สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 21 พ.ย.65 ทอ.สั่งสอบเครื่องบินทุนจีน-เปิดฉากบอลโลก-กู้ร่างน้องมาวินสำเร็จ

โดย thichaphat_d

21 พ.ย. 2565

187 views

-ประเดิมฟุตบอลโลกคู่เปิดสนาม กาตาร์เจ้าภาพ พ่ายต่อเอกวาดอร์ 0-2 พิธีเปิดอลังการ ศิลปิน จองกุก วง BTS-ร็อบบี้ วิลเลียมส์ ร่วมร้องเพลงกระหึ่มสนาม ท่ามกลางกระแสนานาชาติแบน ปมติดสินบนจัดบอลโลกและละเมิดสิทธิมนุษยชน

-ช่องทีวีดิจิทัลยังวุ่น ตั้งคำถามแบ่งสัดส่วน ทั่วถึง-เท่าเทียม ตรงไหน หลัง ทรู24 คว้าสิทธิ์ถ่ายทอด พิธีเปิด-คู่เปิดสนามและได้เลือกคู่การถ่ายทอดก่อน  32  นัด ด้าน กกท.แจง พยายามทำให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้สนับสนุนกับทีวีดิจิทัลแล้ว รับมีการให้โควตาผู้สนับสนุนจริง แต่ไม่ได้เลือกคู่ถ่ายทอดก่อน โยน กสทช.หาทางออกความขัดแย้ง

-เร่งล่าตัวผัวโหด ใช้ปืนตบเมียขณะไลฟ์สดประจานอยู่กับหญิงอื่น ปืนลั่นใส่หัวดับ วงจรปิดจับภาพชัดหลังเกิดเหตุพากลุ่มเพื่อนขึ้นรถหลบหนี ด้านตำรวจเผยผู้ก่อเหตุมีประวัติยาเสพติด เป็นน้องชายมือปืนดัง ล่าสุดออกหมายจับแล้ว เชื่อยังกบดานอยู่ในพื้นที่ มั่นใจรวบได้แน่ หลักฐานมัดตัวแน่น

-กองทัพเรือ-กู้ภัย ทำสำเร็จ ใช้โดรนใต้น้ำผูกตะขอเกี่ยวเสื้อ ดึงร่างน้องมาวินขึ้นมาได้ อยู่ที่ความลึก 70.50 เมตร ที่เขื่อนศรีนครินทร์  สิ้นสุดการรอคอย 28 วัน กลับสู่ครอบครัวสำเร็จ ด้านทีมงานเผย ดีใจที่ทำสำเร็จชี้มีอุปสรรค์หลายอย่าง ทั้งความมืด ความลึก และฝนตก ทีมงานต้องทำงานแข่งกับเวลา ล่าสุดห้ามสื่อถ่ายภาพ รอแม่เก๋มายืนยันตัวตนก่อนส่งไปชันสูตร

-เร่งช่วยเหลือเหยื่อถูกสามีเอาน้ำมันราดจุดไฟเผา ผ่านมา 7 เดือนไร้การเยียวยา  กัน จอมพลัง ประสานอธิบดีกิจการสตรีและความรุนแรงในครอบครัว เข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ล่าสุดอาการยังน่าเป็นห่วงนอนติดเตียง จมน้ำเหลือง เสี่ยงมีภาวะติดเชื้อ  



เรื่องเล่าการเมือง

-ประเด็นร้อนที่ยังสะเทือนมาถึงฝ่ายการเมือง คือ กรณี "ทุนจีนสีเทา" ที่ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉกรณีเครื่องบินส่วนตัวของ "นายตู้ห่าว" ที่เชื่อมโยงถึงนักการเมือง ไปจอดอยู่ในพื้นที่ของกองทัพอากาศ ล่าสุดทางกองทัพอากาศมีการสั่งตรวจสอบแล้ว

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาแฉถึงเครื่องบินส่วนตัว เลขทะเบียน HS-HAO ของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งมี นายตู้ห่าว นักธุรกิจจีนเป็นกรรมการฯของบริษัท จอดอยู่ที่ Sunny604 ซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้าม ที่ศูนย์ฝึกการบินพลเรือน และต่อมาได้บินไปยังมีสนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายชูวิทย์ ระบุด้วยว่า เครื่องบินลำนี้ "นักการเมือง" เคยใช้ในการเดินทางไปหาเสียง

มีรายงานว่า ขณะนี้เครื่องบินลำดังกล่าวยังคงจอดซ่อมบำรุงเครื่องบินอยู่ที่โรงเก็บอากาศยาน ท่าอากาศยานหัวหิน ซึ่งเมื่อวานได้มีการส่งต่อภาพเครื่องบินลำดังกล่าวที่จอดในโรงซ่อมบำรุง ในสื่อสังคมออนไลน์ และ ในไลน์กลุ่มต่างๆ

และมีรายงานด้วยว่า กองทัพอากาศได้สั่งการให้ฝูงบิน 604 รายงานถึงกรณีที่เครื่องบินลำดังกล่าวมาใช้พื้นที่จอดว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการขออนุญาตจากศิษย์การบินพลเรือนชื่อ "โอ๋" สมาชิกรุ่นที่ 69 ซึ่งเป็นไปตามระเบียบที่อนุญาตให้ศิษย์การบินสามารถนำอากาศยานส่วนตัวที่มีการจดทะเบียนถูกต้องเข้ามาจอดได้ โดยศิษย์การบินคนดังกล่าว กำลังขออนุญาตเปลี่ยนชื่อเจ้าของเครื่องจากบริษัทฯ มาเป็นชื่อของตนเอง และ ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ส่งเรื่องไปที่หอบังคับการบินเพื่อไปที่สนามบินบ่อฝ้ายเพื่อทำการซ่อมบำรุง โดยมีนักบินชื่อ "โต้ง" เป็นผู้ขับ ตามที่นายชูวิทย์ กล่าวอ้างจริง

สำหรับ "โต้ง" จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 22 รุ่นเดียวกับ พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. / พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. / พล.อ.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. คนปัจจุบัน

นอกจากนั้น ยังเคยเป็นนักบินกองทัพอากาศฝูงบิน 601 ก่อนจะออกจากราชการไปอยู่สายการบินพาณิชย์ ปัจจุบันยังเป็นนักบินขับเครื่องบินส่วนบุคคล ส่วนเครื่องบินลำดังกล่าวโดยบริษัทซื้อต่อมาจากนักธุรกิจคนหนึ่ง



-การประชุมเอเปคจบไปแล้ว แต่ที่ยังเป็นประเด็นอยู่ คือ กรณีเหตุเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อวานคุณรังสิมันต์ โรม ออกมาเรียกร้องให้ตำรวจสอบสวนหาตัวผู้ที่ทำร้ายประชาชน และเรียกร้องไปถึงนายกรัฐมนตรีด้วย

นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงว่า กรณีการสลายการชุมนุมของกลุ่มราษฎรหยุด APEC เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม จากการลงพื้นที่พบว่าผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม 25 คน ได้รับบาดเจ็บเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะนายพายุ ดาวดิน ถูกยิงด้วยกระสุนยาง เข้าที่ดวงตา และแทบจะไม่มีโอกาสกลับมามองเห็นเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งที่สวมปลอกแขนชัดเจน

จึงเรียกร้องให้ตำรวจสอบสวนหาตัวผู้ที่ทำร้ายประชาชน เพราะมีความผิดทางอาญา ยกเลิกข้อกล่าวหาที่ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม และรัฐบาลต้องรับฟังประชาชน โดยเรียกร้องให้นายกฯ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง และในฐานะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ของสภาผู้แทนฯ จะนำกรณีการสลายการชุมนุมครั้งนี้ เข้าพิจารณาใน กรรมาธิการด้วย

ขณะที่ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงถึงเหตุเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมสอ ที่มีผู้บาดเจ็บว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบคลิปและภาพ ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับผู้บาดเจ็บทุกคน และหากผลการตรวจสอบ พบว่า ตำรวจปฏิบัติความรุนแรงจริง ก็จะต้องมีบทลงโทษตามขั้นตอน ส่วนการเยียวยาสื่อมวลชน ที่ได้รับบาดเจ็บ ก็เป็นไปตามมาตรการ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกด้วยว่า การควบคุมสื่อค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะสื่อมีจำนวนมาก ทำให้การดูแลจึงไม่ทั่วถึง แต่หลังจากนี้ จะต้องกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ รวมถึงจะหามาตรการ การทำงานระหว่างตำรวจกับสื่อ ให้มีความเข้าใจกันมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ที่สื่อจะได้รับบาดเจ็บ

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.แสดงความเสียใจ ต่อเหตุปะทะ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ยืนยัน กทม.พยายามทำดีที่สุด และหารือฝ่ายความมั่นคงแล้ว ไม่ได้ทำเพียงคนเดียว ในการจัดพื้นที่ลานคนเมือง ให้ประชาชนแสดงออกตามระบบประชาธิปไตย หากใครจะร้องเรียนให้ตรวจสอบตนเองมาที่กระทรวงมหาดไทยก็ยินดี และในวันนี้ (วันจันทร์) จะประชุมสรุปว่า มีอะไรต้องปรับปรุง เพื่อเป็นบทเรียนในการจัดงานอื่นๆครั้งต่อไป



-ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังจากนี้ บอกได้เลยว่าห้ามกะพริบตา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า การเมืองหลังจากนี้เป็นช่วงที่มีความอ่อนไหวในทุกประเด็น

นายจุรินทร์ ระบุว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม APEC การเมืองไทยจะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างเต็มตัว จะมีความอ่อนไหวมากขึ้นทุกสถานการณ์ ทั้งการทำงานของรัฐบาล รัฐสภา รวมถึงปัจจัยแวดล้อมภายนอก สามารถเป็นประเด็นได้ทั้งหมด เรียกว่าอ่อนไหวในทุกเรื่อง

และกระแสหนึ่งที่เกิดมาตลอดตั้งแต่ก่อนหน้าหนี้ คือ ประเด็นการยุบสภาหลังเอเปค เมื่อวาน ส.ส.รัฐบาล คือ นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเล็กในรัฐบาล ออกมาเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยุบสภาก่อนสิ้นปี 2565 เพราะมองว่า ส.ส.อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ควรยุบสภา เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจเลือกตัวแทนเข้ามาทำหน้าที่

และเห็นว่าจากนี้กฎหมายที่รัฐบาลเสนอ ก็ยากที่จะผ่านความเห็นชอบจากสภา โดยเฉพาะเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.พรรคเล็ก เพราะที่ผ่านมาถูกบีบ และถูกกดดันให้ยกมือด้วยมติวิปรัฐบาล แต่หลังจากนี้จะเข้าสู่โหมดเลือกตั้งแล้ว นายสุรทิน กล่าวว่า ไม่มีใครกลัวใคร ไปสู้กันในสนามเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม อีกประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาหลังจากนี้ คือ เรื่องการย้ายพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีกระแสว่าอาจจะย้ายไปเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีกระแสข่าวว่าจะมีความชัดเจนหลังประชุมเอเปค

ล่าสุด นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังคงบอกว่า ยังไม่ได้สอบถามเรื่องนี้กับนายกฯ หากหลังจากนี้นายกฯเรียกไปหารือ ก็จะลองสอบถามท่านนายกฯดู

ส่วนความเคลื่อนไหวของนายกฯวันนี้ ท่านได้ยกเลิกภารกิจเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้า แต่ก็ยังไม่มีกำหนดการอื่น ก็ต้องรอดูว่าวันนี้ท่านจะเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่



-นิด้าโพลเปิดผลสำรวจล่าสุด เป็นความเห็นของประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออก เรื่อง "คนที่ใช่พรรคที่ชอบ" ปรากฏ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ยังคงนำมาเป็นอันดับ 1 เหมือนกับอีกหลายภาคที่ผ่านมา

โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนร้อยละ 25.09

รองลงมาคือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จาก พรรคก้าวไกล ร้อยละ 16.64

ส่วนพลเอกประยุทธ์ อยู่ในลำดับที่ 3 ร้อยละ 13.64

อันดับ 4 บอกว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

อันดับ 5 คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย

และ อันดับ 6 คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย คิดเป็น 7.25%

สำหรับพรรคการเมืองที่คนภาคตะวันออกจะเลือกทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับหนึ่งยังคงเป็นพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนร้อยละ 33.68 /รองลงมาเป็นพรรคก้าวไกล ได้ร้อยละ 19 ตามมาด้วยพรรคพลังประชารัฐ และประชาธิปัตย์

ครั้งนี้เป็นการสำรวจความคิดเห็นรายภาคเป็นภาคสุดท้ายของนิด้าโพล ซึ่งหากย้อนกลับไปดูผลสำรวจของนิด้าโพลรายภาคที่เปิดออกมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งหมด 5 ภาค และกรุงเทพมหานคร

ก็จะเห็นว่า อุ๊งอิ๊ง นำมาเป็นที่ 1 ใน 4 ภาค คือ ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่ 1 ที่ภาคใต้ / ส่วนนายพิธา เป็นที่ 1 ที่ กทม.


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/VmbpYOpwdIM

คุณอาจสนใจ

Related News