นายกฯ ลงพื้นที่จันทบุรี รับฟังปัญหาทุเรียน ชาวสวนเสนอดีล “ลิซ่า” ช่วยขายผลไม้ไทย

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จันทบุรี รับฟังปัญหาต้นทุนการผลิตทุเรียน - หามาตรการช่วยเหลือ ขณะที่ชาวสวนขอรัฐบาลดีล “ลิซ่า” โปรโมต หวังทำยอดพุ่ง 5 แสนล้าน

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก และแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

โดยมี น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี เขต 3 นายวรายุทธ ทองสุข สส.เขต 1 นายศักดินัย นุ่มหนู สส. ตราดพรรคประชาชน มาร่วมรับฟังนโยบายจากนายกฯและร่วมรับฟังปัญหาในครั้งนี้ด้วย

โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้รับฟังการรายงานสถานการณ์การส่งออกทุเรียนในพื้นที่ จากผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และรับฟังความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องของการส่งออก แต่ปัจจุบันผ่อนปรน ทำให้การส่งออกนั้นราบรื่นขึ้น และราคาหน้าสวนอยู่ที่ 120 บาทต่อกิโลกรัม

โดยเกษตรกรและสมาคมผู้ผลิตทุเรียนไทย อยากจะร้องขอให้รัฐบาลช่วยผลักดันให้เกิดความยั่งยืนกับทุเรียนไทย สนับสนุนผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากนักลงทุนที่จะมาลงทุนซื้อทุเรียนในไทยมีอยู่เพียงกลุ่มเดียว และประเทศผู้ผลิตอื่นๆ ก็มีเพิ่มขึ้น

โดยอยากให้รัฐบาลส่งเสริมเรื่องแล็ปตรวจการส่งออก ตั้งอยู่ในจังหวัดหลักที่มีผลผลิตของผลไม้อย่างจันทบุรีหรือชุมพร เพื่อสร้างความสะดวกรวดเร็ว ให้กับผู้ประกอบการที่จะส่งออกทุเรียน สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน เนื่องจากที่ผ่านมาทุเรียนเป็นผลไม้ที่ต้องใช้เงินทุนสูง เพราะหากขาดตอนก็จะไม่สามารถกลับมาลงทุนซื้อทุเรียนที่ต้นทางได้

ขณะเดียวกันขอให้รัฐบาลใช้ อินฟูลเอนเซอร์ระดับโลก เช่น ลิซ่า BLACKPINK ให้ช่วยโปรโมททุเรียน รักษาลูกค้าชาวจีน เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของทุเรียนและผลไม้ไทยที่ตลาดปลายทาง เพราะปัจจุบันเวียดนามและอินโดนีเซียเป็นคู่แข่งส่งไปจีน รวมทั้งเปิดตลาดใหม่ๆ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วโลก เพิ่มมูลค่าตลาดเป็น 5 แสนล้านบาทได้สำเร็จ

พร้อมกับเรียกร้องให้ออกกฎกระทรวง หรือให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ในการบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาทุเรียนอ่อน น้ำหนักไม่ได้ตามที่กำหนด รวมถึงแก้ไขปัญหาการขนส่งที่ติดปัญหาเรื่องหน้าด่าน อยากให้รัฐบาล ช่วยเจรจากับประเทศคู่ค้า เพื่อให้ขนส่งได้รวดเร็ว เพราะทุเรียนเป็นผลสดยิ่งช้ายิ่งเกิดความเสียหาย

ขณะเดียวกันยังอยากให้ช่วยดูราคามังคุดเนื่องจากยังคงมีราคาแกว่งต้นทางถูก แต่ปลายทางราคาสูง รวมไปถึง การแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่ แม้ว่าสส.ในพื้นที่จะช่วยผลักดันแล้วแต่ยังไม่คืบหน้า

ด้าน นายกรัฐมนตรี กล่าาว่าจากการรับฟังการสะท้อนปัญหา ทั้งเรื่องราคาสินค้า ขอไปดูรายละเอียดกับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างไรได้บ้าง

โดยภาพรวมในปีนี้ผลไม้จะล้นตลาด รัฐบาลก็พยายามนำเอกชนมาช่วยซื้อเพื่อไม่ให้ราคาลงมาก และสินค้าไม่เน่าเสีย นอกจากนี้ยังสนับสนุนเรื่องวิจัยแล็ป ซึ่งจากที่ตนเดินทางไปทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย จะเน้นเรื่องอาร์เอ็นบีเอ สิ่งที่ทำให้เห็นว่าประเทศเพื่อนบ้านมีการวิจัยที่ดี เขาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเขาให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้าไปซื้อของดีที่ราคาถูกลง ซึ่งตนได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้สั่งการวิจัยเพิ่มเติมในทุกสินค้าของไทยที่ส่งออก จึงต้องรอดูการดำเนินการ เพื่อวางรากฐานสู่อนาคต

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวในช่วงท้ายว่า โลกเปลี่ยนไปแล้ว แต่ถ้าเรายังมีลมหายใจ เราสู้ไหวอยู่แล้ว ถ้าคิดไม่ออกให้ไปบอกผู้ว่าฯ ว่ามีข้อแนะนำอย่างไร

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียังได้อุดหนุนทุเรียนจากชาวสวนต้นอายุ 100 ปีซึ่งขายลูกละ 4,000 บาท จากเดิมที่เกษตรกรจะมอบให้นายกฯ แต่เนื่องจากราคาเกิน 3,000 จึงช่วยซื้อแทน