เลือกตั้งและการเมือง

"พิชัย" เตรียมหารือผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มั่นใจคุยภาษาเดียวกัน

โดย gamonthip_s

7 พ.ค. 2567

100 views

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังคนล่าสุด เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงวันแรก โดยนายพิชัยเปิดเผยว่า เตรียมหารือร่วมกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท. ต้องหาวันว่างให้ตรงกัน ในทันทีที่มีโอกาส เพื่อขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ ที่ต้องหาจุดร่วมเดียวกัน เชื่อว่าเป็นคนคุยภาษาเดียวกัน มักคุ้นดีกันกับผู้ว่าธปท. เพราะต่างมาจากแวดวงตลาดหลักทรัพย์และสถาบันการเงินเหมือนกัน ต่างกันแค่อายุ ทุกคนมีมุมมองของตัวเอง มองว่าทางนึงดีแต่ทางที่เสียอาจจะมองไม่เห็น สิ่งที่ต้องทำคือนั่งคุยกัน หาจุดยืนร่วมกัน ตกผลึก วางข้อเท็จจริงให้เห็น แก้ปัญหาของประเทศให้กับประชาชนซึ่งไม่ใช่เฉพาะคนจน



ที่ผ่านมาเงินเฟ้อต่ำ แต่รายได้ต่ำกว่า ประชาชนถึงมองว่าของแพง เห็นชัดจากหนี้สูง เงินออมไม่มี มองว่าเศรษฐกิจเชื่อมโยงกันหมด ตั้งแต่เจ้าสัวถึงผู้ใช้แรงงาน ถ้าแก้ช้าไปจะลุกลามถึงข้างบน ดังนั้นเวลาการใส่นโยบาย หรือเติมเม็ดเงิน ก็ได้ถึงกันหมด ทุกคนได้ วิธีแก้นี่คือ ต้องทำให้มั่นใจว่าเราจะมีโอกาส ทำเงิน รายได้ ให้ใหญ่กว่าหนี้ที่มี สำคัญตรงที่ว่ามีหนี้เป็นกี่เปอร์เซนต์ของโอกาสของชีวิต ซึ่งก็คือ GDP ช่วงที่ยังไม่เข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมือง มองว่านอกจากแก้หนี้ไม่ให้เดือดร้อนแล้ว อันดับแรกคือ ต้องเพิ่มรายได้ด้วยการทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งต้องเห็นไปในทิศทางเดียวกันก่อนแต่ในปัจจุบันยังมีความเห็นต่าง ทุกคนอยากเห็นความเจริญของประเทศ



เมื่อมองในมุมธปท. เเน่นอนว่าอยากสถานะการเงินของประเทศมั่นคง มีเงินทุนสำรองเยอะๆ แต่ขณะเดียวกันก็อยากเห็นว่าคนในประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็ต้องดูว่าจะเร่งเศรษฐกิจอย่างไร ถ้าเร่งมาก ของแพง ก็ต้องเบรคหน่อย แต่วันนี้พบว่ามันฝืดกว่าที่คาด ก็ต้องเหยียบคันเร่ง ซึ่งก็มีทั้งคันเร่งที่ต้องใช้เงินและคันเร่งที่ไม่ต้องใช้เงินแต่ใช้เพียงนโยบาย



หลายข้อยอมรับว่าอาจเป็นไปตามที่ธปท.แสดงความกังวล แต่บางประเด็นก็ต้องช่วยกันขยายความ เช่น กรณีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่กังวลว่าหากดอกเบี้ยลดลงจะทำให้ประชาชนใช้เงินมากขึ้น ซึ่งย่อมเป็นจริงหากไม่มีหนี้ หรือหนี้น้อย แต่ตอนนี้หนี้สูง ถึงลดดอกเบี้ยคนก็คงไม่ได้ใช้เงินเพิ่มขึ้น แต่ควรมองว่าทำยังไงให้มีเงินไปใช้หนี้ จึงเป็นการมองคนละบริบท ยืนยันว่า การให้เงินของรัฐ จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คือให้โอกาส ทั้งบริโภค เหลือไปจ่ายหนี้ หรือซื้อของไปลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าใส่เงินแล้วจีดีพีเพิ่ม จะสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนจากต่างประเทศด้วย ซึ่งได้รับการพิสูจน์มาแล้วจากในอดีต พร้อมยืนยันว่าธปท.ทำงานเป็นอิสระ หมายถึงมีอิสระในความคิด วิเคราะห์ มีอิสระในการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ขณะเดียวกันต้องสนองความต้องการของประชาชน ซึ่งก็หมายถึงต้องตอบสนองความต้องการของผู้ที่มาทำงานแทนประชาชนซึ่งคือภาครัฐด้วย และได้ประโยชน์ทุกฝ่าย



อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ผู้ว่าการ ธปท. จะอยู่ทำงานถึงสิ้นปีนี้หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า “เป็นคำถามที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว” ส่วนกรณีที่มีการพูดว่าจะต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ. ธปท. เพื่อลดความเป็นอิสระในการทำนโยบายนั้น มองว่า ไม่จำเป็น เพราะหากดูที่ตัวกฎหมายมีความเหมาะสมอยู่แล้ว



พร้อมกล่าวว่าวันนี้เป็นการทำงานวันแรกเท่าที่ติดตามข้อมูลก็พอใจในเรื่องการจัดทำงบประมาณ ในส่วนของงบลงทุนของปีงบ 2567 ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 24% จากปีก่อนที่ 20% ขณะที่งบโครงการลงทุนในต่างจังหวัดก็เพิ่มขึ้นเป็นระดับแสนล้านบาท จากปีก่อนที่ระดับหมื่นล้านบาทเท่านั้น สะท้อนว่า เป็นการจัดสรรงบประมาณที่สะท้อนความต้องการในระดับภูมิภาคมากขึ้น




ในส่วนของภาวะเศรษฐกิจไทย เห็นได้ว่าที่ผ่านมามีการเจริญเติบโตลดลงเป็นขั้นบันใด โดยอัตราเฉลี่ยทุก 5 ปี ลดลง 1% กว่า แม้ว่าทั่วโลกจะอยู่ในสภาวะเดียวกัน แต่ประเทศเพื่อนบ้านก็มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่าไทย ดังนั้นไทยจะต้องมาดูในเรื่องของการปรับโครงสร้างการผลิต เพื่อการส่งออก ต้นทุนที่สูง เทคโนโลยี รวมทั้งดูแลในเรื่องภาคการท่องเที่ยว ที่ต้องไปดูจังหวัดยอดนิยม ดูเรื่องโลจิสติกส์ให้มีความเชื่อมโยงกัน

คุณอาจสนใจ

Related News