สังคม

ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องรัฐเร่งจัดการ แก้ปัญหา 'กากแคดเมียม' จี้หาคนผิดมารับโทษ

โดย panisa_p

22 เม.ย. 2567

133 views

ผ่านมาหลายเดือนนับตั้งแต่เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ากากแร่แคดเมียม ที่พบลักลอบขุดและขนย้ายจากบ่อเก็บกากแร่เดิม ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ถูกกระจายไปตามจุดต่างๆ ในภาคกลางและตะวันออก ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า เรื่องการจัดการ แม้ว่าจะแผนการขนย้ายกากแคดเมียมกลับไปยังจังหวัดตากออกมาแล้ว โดยเป็นที่น่ากังวลว่าผลกระทบที่ตามมาจากมลพิษที่ถูกทิ้งไว้ ทั้งในพื้นที่และระหว่างการขนย้ายจะเป็นอย่างไร สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย จึงได้จัดเวทีเสวนาขึ้น เพื่อถอดบทเรียนและทางออกในการจัดการปัญหากากแคดเมียม นำเสนอการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบมากขึ้นและป้องกันการเกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก



นี่เป็นความกังวลจากนักวิชาการด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึงปัญหาที่อาจตามมาจากการขนย้ายกากแคตเมียม ที่จังหวัดตากไปอย่างน้อยใน 5 จุดตามจังหวัดต่างๆ เนื่องจากตามปกติแล้วเมื่อเข้าสู่กระบวนการฝังกลบ ก็จะมีมาตรการป้องกันการปนเปื้อนที่แน่นหนา แต่กรณีนี้เมื่อถูกขุดทำลาย ก็มีความเสี่ยงสูงที่สิ่งแวดล้อม ในบริเวณนั้นจะได้รับผลกระทบ จนไม่สามารถนำกลับไปฝังกลบที่เดิมได้



โดยนักวิชาการที่ร่วมแลกเปลีย่นความเห็นกันในวงเสวนา บทเรียนและทางออกการจัดการกากแคดเมียม ของสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เห็นตรงกันว่าสิ่งสำคัญในตอนนี้คือการเปิดเผยข้อเท็จจริงด้านข้อมูลต่อสาธารณชน ซึ่งควรเริ่มตั้งแต่การจัดทำฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นทาง



นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษกรมควบคุมมลพิษเปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ระหว่างการจัดทำทำเนียบการปลดปล่อยและขนย้ายมลพิษ หรือ PRTR ในช่วงปี 2567-2570 นี้ ซึ่งเป็นนโยบายมาตรฐานที่ทุกประเทศใช้ PRTR จะเป็นฐานข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชนผ่านระบบออนไลน์ โดยระบุชนิดและปริมาณสารเคมีที่มีการปลดปล่อยจากแหล่งกำเนิดต่างๆ สู่สิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังแสดงข้อมูลการขนย้ายของเสีย ทำให้ง่ายต่อการติดตาม การวางนโยบายและแผนป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษ



ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ มองว่า กรณีการลักลอบขนกากแคดเมียมต่อจากนี้ควรดำเนินการกับผู้กระทำผิดโดยเร็ว ซึ่งหากมีกฎหมาย PRTR เกิดขึ้นจริงก็จะช่วยให้ติดตามข้อมูลพื้นฐานของกากอุตสาหกรรมได้ง่ายขึ้น เพราะส่วนใหญ่ของบริษัทที่กระทำความผิดมักมีข้อพิรุธในสัญญา ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการเปิดโปงการทุจริตของราชการทั้งระบบได้ แต่ปัจจุบันไทยยังไม่ให้ความสำคัญกับกฎหมายสิ่งแวดล้อมเท่าที่ควร



ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม และอดีตประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ระบุว่า โจทย์ที่แท้จริงของการแก้ปัญหากากแคดเมียม ไม่ใช่การเร่งหาตัวคนผิด แต่คือการจัดการมลพิษที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไปพร้อมกัน



กรณีการขุดและเคลื่อนย้ายกากแคดเมียมในปริมาณมาก ทำให้เกิดข้อกังวลมากมาย จนเกิดเป็นคำถามที่ว่า เพราะเหตุใดจึงเกิดการลักลอบขนของเสียอันตรายจำนวนมาก โดยที่รัฐไม่รู้ไม่เห็นได้ ซึ่งสะท้อนปัญหาด้านประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี ก้าวต่อไปจากนี้จึงควรให้ความสำคัญ กับข้อกฎหมายอย่าง PRTR เป็นอันดับแรกเพื่อสร้างระบบฐานข้อมูลที่เปิดเผยได้อย่างโปร่งใสต่อสาธารณะ

คุณอาจสนใจ