DSI พบ 8 คน ฟอกเงินฮั้ว สว. จากภาคใต้ เตรียมเรียกแจ้งข้อหา

DSI พบ 8 คน ฟอกเงินฮั้ว สว. เป็นกลุ่มคณะบุคคลทางภาคใต้และเครือข่าย เตรียมเรียกแจ้งข้อหา ให้เข้ารับทราบข้อหาภายในสัปดาห์นี้

ความคืบหน้ากรณีการสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 ว่าด้วยการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำความผิดฐานอั้งยี่ฯ ตามมาตรา 209 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ตลอดกว่า 8 เดือนที่ผ่านมานั้น

พบว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทยอยสอบสวนปากคำพยานกว่า 1,200 ราย โดยส่วนน้อยที่ให้ความร่วมมือให้ปากคำ ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ รับสารภาพ และให้การซักทอด เพราะส่วนใหญ่แล้วค่อนข้างให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อคดี

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนไม่เพียงแต่ยึดในคำให้การของพยานเท่านั้น แต่ต้องสอบสวนพิจารณาประกอบกับพยานหลักฐานเรื่องเส้นทางการเงินที่เป็นหลักฐานวิทยาศาสตร์ ซึ่งค่อนข้างสลับซับซ้อน รวมถึงตรวจสอบพฤติกรรมสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างบุคคล โดยเฉพาะเหตุการณ์ช่วงก่อนมีการเลือก สว. ระหว่างการจัดการเลือก สว. และภายหลังการได้รับเลือกให้เป็น สว.

โดยขณะนี้พบว่า มีพยานหลักฐานเส้นทางการเงินชัดเจนและคำให้การซักทอดของพยานบางรายที่บ่งบอกว่า มี “กลุ่มคณะบุคคลทางภาคใต้และเครือข่าย” จำนวน 8 ราย มีพฤติการณ์กระทำความผิดฟอกเงิน ซึ่งทั้ง 8 รายนี้ค่อนข้างเป็นตัวการหลักสำคัญ บางรายเป็นผู้สมัคร สว. บางรายเป็น สว.ตัวจริง โดยพนักงานสอบสวนจะนัดหมายให้ทั้งหมดทยอยเข้ารับทราบข้อหาฟอกเงินภายในสัปดาห์นี้และสามารถให้การชี้แจงภายในวันดังกล่าว หรือแจ้งขอส่งเอกสารชี้แจ้งแก้ข้อกล่าวหาในวันอื่นก็ได้

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษถึงกรณีที่มีพยานใน จ.ของแก่น ได้ทำบันทึกคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือ เพื่อกลับคำให้การถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีเนื้อหาสรุปได้ว่า “เป็นพยานที่เคยมาให้การต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่า มีการฮั้วการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา โดยมีบุคคลดังกล่าวและบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองแห่งหนึ่ง รวมทั้งให้การกับสถานที่ที่เกี่ยวข้อง กล่าวหาว่าได้สนับสนุนให้บุคคลต่างๆ ได้เป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยมีการจัดทำโพยฮั้วเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปโดยไม่สุจริตและไม่เที่ยงธรรม ซึ่งบุคคลดังกล่าวขอให้การเพิ่มเติมอ้างว่า คำให้การที่เคยให้ก่อนหน้านี้นั้น เป็นการให้ถ้อยคำที่เกิดจากการข่มขู่”

สำหรับขั้นตอนของ DSI จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน โดยจะนำบันทึกถ้อยคำให้การครั้งแรกของพยานรายดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับหนังสือร้องเรียนขอกลับคำให้การว่า มีส่วนใดส่วนหนึ่งผิดปกติอย่างไรบ้าง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่พยานและต่อพนักงานสอบสวนผู้ทำหน้าที่สอบปากคำด้วย