ลูกค้าบ่นอุบ! ออมทองร้านแม่ตั๊ก ขาดทุนกว่า 2 พัน ด้าน สคบ.ลงพื้นที่ยึดทองตรวจสอบ

ลูกค้ากังวล 'ออมทอง' ร้านของแม่ตั๊ก ออมเกือบปีเอาทองไปขายต่อขาดทุนกว่า 2 พัน สงสัยทองได้มาตรฐานหรือไม่ ด้าน สคบ.ลงพื้นที่ยึดทองตรวจสอบ

จากการพูดคุยกับ คุณบี ลูกค้าออมทองร้านแม่ตั๊ก บอกว่า เธอได้รู้จักกับแม่ตั๊กเนื่องจากเห็นว่า ทีการไลฟ์สดขายอาหารเสริม เคยซื้อมาทานและเคยอุดหนุนสินค้าของแม่ตั๊กอยู่บ่อยครั้ง เพราะชอบและประทับใจแม่ตั๊กในหลาย ๆ อย่าง

ต่อมาทางเพจมีการโปรโมทเรื่องของออมทองกับทางร้าน ทำให้เกิดความสนใจ จึงเดินทางไปที่หน้าร้านทองของแม่ตั๊ก แล้วไปออมที่หน้าร้าน ซึ่งทางร้านมีโปรโมชั่นให้ ออม 500 บาท ได้ออนท๊อปอีก 500 บาท จึงเริ่มออมตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว หลังจากออมมาตลอดจนถึงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทางแอดมินมีการทักเข้ามาเสนอเงื่อนไข ให้หยุดการออม ตนก็สอบถามไปว่า ออมต่อไม่ได้เหรอ แต่ทางแอดมินบอกว่าไม่ได้ ต้องเปิดบิลใหม่ ให้เลือกว่าจะเอาเพรช หรือ ทอง ตนออมไปทั้งหมด 5,000 บาท ถ้าทอง 1 กรัม ราคา 3590 บาท ถ้าทอง 2 กรัม ราคา 6,200 บาท ตนจึงตัดสินใจเอาทอง 2 กรัม 6,200 บาท โดยเพิ่มเงินไป 1,200 บาท

หลังจากนั้นทางร้านได้ส่งทองมาให้ทางไปรษณีย์ หลังจากตนได้รับทอง จึงนำไปที่ร้านทองเพื่อสอบถามราคา ทางร้านทองให้ได้ช่างน้ำหนัก และคำนวนราคาได้ในราคา 4,000 บาท ซึ่งขณะนั้น ทองหน้าร้านน้ำหนักเท่ากัน ราคาเพียง 5,200 บาท ส่วนต่างที่ร้านขายคือ 1,000 บาท

หลังจากที่รู้ว่าร้านทองให้เพียง 4,000 บาท ทำให้ตนรู้สึกว่าไม่คุ้ม เพราะตนขาดทุนไป 2,000 บาท ตนเข้าใจว่าทองมีค่าบำเหน็จ แต่ปกติแล้วไม่ควรเกิน 500-800 บาท แต่ตนขาดทุนไป ก็ไม่รู้ว่าโดนหักอะไรบ้าง

คุณบี บอกว่า หลังจากที่ติดตามข่าวว่ามีการนำทองไปขายคืน ทำให้ตนกังวลอีกว่า ทองที่เราถืออยู่ เปอร์เซ็นต์ทองอยู่ที่เท่าไหร่ ได้เท่ากับที่ขายตามท้องตลาดหรือไม่ จึงอยากฝากสอบถามทางร้าน หรือ ขอความกระจ่างว่า ทองได้มาตราฐานหรือไม่

นอกจากนี้ คุณ บี ยังบอกว่า ตอนนี้ตนเสียความรู้สึก เพราะตนติดตามแม่ตั๊กมานาน ถึงตนจะไม่ได้เป็น FC แต่ก็ชื่นชอบ และเชื่อใจ วันนี้กลายเป็นว่าความรู้สึกถูกทำลาย

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา (สคบ.) พร้อมเจ้าหน้าที่ สคบ.ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ร้านทองของแม่ตั๊ก

นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากที่เป็นกระแสข่าวทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ สคบ. ลงมาดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบกับประชาชนจำนวนมากอาจจะต้องไปดูในระเบียบว่าจะสามารถชดใช้หรือเยียวยาในส่วนใดได้บ้าง

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องขออายัดทองบางส่วนไปตรวจสอบ โดยจะเจาะจงในส่วนที่เป็นประเด็น ทั้งปี่เซี่ยะ และจี้ทองไปตรวจสอบก่อน ซึ่งทางเจ้าร้านทองเท่าที่ได้เจอกันในรายการโหนกระแสก่อนหน้านี้ก็ยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการ ทาง สคบ.จึงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ในส่วนของ ราคา , ปริมาณทอง , คุณภาพทองพร้อมกับดูฉลากทอง ว่าทางร้านได้มีการติดฉลาก บอกรายละเอียดครบถ้วนถูกต้องหรือไม่

นอกจากนี้ต้องตรวจสอบสิ่งที่พูดในการไลฟ์สดขายทองก่อนหน้านี้ทุกคลิปว่า ข้อเท็จจริงที่พูดตรงกับตัวทองคำที่นำมาขายหรือไม่ และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดหรือไม่ หากพบว่า มีส่วนใดเข้าข่ายความผิด ทางสคบ.จะดำเนินการทันที ไม่จำเป็นต้องมีผู้ร้องเนื่องจากเป็นความผิดต่อรัฐ

ส่วนที่มาของสินค้า ทางเจ้าของร้านทองได้ชี้แจงว่าเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งส่วนนี้ สคบ.จะตรวจสอบไปถึงแหล่งที่รับซื้อเช่นกัน โดยระยะเวลาในการตรวจสอบนั้น นายเลิศศักดิ์คาดว่าไม่นาน เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฎ ทั้งนี้หากประชาชนมีข้อร้องเรียน สามารถไปร้องเรียนได้ที่ สคบ. หรือผ่านช่องทางออนไลน์ ทางเว็บไวต์ สคบ. โดยตรง

ด้าน ผู้จัดการร้าน เปิดเผยว่า เนื่องจากมีผู้นำทองมาขายที่ร้านเป็นจำนวนมาก ทางร้านพยามเคลียร์เงินคืนให้ลูกค้าอย่างเต็มที่ และดีที่สุด ไม่อยากให้ลูกค้าต้องมารอนานเพราะกลัวลูกค้าเสียเวลา ส่วนเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ทางร้านยินดีให้ความร่วมมือ

สำหรับลูกค้าที่นำทองมาขายคืน หากนำมาครบทุกชิ้นรวมของแถมด้วย เราจ่ายเงินคืนเต็มจำนวน แต่ถ้ามาไม่ครบต้องดูว่า เป็นอะไรที่ขาดหายไป เราเช็คย้อนหลัง ได้ว่าลูกค้าแต่ละคนตอนซื้อของไปมีอะไรบ้าง ถ้าของแถมมาไม่ครบจริงๆ ต้องมาตกลงกันที่ร้านว่าจะรับซื้อคืนในราคาเท่าไหร่

ส่วนที่บอกว่ามีการให้เซ็นเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีนั้น ทางผู้จัดการไม่ได้ตอบคำถาม

https://youtu.be/3Vesupnd6F0