พฐ.พบน้ำยาล้างท่อตันเถื่อน ทำปฏิกิริยาเคมีจนเกิดแก๊สไข่เน่า คร่าชีวิต 3 แม่ลูก

พฐ.เปิดสาเหตุการเสียชีวิตของ 3 แม่ลูก เกิดจากน้ำยาล้างท่อตันเถื่อน ทำปฏิกิริยาเคมีกับสารตัวอื่นในท่อจนเกิดเป็น ‘แก๊สไข่เน่า’ ยันไม่มีโซดาไฟ ล่าสุดเตรียมรื้อบ้านเรือนแถวนั้นแล้ว

จากกรณีการเสียชีวิตของร้อยตำรวจเอกหญิง และลูกสาว รวม 3 ศพ ภายในบ้านพักตำรวจที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรีนั้น เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.67) ในการแถลงข่าว ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้จำลองการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีของน้ำยาขจัดสิ่งอุดตัน โดยนำเอาบิ๊กเกอร์มาใส่เซลลูโลส หรือสารอินทรีย์ที่ย่อยสลายไม่ได้ จำลองว่าบิ๊กเกอร์นี้เป็นท่อน้ำทิ้งที่อุดตัน จากนั้นทดลองใส่น้ำยาล้างห้องน้ำไปเล็กน้อย จะเห็นว่าตัวเซลลูโลสไม่ย่อยสลาย และเกิดการตกค้างของน้ำยาล้างห้องน้ำ หากใส่น้ำยาขจัดสิ่งอุดตันที่ผู้ตายใช้ลงไป จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีทำให้เกิดควัน และมีกลิ่นเหม็น เมื่อใช้แผ่นทดสอบความเป็นกรดด่างจะเห็นว่าค่า PH มีความเป็นกรดอยู่ราว 3% แสดงว่ามีอันตรายต่อผู้ใช้หากได้รับในปริมาณที่มา

พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้อธิบายขยายความส่วนนี้ว่า ในที่เกิดเหตุเจอขวดน้ำยาขจัดสิ่งอุดตันถูกทิ้งในถังขยะ เหลือปริมาณน้ำยาแค่ก้นขวดแสดงว่ามีการใช้แล้วในปริมาณมาก นอกจากนี้เจอน้ำยาล้างห้องน้ำอื่นๆ อีกหลายขวดวางอยู่ในห้องน้ำด้วย ได้แก่ น้ำยาล้างห้องน้ำและขจัดคราบสุขภัณฑ์ 2 ขวด น้ำยาทำความสะอาดพื้นและสุขภัณฑ์ สเปรย์ดับกลิ่น 1 ขวด และทุกขวดถูกใช้แล้ว

เป็นไปได้ว่า หนึ่งในผู้ตายอาจจะใช้น้ำยาล้างห้องน้ำล้างความสะอาดพื้นตามปกติ แล้วเกิดการตกค้างอยู่ในท่อน้ำทิ้งที่อุดตันโดยที่เจ้าตัวไม่ทราบ ดังนั้นเมื่อเทน้ำยาขจัดสิ่งอุดตันที่มีฤทธิ์เป็นกรดเข้าไป ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีแล้วเกิดแก๊สไข่เน่า ที่มีความเข้มข้นสูง โดยสังเกตได้จากปริมาณของน้ำยาขจัดสิ่งอุดตันถูกใช้จนเกือบหมดขวด ส่งผลให้ผู้ที่สูดดมเกิดหมดสติ ยืนยันคดีนี้ไม่มีโซดาไฟ แต่เป็นการทำปฏิกิริยาทางเคมีของน้ำยาที่เป็นกรดและด่าง

ผู้บัญชาการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า สาเหตุที่ทำไมถึงเสียชีวิตถึง 3 ศพในห้องน้ำ ทั้งที่น่าจะช่วยออกมาได้ น่าจะเป็นเพราะขนาดของห้องน้ำที่แคบมาก กว้าง 1.2 เมตร ยาว 2.5 เมตร สูง 2.05 เมตร มีช่องระบายอากาศ 40 เซนติเมตร และประตูยังต้องผลักเข้าด้านในอีก พอผลักเข้าไปจะเจอกับชักโครกทันที ดังนั้นพอเข้าไปแล้วต้องปิดประตูก่อน จึงจะเข้าไปช่วยคนที่อยู่ข้างในได้ นั่นคือคำตอบว่าทำไมถึงเจอ 3 คน อยู่ด้านในห้องน้ำที่ปิดประตู

และแม้ห้องน้ำจะมีช่องระบายอากาศแต่ด้านหลังห้องน้ำ คือ ครัวปิดที่ต่อเติมขึ้นมาและมีรูระบายอากาศเล็กน้อย ซึ่งไม่เพียงพอต่อการระบายแก๊สไข่เน่าออก ทำให้แก๊สวนเวียนอยู่ภายในบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ไปถึงหลังเกิดเหตุ พบว่าแม้จะผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมงยังคงมีแก๊สไข่เน่าคละคลุ้งรุนแรงภายในบ้าน

เมื่อนักข่าวถามว่าแก๊สไข่เน่าต้องเข้มข้นแค่ไหนถึงทำให้ผู้ที่สูดดมเสียชีวิตได้ นักวิทยาศาสตร์ผู้ชำนาญการของ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจให้ข้อมูลว่า ถ้าในที่เกิดเหตุมีความเข้มข้นของแก๊สไข่เน่า 50 PPM อาจจะแค่เคืองตา แต่ถ้า 500-1000 PPM จะทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงาน หยุดหายใจได้ทันที

นอกจากนี้พลตำรวจโท ไตรรงค์ ยังกล่าวอีกว่า น้ำยาสลายคราบอุดตันยี่ห้อนี้ ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ต้องซื้อตามร้านวัสดุก่อสร้าง หรือในอินเทอร์เน็ต และเมื่อนำมาตรวจสอบพบว่า ไม่มีชื่อบริษัทผู้ผลิต ไม่มีเลข อย. ไม่มีเลขทะเบียนวัตถุอันตราย ซึ่งในเรื่องนี้จะต้องส่งให้ตำรวจภูธรภาค 2 ดำเนินการต่อ

ในเรื่องของบ้านพักที่มีห้องน้ำแคบ พลตำรวจตรี ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ที่เกิดเหตุซึ่งมีลักษณะเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น สร้างมานานแล้วประมาณ 30 ปีแล้ว โดยลักษณะหรือแบบของบ้าน โดยเฉพาะห้องน้ำที่มีขนาดเล็กและแคบนั้น เป็นไปตามมาตรฐานและสเปค ที่กองบังคับการโยธาฯ สมัยนั้นออกแบบตามสัดส่วนของห้อง

บ้านเรือนแถวนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีกำลังเตรียมจะรื้อถอนและสร้างใหม่ ซึ่งทางกองบังคับการกองโยธาธิการฯ ได้มาตรวจสอบและทำโครงการไปแล้ว และคาดว่าจะจัดสรรงบประมาณลงมาและดำเนินการก่อสร้างเป็นแฟลตสูง 5 ชั้น คาดว่าจะได้รับอนุมัติงบประมาณและดำเนินการได้ในปี 2568 แต่ก็มาเกิดเหตุนี้เสียก่อน

ด้าน พลตำรวจตรี สมิทธิ สุวรรณสุขโรจน์ ผู้บังคับการกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง กล่าวว่า ที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นเรือนแถว 10 คูหา เมื่อก่อนจะเป็นเรือนแถวของตำรวจชั้นประทวน การก่อสร้างเป็นแบบมาตรฐานของกองบังคับการกองโยธาธิการฯ ที่ใช้แบบเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งมีสภาพเก่าและอยู่อาศัยนานมากแล้ว

รับชมผ่านยูทูป :  https://youtu.be/DJlGEbRpz70