หญิงซิ่ง BMW ชนดับ 3 ศพ รับทุกข้อหาเว้นหลบหนี ยันแค่ตกใจ พ่อเหยื่อสะเทือนใจ หลังพบขับเร็ว-ขับมือเดียว

พ่อสะเทือนใจถามคนขับเก๋ง BMW ทำไมขับเร็วถึง 209 กม./ชม. จากนี้จะอยู่ต่ออย่างไร เพราะไม่เหลือใครสักคน แต่ยังต้องดูแม่ที่ป่วยติดเตียง ด้านญาติเป็นห่วงเป็นโรคซึมเศร้า ต้องให้พี่สาวมาอยู่เป็นเพื่อน



คลิปจากกล้องหน้ารถคันก่อเหตุ เผยให้เห็นวินาทีที่คนขับซิ่งรถ BMW ชนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ ที่มีแม่ อายุ 52 ปี เป็นคนขี่ และมีลูกชายอายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 กับลูกสาว อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม. 2 โรงเรียนดังในเมืองชุมพร นั่งซ้อนท้ายมาจนเสียชีวิตทั้ง 3 ราย ขณะที่แม่ขี่รถไปรับลูกกลับจากเรียนพิเศษ อีกประมาณ 6 กิโลเมตร กำลังจะถึงบ้าน เหตุเกิดบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟ ถนนทางหลวงชนบท สาย จ. ขาออก ตำบลตากแดด อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร



โดยในคลิปจะเห็นว่ารถ BMW ขับมาด้วยความเร็ว เห็นรถมอเตอร์ไซค์ของ 3 แม่ลูกอยู่ข้างหน้า ลักษณะเหมือนไม่มีการเหยียบเบรกแต่อย่างใด หลังจากพุ่งชนแล้ว รถ BMW ได้เสียหลักหมุนขว้าง คนขับซึ่งเป็นผู้หญิง ได้ขอให้ชาวบ้านช่วยตามหาแมวสายพันธุ์ต่างประเทศจนเจอ แล้วทิ้งรถเก๋งคันหรูอุ้มแมวหลบหนีหายไปกับความมืด เหตุเกิดประมาณ 6 โมงเย็น วันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา



ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบศพนักเรียนชาย ทราบชื่อ นายกฤตเมธ สภาพกระดูกแขนขาหัก นอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างแบริเออร์คอนกรีต บริเวณเชิงสะพานข้ามทางรถไฟ ส่วนอีก 2 ศพ ถูกชนกระเด็นตกจากสะพานข้ามทางรถไฟ ทราบชื่อคือ เด็กหญิงบุณยานุช และนางเย็นจิตร นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณเกาะกลาง ของถนนคู่ขนาน โดยทั้งสองอยู่ในสภาพกระดูกหัก ศีรษะแตกเลือดนองถนน



ในจุดเกิดเหตุ ห่างจากศพน้องกฤตเมธ เพียง 20 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถมอเตอร์ไซค์ ฮอนด้า สีดำ รุ่นเวฟ 110 ไอ ถูกชนท้ายอย่างแรงจนรถอยู่ในสภาพหักงอ ส่วนรถคู่กรณี เก๋ง BMW สีดำ จอดสนิทอยู่บนถนนคู่ขนาน ห่างจากรถมอเตอร์ไซค์ เกือบ 100 เมตร สภาพกันชนไปถึงล้อด้านหน้าขวาพังยับเยิน นอกจากนี้ล้อหลังด้านขวา ยังพับหักจากอุปกรณ์ส่วนยึดล้ออีกด้วย



เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถพบสมุดใบคู่มือจดทะเบียนประจำรถอยู่หลายเล่ม และยังพบกระเป๋าเงินตกอยู่ภายในรถ ตรวจสอบพบว่าบัตรประจำประชาชนและบัตรขับขี่ ระบุชื่อ นางสาวภารดา



ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า บ้านตนเองอยู่ฝั่งตรงข้าม ขณะที่นั่งเล่นกันอยู่หน้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงดังสนั่น จึงหันไปมอง ก็พบรถเก๋งหมุนคว้างแล้วจอดนิ่งบนถนนคู่ขนาน ตนเองจึงวิ่งข้ามถนนมาเพื่อจะได้ช่วยเหลือ เพราะตอนแรกคิดว่ารถเสียหลักเอง ไม่คิดว่ามีการเฉี่ยวชนรถคันอื่นมา



เมื่อมาถึงก็พบหญิงสาวอายุไม่มากเท่าไหร่ เปิดประตูลงมาจากรถ ตนเองถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า มีอะไรให้ช่วยเหลือไหม หญิงคนขับได้ร้องขอให้ช่วยหาแมวให้หน่อย มันตกใจวิ่งออกจากรถ ตนเองก็ช่วยหาจนเจอพบอยู่ใต้ท้องรถ และหญิงสาวก็หยิบมือถือมาโทร บอกว่าเดี๋ยวให้แฟนมารับ ตอนนั้นตนเริ่มเห็นบริเวณสะพานมีคนส่งเสียงดังลั่น จึงเดินไปดูจุดเกิดเหตุ และหันไปที่หญิงสาวอีกที ก็พบว่าเดินอุ้มแมวหายไปในความมืดแล้ว



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาได้มี นางสาวจิรันธนิน อายุ 30 ปี เดินทางมามอบตัวแสดงตนเป็นคนขับรถคันดังกล่าวช่วงกลางดึกของวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย 2 ครั้ง ได้ 29 และ 27 มิลลิกรัม จากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้นัดให้เข้ามาสอบปากคำช่วง 11 นาฬิกาเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 5 ชั่วโมง หลังจากนั้นเวลาประมาณ 15.45 น. พนักงานสอบสวนได้พาตัว นางสาวจิรันธนิน ผู้ต้องหาออกทางประตูหลัง แล้วรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถยนต์สายตรวจออกไปทันที



ขณะที่ผู้สื่อข่าวที่รอทำข่าวได้รออยู่ด้านหน้า เพราะก่อนหน้านั้น ได้มีตำรวจขับรถควบคุมผู้ต้องหาที่ติดลูกกรงเหล็กเข้ามาจอดติดเครื่องรออยู่ด้านหน้าโรงพัก แล้วบอกกับญาติๆ ผู้ต้องหาและเจ้าของรถที่มารออยู่บนโรงพักว่า จะนำผู้ต้องหาไปกับรถคันดังกล่าวเพื่อไปฝากขังต่อศาลจังหวัดชุมพร ให้ญาติตามไปประกันตัวที่ศาล จึงทำให้ผู้สื่อข่าววิ่งไปถ่ายภาพกันแทบไม่ทัน สุดท้ายผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในวงเงินจำนวน 1 แสนบาท



ขณะเดียวกันได้มีนายดำ อายุ 65 ปี มาแสดงตัวระบุว่าเป็นพ่อเจ้าของรถ โดยบอกว่า รถ BMW คันที่เกิดเหตุ เป็นของนางสาวภารดา ลูกสาวของตนเอง แต่ลูกสาวไม่ได้เป็นคนขับ เพราะช่วงนั้นมีงานศพของแม่ยายของตน ลูกสาวยังอยู่ในงานศพ ส่วนนางสาวจิรันธนิน เป็นแฟนสาวของลูกสาว เดินทางมาจากนครศรีธรรมราช เพื่อมาร่วมงานศพ ได้ขอขับรถของลูกสาวไปอาบน้ำที่บ้านพักในตำบลทุ่งคา อำเภอเมืองชุมพร โดยขับไปคนเดียวยังไม่ทันถึงบ้าน ก็เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน ยืนยันว่า หลังเกิดเหตุนางสาวจิรันธนิน ไม่ได้หลบหนี แต่หลบไปยืนอยู่ในที่มืด เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนละแวกนั้นหรือไม่ ก่อนจะโทรศัพท์มาให้ตนไปรับ และพาไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่



อย่างไรก็ตาม ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชุมพร ได้มาเก็บร่องรอยนิ้วมือคนขับรถเก๋ง BMW เพื่อนำมาเปรียบกับ นางสาวจิรันธนิน ที่มามอบตัวว่าตรงกันหรือไม่



ขณะที่เพจดรามาแอดดิค โพสต์ถึงข่าวนี้ ระบุว่า คนขับ BMW นอกจากจะขับด้วยความเร็วสูง 200 แล้ว ก็ยังขับมือเดียว โดยยกมืออีกข้างมาถ่ายมือถือ ตอนกำลังขับรถอยู่ และบันทึกภาพตอนเกิดเหตุไว้ได้ชัดเจน หลังเกิดเหตุวิ่งตามหาแมว แล้วหนีจากที่เกิดเหตุ เลวระยำต่ำช้าหาที่เปรียบไม่ได้



อีกโพสต์บอกว่า ตำรวจวัดค่าแอลกอฮอล์คนขับ BMW ได้ 29 วัดหลังเกิดเหตุ 7 ชั่วโมง ตับกำจัดแอลกอฮอล์จากเลือด ประมาณชั่วโมงละ 20 คนขับได้ประกันตัวไปแล้ว



ด้านโลกโซเชียลได้เปิดวาร์ปของ นางสาวภารดา เจ้าของรถ BMW พบว่ามีการลงภาพการใช้ชีวิตที่หรูหรา ใช้ของแบรนด์เนม และมีภาพที่ถ่ายกับคนรัก คือ นางสาวจิรันธนิน ผู้ต้องหาด้วย มีการแท็กบัญชีไอจี แต่เมื่อทีมข่าวตรวจสอบไปที่ไอจี ของนางสาวจิรันธนิน พบว่ามีการล็อกโปรไฟล์ ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ตรวจเบื้องต้นทราบเพียงว่าเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง



เมื่อช่วงเที่ยง ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านผู้เสียชีวิต ที่อำเภอเมืองชุมพร สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลทั้ง 3 ศพ โดยมีหรีดจากหน่วยงานราชการ ผู้นำท้องที่ ญาติสนิท และมีหรีดของ นางสาวจิรันธนิน คนขับรถ BMW มาตั้งอยู่หน้าหีบศพด้วย



นอกจากนั้นได้มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง ปภ. กรมกิจการเด็กและเยาชน มาร่วมพูดคุยถึงการช่วยเหลือ และมอบเงินประกันเบื้องต้นให้กับ นายประกฤษณ์ อายุ 52 ปี ผู้สูญเสีย ซึ่งเป็นสามี และพ่อของผู้เสียชีวิต



นายประกฤษณ์ เผยว่า ตอนนี้ตนยังสงสัยว่าคนที่ถูกดำเนินคดี เป็นคนขับใช่ตัวจริงหรือไม่ เพราะไม่ได้รับรู้ข้อมูลอะไรเลย เคยขอดูหลักฐานกล้องวงจรปิดจากตำรวจ ก็บอกให้ดูไม่ได้ และกลับเห็นคลิปจากหน้ารถเก๋ง BMW เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นช่วงคลิปสั้น ๆ ตอนชนมอเตอร์ไซค์เท่านั้น โดยคิดว่าคลิปในช่วงที่รถเก๋งชน แล้วเสียหลักไปจอดอยู่ไหล่ทาง กล้องหน้ารถเก๋งจะต้องจับภาพคนขับตัวจริงไว้ได้ เพราะมีชาวบ้านเห็น บอกว่า คนขับเป็นผู้หญิง ได้ลงมาเดินรอบรถ เพื่อหาแมวที่ตกใจวิ่งไปซุกอยู่ใต้ท้องรถเก๋ง หลังอุ้มแมวแล้วก็เดินหลบหนีไปกับความมืด



ปัญหาคือต่อจากนี้ตนจะใช้ชีวิตอย่างไร เพราะต้องอยู่เพียงคนเดียว ครอบครัวลูกเมียไม่เหลืออยู่อีกแล้ว มีแต่คุณแม่อายุมากแล้ว ที่นอนป่วยติดเตียง ใครจะดูแล เพราะตนก็ต้องไปทำงานอยู่ที่ศูนย์ไปษณีย์ จึงอยากจะถามถึงคนขับรถเก๋งว่า คุณเป็นคนอย่างไร ทำไมถึงได้ขับรถความเร็วสูงถึง 209 กม./ชม. และทราบว่าขณะขับรถความเร็วสูง ยังถ่ายรูปหน้าปัดเลขไมล์ด้วย แล้วจับพวงมาลัยเพียงมือเดียว ซึ่งรถมีความเร็วสูงถึงขนาดนั้น อยากให้กระบวนการทางกฎหมายเอาจริงกับคนแบบนี้ เพราะไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม



ด้านนายสุวิทย์ อายุ 60 ปี ลุงเขยผู้เสียชีวิต บอกว่า ตอนนี้ตนเป็นห่วงนายประกฤษณ์มาก เพราะคนในครอบครัวตายหมด ไม่เหลืออะไรไว้ให้อีกเลย นอกจากความสูญเสียและความเศร้าโศรก เกรงว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า ตนจึงต้องให้พี่สาวมาอยู่เป็นเพื่อนก่อน และคอยช่วยเหลือแม่ที่ป่วยติดเตียงไปก่อน



ทีมข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ สอบถามเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองขุมพร ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับทีมข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ ระบุว่า ผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดของน.ส.จิรันธนิน ผู้ต้องหา น่าจะออกในสัปดาห์หน้า แต่ยืนยันว่า ในเบื้องต้นไม่น่ามีปัญหากับรูปคดี เพราะ ผู้ต้องหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่แล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหาไปทั้งหมด 4 ข้อหา ประกอบด้วย



1. ขับรถขณะเมาสุราโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่

2. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด

3. ขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

4. ไม่หยุดช่วยเหลือ แสดงตัว แจ้งพนักงาน เจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงหลังเกิดเหต



ส่วนตอนที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า ในรถคันเกิดเหตุมีขวดเหล้าอยู่ด้วย ทีมข่าวถามผกก.ว่ามีอยู่ที่ขวด แต่ผกก. ระบุว่า รายละเอียดอยู่ในสำนวนคดี แต่เท่าที่จำได้ คือ มีทั้งขวดเปล่าและขวดที่มีเหล้าอยู่



เมื่อถามถึงการสอบปากคำ น.ส.จิรันธนิน ว่า มีอาการอย่างไรบ้าง ผกก. ระบุว่า ตอนสอบปากคำ ค่อนข้างอิดโรย ระดับหนึ่ง เชื่อว่าอาการอิดโรยที่พบ น่าจะเกิดจาก สภาพทางจิตใจ ไม่ได้พักผ่อน และการดื่มสุรา รวมถึงพบว่า มีร่องรอยการบาดเจ็บที่แขนด้วย



เมื่อถามว่า ตอนสอบปากคำอยู่ใกล้ๆ มีกลิ่นแอลอฮอล์หรือไม่ ผกก. ระบุว่า อยู่ในระยะใกล้ ไม่ได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องกลิ่น คงบอกไม่ได้ว่ามีหรือไม่



ส่วนเรื่องที่ถูกวิจารณ์ว่า ขับรถชนจนมีผู้เสียชีวิต ถึง 3 คน แต่น.ส.จิรันธนิน กลับมัวแต่ตกใจและหาแมวของตัวเอง ผกก.เชื่อว่า น่าจะเป็นเพราะ การมึนเมาสุรา ตกใจ และห่วงสัตว์เลี้ยงของตัวเอง



ทั้งนี้ตอนสอบปากคำ พบว่า น.ส.จิรันธนิน ผู้ก่อเหตุ ค่อนข้างรู้สึกสำนึกผิด เสียใจ กึ่งๆจะร้องไห้ โดยเจ้าตัวยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา ยกเว้นเรื่องการหลบหนี โดยเธอบอกว่าเธอตกใจ



เมื่อถามว่า จากจุดเกิดเหตุ ไปถึง สถานีตำรวจ ใช้เวลานานตั้ง 8 ชม. คือเกิดเหตุตอน 1 ทุ่ม ของวันที่ 27 พฤศจิกายน แต่ไปถึง สถานีตำรวจตอนตี 2 ของวันที่ 28 พฤศจิกายน แบบนี้เข้าข่ายหลบหนีหรือไม่ รวมถึงมีข้อมูลหรือไม่ว่าไปที่ไหนมาก่อน



ผกก. บอกว่า ตามรายงานพบว่า มีญาติของผู้ก่อเหตุมารับตัว ส่วนจะไปไหนก่อนหรือไม่ รายละเอียดอยู่ในสำนวนคดีแล้ว ย้ำว่า การไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ ก็เข้าข่ายหลบหนีแล้ว จึงตั้งข้อหาเรื่องนี้ด้วย



ส่วนในวันพรุ่งนี้(30พ.ย.) ช่วงบ่าย จะนัดหมายทั้งผู้ก่อเหตุ และญาติผู้เสียชีวิต มาพูดคุยกัน เรื่องรายละเอียดการเกิดเหตุ และการบรรเทาผลร้าย และค่าสินไหมทดแทน รวมถึงเรื่องสิทธิต่างๆ



ส่วนดราม่าเรื่องการนำตัวขึ้นรถกระบะหลังสถานีตำรวจไปฝากขัง ทั้งที่มีรถควบคุมผู้ต้องขังจอดสตาร์ทเครื่องอยู่ด้านหน้าสถานีตำรวจ ผกก. บอกว่า ไม่มีอะไร ไม่ได้ช่วยเหลือ แต่ที่ไม่นำขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขัง เพราะ น.ส.จิรันธนิน มามอบตัว จึงไม่ได้นำตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขัง และตอนนั้น เป็นเวลา 3 โมงกว่าแล้ว จึงเร่งรีบ ทั้งนี้ตอนไปฝากขัง ตร.คัดค้านการประกันเพราะมีพฤติการณ์หลบหนี แต่ญาติยื่นประกันตัวต่อศาล ซึ่งศาลอนุญาตให้ประกันตัวไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/YISSUeWQbbg