สืบนครบาล จับ 2 สาวแสบ ตระเวนจำนำทองปลอม ใช้ข้อต่อทองแท้ตบตาร้าน

ตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุม นางสาวชนิดตา และ นางสุกัญญา ผู้ต้องหาในคดีนำทองปลอม ตระเวนจำนำร้านทองทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และมีหมายจับในหลายพื้นที่ โดยช่วงปี 2566 นางสุกัญญา กับพวก นำสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 3 บาท มาจำนำที่ร้านทองชื่อดัง สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ซึ่งจากการชั่งน้ำหนัก และส่องดูเปอร์เซ็นต์ทอง ได้ความบริสุทธิ์ของทอง 96.5 เปอร์เซ็นต์ และได้ตรวจสอบตราของร้านทองยี่ห้อหนึ่ง

จากนั้น ผู้กล่าวหาได้นำหัวจรวดและตะขอไปฝนที่หิน เพื่อตรวจสอบเปอร์เซ็นทอง และเช็กการเคลือบทอง และหยดน้ำกรด น้ำเกลือ เพื่อตรวจสอบเปอร์เซ็นทอง ก็ไม่เกิดปฏิกิรยาใด ๆ ส่วนตัวสร้อยคอ ทางร้านทองได้นำไปตะไบ และหยดด้วยน้ำกรดน้ำเกลือ ก็ไม่มีปฏิกิริยาเกิดขึ้นเช่นกัน เชื่อได้ว่าเป็นทองแท้ จึงได้รับจำนำไว้ในราคา 90,827 บาท

ต่อมา ทางร้านทองฯ ได้รับแจ้งจากสำนักงานใหญ่ว่า กลุ่มผู้ต้องหา เป็นมิจฉาชีพนำทองคำปลอมมาจำนำ ทางร้านฯ จึงใช้ไฟเป่าทองที่รับจำนำดู ปรากฏว่า หัวจรวดหลุดออกจากตัวเส้นทอง เนื่องจากเป็นทองปลอม ใช้กาวเชื่อมติดไว้ หากเป็นทองจริงจะไม่หลุดออก เว้นแต่จะโดนความร้อนจนหลอมละลาย เมื่อทราบจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความ

ทั้งนี้ ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน รับสารภาพว่า นำทองปลอม (ตะขอทองแท้)​ มาตระเวนขายตามร้านทองทั่วกรุงเทพฯ และพื้นที่ต่างจังหวัดจริง โดยรับมาจากนายเบิร์ด ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ให้ช่วยนำทองน้ำหนัก 2 บาท หรือ 3 บาท ไปขาย หรือไปจำนำ โดยจะได้ค่าจ้างจากน้ำหนักทองบาทละ 5,000 บาท ซึ่งทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และอยู่ระหว่างขยายผล

พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า แม้ทางร้านทองจะมีการตรวจสอบที่หน้าร้านแล้วว่า เป็นทองแท้ แต่เมื่อมีการส่งไปตรวจยังสำนักงานใหญ่ กลับพบว่า เป็นทองปลอม จึงเชื่อว่า มิจฉาชีพน่าจะรู้ขั้นตอนการตรวจสอบทองของร้านทอง จึงมีกรรมวิธีป้องกันการตรวจสอบ โดยใช้วิธีนำข้อต่อทองแท้มาใส่ไว้ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผล เนื่องจาก พบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคน มีการนำทองปลอม ตระเวนไปจำนำตามร้านทองต่าง ๆ มาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2567 คาดยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก