สังคม

ระทึกกลางฟ้า เครื่องบินภูเก็ตไปมอสโก เกิดปัญหา บินวนทะเลอันดามัน 5 ชม. ก่อนลงจอดสุวรรณภูมิปลอดภัย

โดย passamon_a

10 ก.พ. 2568

136 views

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.68 เฟซบุ๊กเพจ Hflight โพสต์เหตุฉุกเฉินหลังเครื่องบินที่เพิ่งขึ้นจาก จ.ภูเก็ต กำลังไปกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เกิดปัญหาต้องบินวนอยู่กลางทะเลอันดามัน นานถึง 3 ชั่วโมง โดยระบุว่า บินวนกลางทะเลอันดามัน มาเกือบ 3 ชั่วโมงแล้ว 777-300ER ของ Aeroflot?? ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก คาดเกิดปัญหา ยังไม่มุ่งหน้าปลายทาง


ภาพจาก Flighradar24 แสดงเที่ยวบิน SU277 ของ Aeroflot สายการบินรัสเซีย ซึ่งมีกำหนดการเดินทางจากท่าอากาศยานภูเก็ต (HKT) ไปยังท่าอากาศยานเชเรเมียตเตวา (SVO) กรุงมอสโก โดยกำหนดการตามตารางบินคือ ออกจากภูเก็ต 15.20 น. (UTC+7) และไปถึงมอสโก 21.40 น. (UTC+3) แต่เที่ยวบินนี้ออกเดินทางล่าช้า โดยขึ้นจากสนามบินภูเก็ตในเวลา 16.35 น. ที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตาม หลังจากเครื่องบินขึ้นจากสนามบินภูเก็ต เครื่องบินมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไต่ระดับไปที่ความสูงที่สุดประมาณ 22,000 ฟุต จากนั้นเครื่องบินกลับไม่ได้มุ่งหน้าไปยังกรุงมอสโก แต่ว่ากลับบินวนอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภูเก็ตในทะเลอันดามัน มาเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงเศษแล้ว ที่ความสูงประมาณ 18,000 ฟุต และ 12,000 ฟุต


ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม ที่ยืนยันเกี่ยวกับเที่ยวบินนี้ ว่ามีเหตุผลใดถึงไม่สามารถเดินทางต่อไปยังมอสโกในขณะนี้ได้ แต่คาดว่าอาจมีปัญหาบางประการ ทำให้เที่ยวบินนี้ซึ่งทำการบินด้วย Boeing 777-300ER ทะเบียน RA-73158 ต้องยังบินวนอยู่ไม่ห่างจากภูเก็ตต้นทางในขณะนี้


รายงานแจ้งว่า คาดว่าจะเป็นกรณีขอลงจอดฉุกเฉินจึงทำให้กัปตันจำเป็นต้องบินวนเพื่อเผาน้ำมัน เพื่อลดปริมาณน้ำหนักเครื่องให้เหมาะสมแก่การลงจอดในพื้นในระยะที่ใกล้ขึ้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด


ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.17 น. มีรายงานว่า Aeroflot 277 เครื่อง B777-300ER ได้ลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ปลอดภัยแล้ว ท่ามกลางการเตรียมพร้อมรับมือตามมาตรการและมาตรฐานสากล


ด้าน นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต เปิดเผยว่า เบื้องต้นเครื่องบินลำนี้ต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 21.10 น. และตัวแทนภาคพื้นของสายการบินดังกล่าว แจ้งเครื่องบินลำนี้มีปัญหาเทคนิค บริเวณล้อหน้าไม่สามารถจัดเก็บได้ เพื่อความปลอดภัย จึงต้องทำการลงจอดฉุกเฉิน


ทั้งนี้เครื่องบินลำดังกล่าว ต้องเผาน้ำมันเพื่อให้น้ำหนักของเครื่องบินมีน้ำหนักเบาลง เพียงพอจะลงจอดได้ ส่วนที่ต้องไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น เพราะที่สนามบินภูเก็ตมีทางวิ่งเดียวและไม่มีศูนย์ช่วยเหลือ จึงไม่สะดวกที่จะลง โดยสาเหตุที่ต้องทำการเผาน้ำมันนั้น เป็นเรื่องของความปลอดภัย และลดปัญหามลพิษด้วย


ด้าน ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า จากกรณีที่สายการบิน Aeroflot เที่ยวบินที่ SU277 ซึ่งออกเดินทางจากท่าอากาศยานภูเก็ตเวลา 15.20 น. มุ่งหน้ากรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย ได้เกิดข้อขัดข้องในระบบทางเทคนิค ไม่สามารถทำการบินไปสนามบินปลายทางได้ โดยได้มีการบินวนมาร่วม 5 ชั่วโมง ก่อนจะขอ Divert และขอลงจอดฉุกเฉิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นั้น


ภายหลังได้รับการรายงานเหตุดังกล่าว ดร.กีรติ ได้มีข้อสั่งการให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เตรียมการรองรับเหตุฉุกเฉิน โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนแผนเผชิญเหตุ ควบคู่กับการปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด และให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยาน


นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เมื่อได้รับข้อสั่งการ ทสภ.ได้ดำเนินการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย รวมถึงฝ่ายแพทย์เตรียมความพร้อมทุกด้านเป็นไปตามแผนเผชิญเหตุ ทั้งอุปกรณ์และกำลังพล อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 21.11 น. เที่ยวบินลำดังกล่าวสามารถลงจอดที่ ทสภ. ได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ทางวิ่ง 01 R และเข้าจอดที่หลุมจอด 115


ทั้งนี้ ขณะลงจอดและลำเลียงผู้โดยสารลงจากเครื่อง ทสภ. ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแล รวมถึงแจกน้ำดื่มแก่ผู้โดยสาร และได้รับแจ้งจากสายการบินในเบื้องต้นว่าจะนำลูกเรือ 15 คนและผู้โดยสาร 331 คน เข้าพักโรงแรมภายนอก และทางสายการบินจะดำเนินการจัดสรรเที่ยวบินให้ผู้โดยสารต่อไป


นายกิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้สถานการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้ประกาศใช้แผนฉุกเฉินของสนามบิน แต่ทาง ทสภ. ได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่และจากการที่สายการบิน Aeroflot เลือกมาลงจอดที่ ทสภ. นั้นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัย และความพร้อมในการรองรับหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/YvbS-3XUVeE

คุณอาจสนใจ

Related News