สังคม

ผบ.ตร.สั่งสอบ อาญา-วินัย 'พ.ต.อ.' เเต่งเต็มยศขึ้นพูดงาน 'ดิไอคอน' พูดชวนขายตรง

โดย parichat_p

24 ต.ค. 2567

109 views

ความเคลื่อนไหวคดี 'ดิไอคอน' ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ 'ดีเอสไอ' แถลงข่าวรับคดี 'ดิไอคอน' เป็นคดีพิเศษแล้ว แต่จะทำเฉพาะมูลฐานความผิดที่เกี่ยวกับการ 'ฟอกเงิน' เพราะมีมูลความเสียหายเกิน 300 ล้านบาท ขณะที่ ตำรวจบก.ปปป.เตรียมเรียก 'นาย เอกภพ' ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดพร้อมพยานเข้าให้ปากคำ หลัง 'บอสพอล' ส่งทนายเอาผิด ฐานพาพยานเท็จมาให้ข้อมูลเรื่องแลกเงินดิจิทัล ส่วนนายตำรวจยศพันตำรวจเอก ที่มีคลิปเเต่งกายเต็มยศ-ขึ้นพูดบนเวทีในงานดิไอคอน ล่าสุด ถูกเรียกสอบข้อเท็จจริงเเล้ว


นี่เป็นคลิปที่เผยเเพร่ในเพจ 'อีซ้อขยี้ข่าว' ต่อมาทราบว่าเป็นการจัดงานของบริษัท 'ดิ ไอคอน' มีคนมาร่วมงานจำนวนมาก จากภาพจะเห็นว่ามีนายตำรวจยศ 'พันตำรวจเอก' ขึ้นเวทีเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนจะจับไมค์พูดแนะนำตัว


หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ทางสื่อสังคมออนไลน์ ล่าสุด ก็ทราบว่านายตำรวจรายนี้ คือ พันตำรวจเอก สมคิด สาวิสัย ตำเเหน่งรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ล่าสุด ได้เปิดใจกับทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 ยอมรับว่าบุคคลในคลิปคือเขาเอง ขึ้นพูดเมื่อปี 2560 ที่เมืองทองธานี ขณะนั้นเป็นยังผู้กำกับ และเป็นสมาชิกของบริษัทที่ทำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เป็นระดับแม่ทีม เเต่ขณะนั้น"บริษัทดิไอคอน" รับหน้าที่จัดงานเเละทำประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทนี้


ส่วนประเด็นที่บางช่วง ได้พูดถึงการทำงานในชีวิตตำรวจ ทั้งเรื่องของวันหยุดที่แทบจะไม่มี หรือ รายได้ที่ขึ้นปีละ 200 ถึง 400 บาท / พ.ต.อ.สมคิด ยืนยันว่า พูดถึงประสบการณ์ ไม่ได้เจตนาโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สุดท้ายก็ทำได้แค่ 2 ปีก่อนจะถอนตัว และย้ำว่าที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ไม่เคยเป็นสมาชิกของบริษัทดิไอคอน


พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พลตำรวจเอก อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบเรื่องนี้ โดยแบ่งเป็น 2 ประเด็น คือให้เรียกมาชี้แจงทันทีกรณีไปพูดบนเวที เข้าข่ายลักษณะความผิดฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ และให้ตรวจสอบวินัย เกี่ยวกับการใส่เครื่องแบบไปพูดเหมาะสม เเละอยู่ในเวลาราชการหรือไม่


ส่วนความคืบหน้าทางคดี ที่สุดเมื่อช่วงบ่าย 2 โมงวันนี้ ดีเอสไอ ก็ได้แถลงข่าวรับเป็นคดีพิเศษแล้ว / พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้พิจารณารับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ เพราะพนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดี 18 ผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นข้อหามูลฐานที่นำมาสู่ความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดนี้อยู่ท้ายบัญชีที่สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ จากการตรวจสอบยังพบว่า ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับความผิดและความเสียหาย มีมูลค่าเกิน 300 ล้านบาท


แต่ก็ย้ำว่า"ดีเอสไอ" รับเฉพาะ "คดีฟอกเงิน" เท่านั้น ส่วนข้อหาอื่น ๆ เช่น ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ยังอยู่ในอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


จากนี้จะสืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงิน รวมทั้งที่มาของทรัพย์สินต่าง ๆ หากรวบรวมพยานหลักฐานได้ชัดเจนและแน่นหนาเพียงพอ ก็จะนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดคดีฟอกเงินต่อไป


ส่วนความเคลื่อนไหวของ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล ช่วงเย็นที่ผ่านมา เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้ว โดยบอกว่า เมื่อเช้าเข้าไปเยี่ยม บอสพอลที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อส่งเอกสารการมอบอำนาจแจ้งความ ให้บอสพอลเซ็น และได้นำมาแจ้งความนักร้องเรียนหญิง ก. ในข้อหากรรโชกทรัพย์


นายวิฑูรย์บอกว่า บอสพอลยังสั่งให้ดำเนินคดีกับพยานที่แอบอ้างเป็นบุคคลใกล้ชิด ที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดพามา โดยจะดำเนินคดีกับทั้งพยานและตัวนายเอกภพ เพราะมีการพาดพิงไปถึงหน่วยงานรัฐว่ามีการรับสินบน ทำให้เกิดความเสียหายหลายฝ่าย


นอกจากนี้ยังสั่งให้ดำเนินการกับ"ทนายความ"คนหนึ่ง ที่เคยพาผู้เสียหายมาแจ้งความดิไอคอนกรุ๊ป โดยนายวิฑูรย์อ้างว่า ก่อนหน้าวันที่บอสพอลจะถูกจับ ทนายความคนนี้ได้ให้คนโทรศัพท์มาหาบอสพอล เจรจาขอเงิน 7 ล้านบาทคืนให้ผู้เสียหาย โดยบอกให้มาเคลียร์ที่สำนักงานแล้วจะไม่ดำเนินคดี แต่ที่สุดก็ไม่ได้จ่ายเงิน เเละได้ให้เลขาอัดคลิปเสียงไว้ทั้งหมด


กรณีที่ดีเอสไอแถลงรับคดี 'ดิไอคอน' ในความผิดฐานฟอกเงิน นายวิฑูรย์มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะตอนนี้ที่ บก.ปคบ. ทำคดีฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีผู้เสียหายเยอะมากงานอาจจะเยอะ ก็เป็นเรื่องดีที่ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ แบ่งงานไปทำ / แต่อยากให้ตรวจสอบกลุ่มแม่ข่ายที่ทำเนียนเป็นผู้เสียหายด้วย เพราะเป็นกลุ่มคนที่ไปชักชวนสมาชิกมา ซึ่งเขามองว่า ก็ควรถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

คุณอาจสนใจ