ย้ายศพเก็บรอความเป็นธรรม พ่อร่ำไห้ วางรองเท้าให้ลูกเมีย เหยื่อบีเอ็ม 3 ศพ หลังเข้าฝันคู่กรณี

พ่อร่ำไห้ เคาะโลงวางรองเท้าให้ลูกเมีย เหยื่อบีเอ็ม 3 ศพ หลังเข้าฝันคู่กรณีไม่มีรองเท้าใส่ บอกลาสุดสะเทือนใจ ให้พ่อตายแทนยังดีกว่า ย้ายศพเก็บรอความเป็นธรรมไม่มีกำหนด


จากกรณี นางสาวจิรันธนิน อายุ 30 ปี ขับรถเก๋งหรู ด้วยความเร็ว 207 กม./ชม. พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ จนทำให้ นางเย็นจิตร เสียชีวิต พร้อมกับลูกชาย อายุ 16 ปี และลูกสาว อายุ 14 ปี เหตุเกิดขณะที่ผู้เป็นแม่ขี่รถไปรับลูกชายลูกสาวกลับจากเรียนพิเศษ บริเวณเชิงสะพานถนนสาย จ. หมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ช่วงค่ำวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยตัวนางสาวจิรันธนิน คนขับรถเก๋ง หลังเกิดเหตุไปขอให้ชาวบ้านแถวที่เกิดเหตุ ตามหาแมวให้ เมื่อเจอก็อุ้มแมวหนี ทิ้งรถไว้ในที่เกิดเหตุ


เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.67 เวลา 09.30 น. ที่บ้านในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของ 3 แม่ลูก นายประกฤษณ์ อายุ 50 ปี หัวหน้าครอบครัวผู้สูญเสียลูกและเมียไป 3 ชีวิต ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ทำใจไม่ได้ เดินเก็บเก้าอี้ภายในงานศพ ก่อนจะพูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังไปออกรายการโหนกระแส ก็รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้นว่าน่าจะได้ความยุติธรรมและคดีน่าจะคืบหน้าเร็วขึ้น แต่ก็ยังมีความกังวลใจอยู่บ้าง ส่วนเรื่องการเยียวยา ยังไม่มีความคืบหน้า คู่กรณีจะบอกจำนวนเงินอีกทีในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ โดยคุณหนุ่ม กรรชัย จะส่งทนายมาช่วยดำเนินการให้ด้วย แต่ก็เชื่อว่ายังต้องเหนื่อยอีกเยอะ กว่าจะได้รับความยุติธรรมกลับคืนมา


จากนั้น นายประกฤษณ์ นำรองเท้านักเรียนสีดำคู่ใหม่ใส่กล่องกระดาษ มาวางบนโลงศพของลูกชายและลูกสาว รวมทั้งรองหุ้มส้นสีขาวของภรรยา พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาไหลอาบแก้มว่า ลูกไปเข้าฝันฝั่งคู่กรณีว่าไม่มีรองเท้าใส่ ฝั่งคู่กรณีซึ่งไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นใคร แต่คาดว่าน่าจะเป็นผู้หญิงเจ้าของรถ ซื้อรองเท้าจำนวน 3 คู่ มามอบให้ภายในงานศพคืนวันที่ 4 ที่ฝั่งคู่กรณีเป็นเจ้าภาพ


หลังจากนั้น นายประกฤษณ์จุดธูปหน้าโลงศพบอกลูกเมียว่า จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายร่างไปอยู่ที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ จ.ชุมพร ชั่วคราว จนกว่าลูกเมียจะได้รับความยุติธรรม หลังจากนั้นจึงจะนำมาประกอบพิธีฌาปนกิจ และหวังว่าชาติหน้าเรา 4 คนพ่อแม่ลูก จะได้เจอกันอีก ซึ่งตลอดเวลาที่นายประกฤษณ์พูด น้ำตาไหลพรากตลอดเวลา เพราะยังทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกะทันหันของลูกและเมีย ชนิดไม่มีสิทธิ์แม้จะพูดร่ำลากัน


ต่อมาเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ นำรถบรรทุก 6 ล้อ ขนาดใหญ่ และรถกระบะกู้ชีพ มารับร่างผู้เสียชีวิตเพื่อนำไปเก็บไว้ที่ศาลา 5 ที่มูลนิธิชุมพรฯ เพื่อรอความเป็นธรรมจนถึงที่สุดตามเจตนาของญาติผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ยกโลงของนางเย็นจิตร ผู้เป็นแม่ ขึ้นรถเป็นลำดับแรก โดยมีนายประกฤษณ์ สามี ถือกระถางธูปเดินนำทาง ต่อมาจึงเป็นโลงของลูกชายและลูกสาวตามลำดับ


เมื่อมาถึงที่มูลนิธิชุมพรฯ นายประกฤษณ์ พร้อมญาติ ๆ พากันร่ำไห้ เพราะยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะนายประกฤษณ์ ร้องไห้และพูดอยู่ตลอดว่า “ให้เค้าไปดีกว่าตัวเองอยู่ดูลูกดีกว่า เอาเค้าไปดีกว่าตัวเองอยู่กัน 3 คนดีกว่า ไหนบอกไม่ทิ้งกัน เลี้ยงมาอย่างดีทั้งแม่ทั้งลูก ทิ้งเราไปหมดแล้ว” ในขณะที่ญาติ ๆ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ต้องปลอบใจให้กำลังใจนายประกฤษณ์ ให้มีชีวิตต้องสู้ต่อไป ท่ามกลางความเศร้าสลดของผู้ที่มาคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ รวมทั้งชาวบ้านที่ทราบข่าวและมาร่วมไว้อาลัย แม้จะไม่รู้จักกับครอบครัวนี้เลยก็ตาม

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/gBvnZuvTlv8