สังคม

พ่อร้อง ถูกโมเดลลิ่งเก๊หลอก อ้างจะให้ลูกสาวถ่ายโฆษณากับ "ลิซ่า Blackpink" สูญเงิน 8.7 ล้าน

โดย thanaporn_s

30 ก.ค. 2567

372 views

วันที่ 30 ก.ค. 2567 ผู้เสียหายซึ่งเป็นพ่อของเด็กหญิงวัย 10 ปี และ 11 ปี เดินทางมาจากจังหวัดแพร่ เพื่อเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกโมเดลลิ่งเก๊ถูกหลอกโอนเงินเกือบ 9 ล้านบาท อ้างว่าลูกสาวจะได้ถ่ายโฆษณาร่วมกับ ลิซ่า และศิลปินชื่อดังอีกหลายคน แต่ต้องวางเงินประกัน

ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ภรรยาของตนรู้จักกับโมเดลลิ่งเก๊ คือ นางสาวน้ำผึ้ง ผ่านทางเฟซบุ๊ก เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีโปรไฟล์ว่าเป็นโมเดลลิ่ง เฟ้นหานักแสดงไปถ่ายโฆษณาหรืองานในวงการบันเทิงต่างๆ ร่วมกับศิลปินดาราชื่อดัง จากนั้น นางสาวน้ำผึ้งก็ได้ทักมาหาภรรยาของตน พร้อมกับเชิญชวนให้ลงคอร์สเรียนการแสดง โดยต้องจ่ายค่าเรียนการแสดงเป็นเงิน 17,000 บาท และให้คำมั่นว่าจะมีงานถ่ายโฆษณาเข้ามาอย่างแน่นอน

หลังจากที่ตนโอนให้เงินไป ยังไม่ทันที่ลูกสาวจะได้ไปเรียนการแสดง นางสาวน้ำผึ้งก็ติดต่อกลับมาว่า ให้ลูกสาวของตนไปถ่ายโฆษณานมเปรี้ยวยี่ห้อดัง ได้ค่าจ้าง 19,000 บาท และก็ได้ไปถ่ายจริงๆ ได้เงินจริงๆ ทำให้ครอบครัวของตนมั่นใจว่านางสาวน้ำผึ้งสามารถพาลูกสาวคนโตเข้าสูวงการบันเทิงได้จริง หลังจากนั้นก็ได้ไปถ่ายโฆษณาขนมชื่อดังอีกตัวหนึ่ง

ต่อมา นางสาวน้ำผึ้ง ก็ได้มีการมาชักชวนให้ลูกสาวไปถ่ายโฆษณาตัวอื่นๆ อยู่หลายครั้ง โดยอ้างว่าเป็นการถ่ายโฆษณาร่วมกับ นางสาวลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า Blackpink โดยบอกว่าตัวเองสนิทสนมกับลิซ่า สามารถพาไปถ่ายงานร่วมกันได้ทั้งครอบครัว ได้ค่าจ้างหลัก 2-3 แสนบาทต่องานต่อคน แต่มีเงื่อนไขว่าต้องวางเงินประกันก่อนทุกงาน ประมาณ 50% ของค่าจ้างแต่ละงาน โดยอ้างว่า ป้องกันนัดคิวแล้วไม่มาถ่ายจะทำให้บริษัทเสียหาย ซึ่งมีงานที่มาดีลไว้ทั้งหมดประมาณ 30 งาน รวมโอนเงินมัดจำไป 42 ครั้ง ครั้งละหลักพันไปจนถึงหลักแสน รวมเป็นเงิน 8.7 ล้านบาท

นอกจากนี้ ครอบครัวยังต้องเดินทางมาจากจังหวัดแพร่ มาเปิดโรงแรมนอนพักที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม ตามวันนัดถ่ายงาน แต่นางสาวน้ำผึ้งก็ได้เลื่อนประวิงเวลามาตลอด อ้างว่าลิซ่าคิวไม่ว่าง แต่พอถามว่าจะได้คิวเมื่อไหร่ ก็บอกว่าเป็นความลับของศิลปิน บอกไม่ได้ ให้รออย่างเดียว จนทำให้ผู้เสียหายเอะใจ และรู้ตัวว่าถูกหลอก

หลังจากนั้น ตนได้พยายามติดต่อสอบถามไป โดยจะไปแจ้งความแล้วให้ตำรวจช่วยโทรติดต่อให้ นางสาวน้ำผึ้งก็อ้างว่าจะคืนเงินทั้งหมดให้ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังบ่ายเบี่ยงอยู่ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน เพราะเงินเกือบ 9 ล้านที่โอนไปนั้น เป็นเงินเก็บทั้งชีวิตตน 5 ล้านบาท และยังต้องไปหยิบยืมญาติมาอีกกว่า 3 ล้านบาท เพราะหวังอยากให้ลูกสาวได้เข้าวงการบันเทิง ได้ถ่ายโฆษณากับศิลปินที่ชื่นชอบ ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อจิตใจลูกสาว เพราะผิดหวังที่ไม่ได้ถ่ายงานด้วย

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดู เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความกับพลตำรวจตรีชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 และเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้ เพราะตอนนี้ในเฟซบุ๊กของนางสาวน้ำผึ้ง ก็ยังมีการโพสต์หานักแสดงไปถ่ายโฆษณาอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดคือเมื่อวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา


จากนั้น ผู้เสียหายได้พยายามติดต่อไปยังนางสาวน้ำผึ้ง แต่โทรศัพท์เหมือนปิดเครื่อง จากนั้นไม่นานนางสาวน้ำผึ้งโทรกลับมา ผู้เสียหายจึงสอบถามว่าเงินจำนวนเกือบ 9 ล้านบาท จะได้คืนเมื่อไร ทางนางสาวน้ำผึ้งตอบกลับมาว่า จะพยายามหาให้ ซึ่งจะได้ข้อสรุปช่วงบ่ายวันนี้ เราจะสามารถคืนเงินบางส่วนให้ในวันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคมนี้

ผู้เสียหายถามต่อว่า คิวของลิซ่าที่จะให้บินไปถ่ายที่เกาหลีร่วมในฉากด้วย คอนเฟิร์มหรือยัง นางสาวน้ำผึ้งก็ตอบแบบอึกอักว่า ขอประสานไปทางลิซ่า และจะขอแจ้งรายละเอียดกลับมาที่ผู้เสียหายอีกครั้ง

คุณอาจสนใจ

Related News