สังคม
ไม่มีวี่แวว! ผู้ต้องหาคดีตากใบมอบตัว-จับตัวได้ ภาคประชาสังคม จัดกิจกรรม เขียนข้อความต่อเหตุสลายการชุมนุม
โดย parichat_p
24 ต.ค. 2567
35 views
จนถึงเวลานี้ยังไม่มีผู้ต้องหาคดีตากใบ ตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส และ ศาลจังหวัดปัตตานี รวม 15 หมายจับ มามอบตัวหรือถูกจับกุมตัวได้ ก่อนที่คดีจะหมดอายุความในวันพรุ่งนี้ ในขณะที่ประชาชนในพื้นที่ ยังคงรอคอยให้ทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะมีความหมายต่อการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งวันนี้ยังมีเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่อำเภอปานาเระ จังหวัดปัตตานี
จนถึงเวลานี้ 22.00 น.วันที่ 24 ตุลาคม 2567 ผู้ต้องหาคดีตากใบ ซึ่งมี 2 คดี รวม 15 หมายจับ 14 คน ยังไม่มีใครมามอบตัวหรือถูกจับกุมตัวได้
ซึ่งในส่วนผู้ต้องหา 8 ราย ตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ตำรวจต้องนำตัวมาส่งอัยการจังหวัดปัตตานี ภายในเวลา 16.30 น.วันพรุ่งนี้ 25 ตุลาคม 2567 เพราะเป็นคดีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง ก่อนหน้านี้ทางอัยการจังหวัดปัตตานี ชี้แจงว่า ได้เตรียมคำฟ้องไว้พร้อมแล้ว หากได้ตัวมาทันเวลาจะส่งให้ศาลจังหวัดปัตตานีประทับรับฟ้องได้ทันที
ต่างจากคดีที่ศาลจังหวัดนราธิวาส มีหมายจับ ผู้ต้องหา 7 ราย ศาลประทับรับฟ้องแล้ว และเป็นการยื่นฟ้องโดยญาติผู้เสียชีวิต คดีนี้ศาลให้เวลาผู้ต้องหามามอบตัวต่อศาล และหากจับกุมตัวได้ต้องนำตัวมาที่ศาลภายในเวลา 24.00 น.ของวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ไม่เช่นนั้นคดีก็จะสิ้นสุดลง
ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ซึ่งเป็นทนายความฝ่ายญาติในคดีที่ศาลจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่าจากการสอบถามล่าสุด ยังไม่มีการได้ตัวผู้ต้องหามาศาล ซึ่งยังมีเวลาอีก 1 วัน ก็ยังคาดหวังโอกาสสุดท้าย เพราะศาลให้เวลาถึงเที่ยงคืน ก็จะนับคดีได้ใหม่ แต่สำหรับคดีที่อัยการสั่งฟ้อง แม้จะได้ตัวมาภายในเวลา 16.30 น.ถ้าศาลจังหวัดปัตตานีประทับรับฟ้องไม่ทัน ก็อาจต้องสิ้นสุดลง
กลุ่มเดอะปาตานี และนักศึกษา นำหมายจับผู้ต้องหาคดีตากใบ ออกประกาศตามหาตัวทั่วเมืองยะลา โดยเฉพาะที่ค่ายสิริธร ที่ทำงานของกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า เนื่องจากผู้ต้องหาคนสำคัญ พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี เป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 รวมถึง พลเอกเฉลิมชัย วิรุฬเพชร อดีตผู้บัญชาการผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ต่างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่เคยปฏิบัติงานที่นี่ รวมถึงได้ไปประกาศตามหาตัวผู้ต้องหาที่หน้าศูนย์ราชการชายแดนใต้ โดยย้ำว่า การให้ผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในคดีตากใบ มีความสำคัญต่อประชาชน และความเชื่อมั่นในระบบราชการของรัฐไทย
นอกจากนี้นักศึกษา ประชาชน และภาคประชาสังคม โดยเครือข่ายประชาชนผดุงความยุติธรรม เครือข่ายนักศึกษาปาตานี สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ และ The Patani นำป้ายผ้าที่มาการเขียนข้อความในกิจกรรม ร้อยความรู้สึกจากหมู่บ้านถึงหมู่บ้าน ที่มีประชาชน เยาวชน ร่วมกันเขียนข้อความในป้ายผ้า 200 เมตร จากอำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอบังนังสตา มาถึงอำเภอเมืองยะลา ที่มีต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมตากใบ และการเรียกร้องความยุติธรรมของญาติ ซึ่งส่วนใหญ่ต่างต้องการให้จับกุมผู้ต้องหาให้ได้ เพราะมีความหมายต่อการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และในวันพรุ่งนี้จะนำไปมอบให้กับญาติผู้เสียชีวิตคดีตากใบ ซึ่งจะมีการจัดงานรำลึก 20 ปี ที่ปาตานีอาร์ทสเปซ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
ซึ่งข้อความที่ปรากฏบนป้ายผ้า เขียนโดยเยาวชนที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี หรือที่เกิดหลังปี 2547 แต่ต่างรับรู้เหตุการณ์ตากใบ และเข้าใจว่าเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงสื่อสารออกมาผ่านการเสียชีวิตในรถบรรทุก หรือการใช้กฏหมายพิเศษ ที่เจ้าหน้าที่ใช้กฏอัยการศึกมาควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย จนกลายเป็นวาทกรรม ถ้าไม่ผิดจะหนีทำไม จึงมีคำถามกลับไปถึงภาครัฐด้วย และคดีตากใบ ยังมีการรวมตัวออกแถลงการณ์ของนักศึกษาทุกมหาวิทยาลัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย และร่วมกันอ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้คืนความยุติธรรม และเห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
เหตุลอบวางระเบิดรถยนต์ หรือคาร์บอมบ์ที่ถนนระหว่างสถานีตำรวจภูธรปะนาเระ และ ที่ว่าการอำเภอปะนาเระ จ.ปัตตานี เกิดขึ้นในเวลา เที่ยงคืน 25 นาทีของวันที่ 24 ตุลาคม หลังจากคนร้ายที่แต่งกายชุดดำเลียนแบบทหาร จำนวน 10 คน สวมหมวกคลุมใบหน้าพร้อมอาวุธสงครามบุกปล้นรถยนต์ของอบต.บ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 10 กิโมเมตร ในเวลา 23.30 น.ของวันที่ 23 ตุลาคม โดยจับเจ้าหน้าที่อบต.4 ราย มัดมือไพล่หลัง ให้นั่งรวมกันในห้อง ก่อนจะเอารถกุญแจรถยนต์กระบะของราชการ ขับออกไป แล้วนำไปบรรจุระเบิด ขับมาตามเส้นทางถนนริมทะเล มาจอดในซอย แล้วคนขับรถยนต์ ก็นั่งรถจักรยานยนต์ที่มีอีก 1 คน มารับหลบหนีไปเส้นทางเดิม หลังจากเกิดเหตุมีไฟไหม้ เพราะมีการใส่น้ำมันมาด้วย โดยจุดเกิดเหตุอยู่ตรงข้ามบ้านพักนายอำเภอปะนาเระ และ ผู้กำกับ สภ.ปะนาเระ พร้อมตำรวจก็อยู่ที่พักในแฟลตด้านหลัง ได้ยินเสียงระเบิด และออกมาตรวจสอบเมื่อไม่มีลูกที่สอง ได้ดับเพลิง และควบคุมสถานการณ์จนถึงช่วงเช้า โดยไม่มีผุ้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีตำรวจเฝ้ายามที่ป้อม 1 นาย และ อส.ที่เฝ้ายามที่อำเภอ 2 นาย แต่แรงระเบิดทำให้อาคารของ ส.ปะนาเระ เสียหาย ผนังอาคารพังถึงชั้น 4 กระจกแตกทั้งหลัง รวมถึงที่แฟลตเจ้าหน้าที่ ส่วนอาคารที่ทำการอำเภอปะนาเระ ก็เสียหายทั้งอาคารหลังเก่าและอาคารเอนกประสงค์หลังคาพัง โดยไม่มีบ้านเรือนประชาชนเสียหายเพราะเป็นพื้นที่ของหน่วยงานราชการ
สำหรับเหตุการณ์คาร์บอมบ์เป็นเหตุที่ 4 ของปีนี้ และเป็นเหตุที่ 2 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่หน้าบ้านพักนายอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 29 กันยายน ซึ่งแน่นอนว่าต่างจับตาสถานการณ์ในห้วงที่จะครบรอบ 20 ปีตากใบในวันพรุ่งนี้