่การประชุมวุฒิสภาเมื่อวานนี้ ก็มี สว.ลุกขึ้นหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเสนอให้รัฐบาลยกเลิกโครงการ บอกเป็นนโยบายที่เป็นปัญหา ไม่ถูกกาละเทศะ เปรียบเหมือนหมอให้ "ยาพิษเคลือบน้ำผึ้ง" กับคนไข้
สว.ที่อภิปรายดุเดือดที่สุดน่าจะเป็น คุณถวิล เปลี่ยนศรี โดยระบุว่า นโยบายแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาลเป็นนโยบายที่เป็นปัญหาและไม่ถูกต้องด้วยกาละเทศะ เพราะภาวะเศรษฐกิจไทยไม่อยู่ในภาวะที่ต้องกระตุ้นมากนัก และควรเน้นเสถียรภาพมากกว่าการสร้างภาระหนี้สินให้รัฐในอนาคต
พร้อมมองว่า การที่รัฐบาลยืนยันทำโครงการ โดยอ้างว่าเป็นความต้องการของประชาชน เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็บอกว่า หากสิ่งใดเป็นพิษต้องไม่ตามใจประชาชน “นายกฯ เหมือนหมอที่รักษาไข้ราษฎร หมอให้ยาพิษเคลือบน้ำผึ้งกับคนไข้ไม่ได้ จึงหวังว่านายกรัฐมนตรี จะรับฟังเสียงท้วงติง
ขณะที่ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สว. ระบุว่า ไม่เห็นด้วยที่จะแจกเงินแบบเหวี่ยงแหทุกกลุ่ม เพราะเป็นนโยบายที่ไม่สร้างความเป็นธรรม และทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง / ส่วนที่รัฐบาลบอกว่าโครงการนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจ นพ.เจตน์ บอกว่า "เป็นความเลื่อนลอย เป็นความคาดหวังเกินจริง"
นอกจากนี้ สว.อีกคนที่ลุกขึ้นหารือ คือ คุณเฉลิมชัย เฟื่องคอน โดยแสดงความไม่เห็นด้วยเช่นกัน มองว่าสุ่มเสี่ยงขัดกับรัฐธรรมนูญ และกฎหมายวินัยการเงินการคลังของรัฐ / จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบ ก็ตั้งคำถามว่าหากทำผิดพลาดใครจะรับผิดชอบ และให้ดูโครงการรับจำนำข้าวเป็นตัวอย่าง
-พรรคเป็นธรรม เปิดตัวรับหมออ๋อง ลั่นไม่ใช่สาขาก้าวไกล
ส่วน หมออ๋อง-ปดิพัทธ์ สันติภาดา เมื่อวานนี้แถลงข่าวเข้าพรรคเป็นธรรมเรียบร้อยแล้ว โดยหัวหน้าพรรคเป็นธรรม ยืนยันว่า ไม่ใช่สาขาพรรคก้าวไกล
เมื่อวานนี้ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 แถลงเข้าเป็นสมาชิกพรรคเป็นธรรม พร้อมกับนายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรค และนายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรค ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
นายปดิพัทธ์ ย้ำว่า ที่ตัดสินใจเข้าพรรคเป็นธรรม เพราะอุดมการณ์และแนวทางที่ใกล้เคียงกันมากที่สุดกับตอนที่ตนอยู่กับอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลและกล่าวขอบคุณทางพรรคเป็นธรรมที่รับตนเข้าพรรค ซึ่งการทำงานของตนจะต้องเผชิญกับความเสียดทานหลายอย่าง
ส่วนการเลือกตั้งคราวหน้าจะยังลงเลือกตั้งในนามพรรคเป็นธรรมต่อไปหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการตัดสินใจในระยะยาว เพราะตอนนี้เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นก่อน
ขณะที่นายปิติพงษศ์ บอกว่า เป็นนิมิตหมายดี ที่ได้นายปดิพัทธ์มาร่วมงาน และ ยืนยันว่าพรรคเป็นธรรมไม่ได้เป็นสาขาของพรรคก้าวไกล แต่เป็นพรรคประชาธิปไตยด้วยกัน “มีบ้านคนละหลัง กินข้าวคนละชาม แม้ข้าวชามของผมไม่อร่อยเท่าของพรรคก้าวไกล แต่ไม่ถึงขนาดเป็นข้าวคลุกน้ำปลา”
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ofNRw-gFuLA
แท็กที่เกี่ยวข้อง เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง ,เรื่องเล่าการเมือง ,ข่าวการเมือง ,สรุปข่าว