‘เคนโด้-ทนายพัฒน์’ พาผู้เสียหายหอบหลักฐานบุกกองปราบฯ ลุยเอาผิด ‘ร้านทองแม่ตั๊ก’

“เคนโด้ - ทนายพัฒน์” พาผู้เสียหาย “ร้านทองแม่ตั๊ก” หอบหลักฐาน รวมถึงผลตรวจเปอร์เซ็นต์ทองจากสถาบันฯ ที่ระบุชัดเจนว่า ไม่ตรงตามคำโฆษณา และไม่ได้ตามมาตรฐานของ สคบ. เข้าแจ้งความกองบังคับการปราบปรามเอาผิดทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ 26 ก.ย. 67 เคนโด้ หรือ นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร, ทนายพัฒน์ หรือ นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายความที่เข้ามาช่วยเหลือผู้เสียหายพาผู้เสียหาย เช่น คุณฝ้าย คุณเนย คุณกวาง คุณนาง คุณฟ้าและผู้เสียหายอีกหลายรายที่ซื้อทองจากร้านของแม่ตั๊ก หอบหลักฐานที่เป็นสร้อยข้อมือปี่เซียะทองคำ 8 ตัว พร้อมของแถมหลายรายการมาเพื่อแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. เพื่อให้พนักงานสอบสวนพิจารณาเอาผิดทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง

เคนโด้ บอกว่า นอกจากผู้เสียหายที่เดินทางมาที่ ปคบ.วันนี้แล้ว ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่อยู่ต่างจังหวัดและต่างประเทศ วันนี้ตนจึงได้วิดีโอคอลไปพูดคุยกับผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่อยู่ต่างประเทศด้วย ส่วนใหญ่เจอปัญหาเดียวกันคือสั่งซื้อสร้อยข้อมือปี่เซียะทองคำจากร้านแม่ตั๊กเพราะเข้าใจว่าเป็นทองคำหนัก 1 บาท

ซึ่งตนได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายหลายรายว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อทองร้านแม่ตั๊ก ซึ่งตนเคยทำเคสการหลอกขายของในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ผู้เสียหายมีจำนวนมาก โดยเคนโด้ มองว่า คดีลักษณะนี้จากประสบการณ์ที่ตนเอง ทำและอ้างอิงจากที่ตำรวจ ปคบ. พูดในรายการโหนกระแสเมื่อวาน เข้าข่ายคดีฉ้อโกงประชาชนได้

ด้าน น้อง ผู้เสียหาย นำผลตรวจทองคำจากสถาบันอัญมณีฯ มาด้วย ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยทำคลิปรีวิวสินค้าร้านแม่ตั๊กหลายครั้งแต่คนก็ยังไม่เข้าใจเรื่องทอง เรื่องน้ำหนักทอง หรือ เปอร์เซ็นต์ทอง แต่วันนี้รายการโหนกระแสได้ตีแผ่ความจริงและทำให้ประชาชนเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของทอง ซึ่งของตนก็มีผลตรวจออกมาชัดเจนแล้วว่าไม่ตรงกับที่แม่ตั๊กโฆษณาหรือทำการตลาดผ่านทางโซเชียล และผลตรวจระบุว่าทองก็ไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่ สคบ. ระบุไว้ สำหรับเรื่องที่แม่ตั๊กเคยขอโอกาสกลับมาทำธุรกิจอีกครั้ง ตนมองว่าควรไปรับกรรม และที่จะไปทำบุญช่วยเหลือคนอื่นต่อ ตนมองเหมือนที่พี่หนุ่มพูดไว้ว่า เอาเงินบาปไปทำบุญ

ทนายพัฒน์ บอกว่า การที่ผู้เสียหายออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและถูกข่มขู่จะดำเนินคดีหมิ่นประมาท เหมือนกรณีของคุณสตางค์ ทนายพัฒน์บอกผู้เสียหายว่า ไม่ต้องกังวล เพราะไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท เนื่องจากการเป็นการเรียกร้องความเป็นธรรมที่ตนเองเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ส่วนผู้เสียหายที่อยู่ต่างประเทศวันนี้หลังจากเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว ตนจะขอคำแนะนำจากทางตำรวจว่าจะมีแนวทางในการช่วยเหลือผู้เสียหายที่อยู่ต่างประเทศอย่างไรได้บ้าง เช่น การมอบอำนาจหรือให้ใครมาเป็นเจ้าถูกแจ้งความแทน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. บอกว่า หลังจากนี้จะตั้งกลุ่มไลน์เพื่อให้ผู้เสียหายที่อยู่ตามต่างจังหวัด เข้ามาแจ้งความ เบื้องต้นในกลุ่มไลน์ก่อน และตำรวจจะทยอยนัดผู้เสียหายมาให้ปากคำ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ตำรวจกองปราบทำคดีลักษณะนี้มาเยอะผู้เสียหายเป็นร้อยเป็นพันคน อาจจะใช้เวลาพอสมควรแต่ก็สามารถช่วยเหลือทางคดีได้ทุกราย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/IMv_gezrWmE