สังคม

มาเช้ากลับเย็น! 2 โจรชาวจีน ฉกสร้อยข้อมือเพชร มูลค่า 1 ล้าน ก่อนเผ่นกลับประเทศ

โดย passamon_a

18 เม.ย. 2567

715 views

2 โจรชาวจีน ขโมยสร้อยข้อมือเพชร มูลค่า 1 ล้าน ก่อนหนีลอยนวลกลับจีน ตำรวจไทยเตรียมขออนุมัติหมายจับข้อหาลักทรัพย์ เข้าไทยอีกถูกจับแน่


เมื่อวันที่ 17 เม.ย.67 พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พร้อมด้วย ตำรวจ สน.ปทุมวัน เร่งติดตามตัวชายและหญิงไม่ทราบสัญชาติ ก่อเหตุลักทรัพย์สร้อยข้อมือเพชร yellow gold จำนวน 1 ชิ้น มูลค่า 1,040,000 บาท ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปทุมวัน กทม. เมื่อวันที่ 16 เม.ย. เวลา 18.36 น. ที่ผ่านมา


เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบผู้เสียหายเป็นผู้จัดการร้าน แจ้งว่าขณะปฏิบัติหน้าที่ พบผู้ก่อเหตุชายและหญิงไม่ทราบสัญชาติ โดยมีลักษณะรูปพรรณคล้ายชาวจีนหรือเกาหลี ได้หยิบสินค้าสร้อยข้อมือ มาทดลองใส่ที่แขนผู้ก่อเหตุ ในขณะที่จะส่งคืนทางร้าน ผู้ก่อเหตุใช้ช่วงพนักงานของร้านเผลอซ่อนของกลางภายในเสื้อแขนยาวที่ผู้ก่อเหตุใส่มา และออกจากร้านโดยไม่ได้ชำระค่าสินค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานฝ่ายสืบสวน และนำผู้เสียหายพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย


โดยกล้องวงจรปิดภายในร้านขายจิวเวลรี่ ภายในห้างสรรพสินค้า จับภาพคนร้ายเป็นชายผิวขาว สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงขายาวสีดำ ใส่แว่นสายตา ส่วนผู้หญิงสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ ใส่แว่นสายตาและหมวกผ้าสีดำ ลักษณะเหมือนชาวต่างชาติ เดินเข้ามาภายในร้าน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ทำทีมาขอดูสร้อยข้อมือหรูที่ประดับไปด้วยเพชร มูลค่าสูงถึง 1 ล้าน 4 หมื่นบาท ก่อนจะอาศัยจังหวะที่พนักงานเผลอ ผู้หญิงได้ใช้โทรศัพท์มือถือขึ้นมาบัง ส่วนฝ่ายชายก็ทำทีเก็บโทรศัพท์มือถือเข้าในกระเป๋ากางเกงด้านขวา เหมือนเป็นการสับขาหลอก แล้วรีบเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว


จากนั้นคนร้ายทั้งสองรีบเดินออกจากร้าน ไปขึ้นรถแท็กซี่หน้าห้างดังกล่าว หลบหนีไป


ด้าน พันตำรวจเอก อาคม ชุมพรัตน์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า พนักงานร้านให้การว่า คนร้ายทั้งสองคนเป็นนักท่องเที่ยว ไม่พูดไทย แต่งตัวดูภูมิฐานมีฐานะ และด้วยความที่เป็นร้านหรูที่อยู่ในห้างชื่อดัง จึงไม่ทันระวังว่าจะมีคนร้ายมาก่อเหตุลักษณะนี้ จึงประมาทไม่ได้จับตามองตลอดเวลา


จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า คนร้ายขึ้นแท็กซี่หลบหนีไปทางถนนพระรามเก้า แล้ววิ่งกลับมาขึ้นทางด่วนดินแดง มุ่งหน้าดอนเมือง จากการตรวจสอบพบว่า คนขับกับชื่อผู้ครอบครองรถเป็นคนละคนกัน ซึ่งต่อมาตำรวจได้ติดตามตัวเจ้าของแท็กซี่ดังกล่าวมาสอบปากคำได้แล้ว เมื่อช่วงเช้ามืด วันที่ 17 เม.ย. ต่อมา พ.ต.อ.อาคม เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน สน.ปทุมวัน เผยว่า เบื้องต้นคนขับรถแท็กซี่ ให้ข้อมูลว่ารถคันดังกล่าวได้พาคนร้ายทั้ง 2 คน ออกจากห้างไปส่งที่ย่านชานเมือง


ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถยืนยันตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนได้แล้ว ว่ามีชื่อนามสกุลอะไร พบเป็นชาวจีน แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดได้


ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน และชุดสืบสวนนครบาล 6 ไล่ติดตามตรวจสอบ 2 คนร้ายชาวจีน ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีโดยแท็กซี่ จากนั้นเวลา 17.41 น. คนร้ายได้กลับเข้าโรงแรมชาเทรียม เพชรบุรี


ต่อมาเวลา 17.54 น. คนร้ายเรียกรถแกร็บ ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีเทา พร้อมกระเป๋าเดินทาง ออกจากโรงแรมไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ กระทั่งเวลา 19.11 น. คนร้ายทั้ง 2 คน ผ่านด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิขาออก กลับประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อย โดยใช้เวลาก่อเหตุทั้งสิ้นประมาณ 2.30 ชั่วโมง


แนวทางสืบสวนยังพบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองเดินทางเข้ามาเมืองไทยเพื่อก่อเหตุนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากมาถึงเมืองไทยช่วงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 16 เม.ย. แล้วเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านพญาไท ก่อนจะมาก่อเหตุในช่วงเย็นวันเดียวกัน และเดินทางกลับหลังก่อเหตุเสร็จ หลบหนีด้วยการเดินทางบินกลับประเทศจีนทันที


ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หากเดินทางกลับเข้ามาจะถูกจับดำเนินคดีทันที


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบย้อนไปเมื่อปี 2549 เคยเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายชาวตะวันออกกลางเป็นชาย 5 หญิง 1 ทำทีเข้ามาดูเพชรในร้านเพชรแห่งหนึ่งในห้างสยามพารากอน ก่อนจะอาศัยความมือไวขโมยสร้อยเพชรไป 1 เส้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท แล้วขึ้นแท็กซี่หลบหนีไป


และในปี 2552 มีชายชาวต่างชาติคล้ายอาหรับราว 5 คน เข้าไปทำทีดูจิวเวลรี่ในร้านค้าที่มาออกบูธในงานแสดงจิวเวลรี่ แล้วคว้าเอากล่องใส่เครื่องเพชรกับอัญมณี ซึ่งมีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทไป และยังมีกระเป๋าที่ใส่ครื่องเพชรของอีกร้าน ที่มีเครื่องเพชรมูลค่ากว่า 15 ล้านอยู่ภายในไปด้วย ซึ่งตำรวจยังติดตามตัวคนร้ายไม่ได้


ในปี 2558 แก๊งคนจีนเข้ามาก่อเหตุในงานจิวเวลรี่ ที่เมืองทองธานี โดยทำทีมาซื้อเพชร 5 กะรัต มูลค่ากว่า 8 ล้านบาทในงาน แล้วแอบเอาเพชรปลอมมาสลับกับเพชรแท้ แล้วให้ฝ่ายหญิงกลืนลงท้อง ก่อนจะถูกตำรวจตามรวบได้ และให้กินยาถ่ายออกมา จากการสอบสวนพบว่าคนร้ายเป็นคนจีนเดินทางมาจากมณฑลยูนนาน เข้ามาทั้งหมด 20 คน เพื่อก่อเหตุกับร้านเพชร ซึ่งพวกเขาจะตระเวนก่อเหตุกับร้านเพชรทั่วโลก ซึ่งที่ไทยจัดงานจิวเวลรี่พอดี จึงเข้ามาลงมือ


ต่อมาในปี 2559 ก็เกิดคดีขโมยเพชรอีก แต่ครั้งนี้เป็นฝีมือของโจรชาวฟิลิปปินส์ 5 คน ขโมยสร้อยเพชร มูลค่ากว่า 3 แสนบาท จากงานแสดงจิวเวลรี่ที่เมืองทองเช่นกัน แต่ถูกจับได้ขณะกำลังเดินทางไปสนามบินดอนเมือง เพื่อออกนอกประเทศ


จากแนวทางการสืบสวนของตำรวจที่เคยทำคดีเหล่านี้ พบว่าลักษณะของแก๊งฉกเพชร จะเดินทางกันมาเป็นกลุ่มใหญ่พร้อมกัน โดยเข้ามาอยู่ไม่กี่วัน และมีกำหนดการจองตั๋วเดินทางกลับไว้แล้ว ตำรวจจะสังเกตได้ว่า เมืองต้นทางที่กลุ่มคนร้ายเดินทางมา จะไม่ใช่เมืองที่เป็นกลุ่มพ่อค้าเพชรอาศัยหรือมีธุรกิจ


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/OHTyTPmG1Ro

คุณอาจสนใจ