สังคม
แพทย์ชี้ เก๋งชนดะอ้างวูบ คาดหลับใน เพราะยังเหยียบคันเร่งได้ ไม่ใช่โรคประจำตัวกำเริบ
โดย panwilai_c
5 ก.ค. 2567
52 views
หมอหมู ชี้คนขับ BMW อาจหลับใน เป็นเหตุให้ขับพุ่งชนผู้เสียหาย เพราะหากเป็นโรคประจำตัว ไม่น่าจะมีแรงเหยียบคันเร่งได้
ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้โทรศัพท์สอบถาม รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือหมอหมู อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ถึงกรณีที่นำมาสู่ภาวะอาการวูบขณะขับรถจนทำให้สูญเสียการควบคุมรถ
หมอหมู เปิดเผยว่า ภาวะอาการวูบขณะขับรถจะเกิดขึ้นได้ด้วย 2 ปัจจัยคือ ปัจจัยโรคประจำตัวและปัจจัยจากภาวะหลับใน ซึ่งในส่วนของโรคประจำตัวนั้น ในทางการแพทย์มักจะเป็นเรื่องของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคเส้นเลือดในสมอง และโรคน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งทั้ง 3 โรคนี้ หากมีอาการกำเริบขึ้นมา จะส่งผลทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยและหมดสติทันที เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเช่นเดียวกัน แต่ในภาวะนี้นั้นร่างกายจะไม่ทำงานถึงขนาดเหยียบคันเร่งค้างได้ และมือผู้ป่วยจะปล่อยจากพวงมาลัย ไม่สามารถควบคุมรถให้ขับไปทางตรงได้
ปัจจัยที่ 2 คือเรื่องของภาวะหลับใน ซึ่งภาวะดังกล่าวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ หากผู้ป่วยพักผ่อนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือประสบภาวะเครียด จนเกิดอาการอ่อนเพลียและวูบหลับในขณะขับรถได้ ซึ่งผู้ป่วยในภาวะหลับใน มักจะมีอาการที่ยังคงสามารถควบคุมความเร็วรถได้ เช่น เหยียบคันเร่งค้างหรือจับพวงมาลัยตรง แต่ไม่มีสติที่จะบังคับทิศทาง จนอาจจะเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนขึ้นมาได้
กรณีที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ในช่วงเวลานั้นเกิดภาวะอาการวูบและไม่มีสติแล้ว หมอหมูมองว่า ก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะเนื่องจากภาวะการหลับในมักจะเกิดขึ้นเป็นช่วง ๆ โดยจะเป็นช่วงที่พอรู้สึกตัวแล้วก็วูบไป หากฝืนขับรถต่อไป โดยไม่จอดพัก ก็ทำให้เกิดอาการวูบต่อไปอีกจนเกิดอุบัติเหตุได้ แต่หากจะอ้างว่าเป็นเพราะโรคความดันด้วยนั้น จึงยังมองว่าน้ำหนักยังไม่เพียงพอ
หมอหมูฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชนว่า การดูแลสุขภาพตนเองก่อนขับขี่ยานยนต์เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะเนื่องจากภาวะพักผ่อนไม่เพียงพอจะนำมาสู่อาการหลับใน ซึ่งถือว่าเป็นสาเหตุนำมาสู่อุบัติเหตุได้ รองจากเมาแล้วขับ
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/e4nFER5Bifs