ลูกคลั่งยา มีดพร้าฟันพ่อแม่ ถูกพ่อใช้ดัมเบลทุบหัวดับคาที่ พ่อเผยหมดเงินกับการรักษาลูกชายกว่าล้านบาทแล้วแต่ไม่เคยหาย

ลูกคลั่งยา มีดพร้าฟันพ่อแม่ ถูกพ่อใช้ดัมเบลทุบหัวดับคาที่ พ่อเผยหมดเงินกับการรักษาลูกชายกว่าล้านบาทแล้ว แต่ก็ไม่หาย เคยติดคุก 2 ครั้ง ส่งบำบัดหลายครั้ง

วันที่ 17 พค. พ.ต.ท.จรัญ แนบเพชร สารวัตรสอบสวนสภ.เขาพนม จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่หมู่ 7 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจพร้อมพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาสันติสุข อ.เขาพนม โดยที่เกิดเหตุเป็นร้านค้าขายของชำ 2 คูหา ปลูกอยู่ริมถนนสายต้นหาร-หน้าเขา ภายในร้านพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนายอภิรักษ์ อายุ 38 ปี สภาพนุ่งกางเกงขาสั้น สวมรองเท้าหุ้มส้น ตรวจสอบพบมีแผลแตกที่กลางศีรษะและที่หน้าผากด้านซ้ายยุบกะโหลกศีรษะแตก มีเลือดไหลออกทางปาก จมูกและหูทั้ง 2 ข้าง

ใกล้กันพบแท่งดัมเบลน้ำหนัก 5 กก. มีดพร้า 1 เล่ม และมีดปลายแหลมยาวประมาณ 20 ซม. 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนั้นยังมีคนบาดเจ็บ 2 คน ซึ่งเป็นพ่อแม่ของคนตาย คือนายวิชัย อายุ 58 ปี และนางสุคนธา อายุ 56 ปี ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกจากถูกของมีคมที่ศีรษะและตามแขน ส่วนคนที่ทำให้นายอภิรักษ์ เสียชีวิต ก็คือผู้เป็นพ่อ ซึ่งไม่ได้หลบหนีไปไหน

โดยนายวิชัย พ่อของคนตายให้การว่า ขณะเกิดเหตุนั้นตนกับภรรยา นั่งอยู่ในร้านขายของตามปกติ ต่อมาลูกชายได้ตื่นนอนแล้วออกจากบ้านไปจนกระทั่งประมาณเกือบ 11 โมง ได้ขับรถจักรยานยนตของเพื่อนมาที่ร้านแล้วเดินถือพร้าเข้ามาฟันตนกับภรรยาทันที แต่ยังดีที่พร้าแค่เฉี่ยว ตนกับภรรยาได้เรียกลูกสาวซึ่งเป็นน้องของคนตายที่บ้านอยู่ติดกันให้มาช่วยกันจับ จนพร้าหลุด แต่คนตายได้ชักอาวุธมีดปลายแหลมออกมาทำท่าจะแทง ทุกคนได้เข้าช่วยกันมัดจนเข้าในบ้านหน้าห้องนอน ตนเห็นดัมเบลตั้งอยู่ข้างประตูก็รีบเอามาทุบไปที่ลูกชาย 2 ครั้ง เพื่อที่จะให้หยุดเท่านั้น แต่ไม่คาดคิดว่าจะเสียชีวิต

นายวิชัย ยังให้การว่า ลูกชายของตนเคยต้องโทษในคดียาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 2 ปี เพิ่งพ้นโทษล่าสุดเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา หลังจากถูกจับในคดียาบ้า 20 เม็ด และเมื่อออกมาก็กลับมาเสพยาบ้าอีก ไม่ทำการทำงาน และเกือบทุกครั้งที่เสพก็จะมีอาการหลอนที่ผ่านมาเคยส่งไปบำบัดหลายครั้งแล้ว กลับออกมาก็ไม่หายกลับมาเสพอีก ก่อนหน้านี้ตนถึงกับต้องขายที่ดิน 10 ไร่ ได้เงินเกือบ 1 ล้านบาท ตระเวนนำตัวไปบำบัดแต่ไม่หายจนหมดเงินไปกว่าล้านแล้ว ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ที่ผ่านมา ก็หลอนใช้มีดไล่แทงตนในสวนทุเรียนแต่ตนวิ่งหนีได้

ขณะที่นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ลูกชายของคนตาย กล่าวว่า ที่ร้านดังกล่าวมีตนพ่อและปู่ย่าพักอาศัยกัน 4 คน ส่วนแม่ของตนได้เลิกรากับพ่อไปแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมา พ่อก็มีอาการหลอน ตนได้เข้าไปคอยดูแลไม่ให้คุ้มคลั่ง จนช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนตื่นไปทำงานก็เห็นพ่อตื่นมาอาบน้ำก็ไม่คิดว่าจะหลอนอีก ตนจึงไปทำงานขับรถไถ จนทราบข่าวว่าพ่อเสียชีวิตดังกล่าว ยอมรับว่าที่ผ่านมาพ่อของตนเมื่อเสพยาบ้าก็จะมีอาการหลอนทุกครั้ง

เบื้องต้นทางตำรวจได้เรียกตัวนายวิชัย และผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำ เพื่อที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป