สังคม

'ปานปรีย์' เดินทางติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เตรียมถกแนวทาง หากการสู้รบยังไม่สงบ

โดย panwilai_c

12 เม.ย. 2567

27 views

ข่าว 3 มิติยังติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ที่เมืองเมียวดี ซึ่งล่าสุดเริ่มมีการเปิดฉากโจมตีกันอีกครั้งที่ด่านพรมแดนเมียวดี 2 ซึ่งมีทหารเมียนมากว่า 100 คนยังหนีทัพอยู่ที่นั่น



ขณะที่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ออกแถลงการณ์ ยืนยันว่าเมืองเมียวดีอยู่ในภาวะปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องสกัดกั้นกองทัพเมียนมาเข้ายึดคืน ส่วนรัฐบาลไทย โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จ.ตากเตรียมรับมือผลกระทบจากความรุนแรงในเมืองเมียวดี



ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ตึงเครียดมาอีกครั้งตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา หลังมีรายงานว่ากองกำลังผสมฝ่ายต่อต้านบินโดรนมาทิ้งระเบิดบริเวณด่านเมียวดี 3 ครั้ง ที่ด่านพรมแดนเมียวดี 2 ซึ่งมีทหารเมียนมากว่า 100 นายที่หนีทัพมาจากฐาน 275 หลบหนีอยู่ที่นี่ เป็นการตอบโต้ที่กองทัพเมียนมานำเครื่องบินรบมาทิ้งระเบิดที่ฐาน 275 ที่ฝ่ายต่อต้านยึดไปได้แล้ว ทำให้ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร วางกำลังดูแลความปลอดภัยเข้มขึ้น เนื่องจากจุดที่ได้ยินเสียงระเบิดห่างจากแม่น้ำเมยในฝั่งเมียวดีไม่เกิน 100 เมตร แม้ยังไม่ตกมาฝั่งไทย แต่จุดนั้นมีบ้านเรือนประชาชนอยู่ประมาณ 5-6 หลัง จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืนนี้



นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่ด่านพรมแดนแม่สอด 1 ตรวจเยี่ยมการเปิดด่าที่มีประชาชนทั้งสองฝั่งเดินทางเข้าออกตามปกติ



นายปานปรีย์ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นไปตามความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา หลังได้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจมีนายปานปรีย์ เป็นประธาน และติดตามใน 4 ประเด็นสำคัญที่ต้องเตรียมความพร้อมทั้งคนไทยที่จะได้รับผลกระทบจากความรุนแรง การอพยพของชาวเมียนมา กรณีคนจีนที่เข้าไปทำงานผิดกฎหมายในฝั่งเมียนมา หากขอเข้าไทยต้องมีการคัดกรองตามกฎหมาย



ส่วนกรณีทหารเมียนมาหนีทัพ หากขอเข้ามาในไทย ก็พร้อมช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และจะไม่ส่งกลับหากเป็นห่วงอันตราย แต่ยืนยันว่ายังไม่มีการร้องขออย่างเป็นทางการ



ส่วนที่สะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 2 ด่านพรมแดนแม่สอด 2 เปิดตามปกติแล้วในวันนี้ หลังปิดไปชั่วคราวเมื่อวานนี้ เพื่อให้รถบรรทุกขนส่งสินค้าได้เดินทางเข้าออกตามปกติ โดยทางฝั่งเมียวดีจะดูแลความปลอดภัยมีการกันพื้นที่จุดที่ทหารเมียนมาหนีทัพพักอยู่ กับเส้นทางขาเข้าของรถบรรทุก ซึ่งนายปานปรีย์ ยืนยันว่ารัฐบาลไทย พยายามในหลายช่องทางที่จะไม่ให้เกิดความรุนแรงในเมืองเมียวดีที่เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญชายแดนแม่สอด โดยรัฐบาลได้ส่งข้อความไปยังรัฐบาลเมียนมา เรียกร้องให้เกิดความสงบในเมืองเมียวดี และอาเซียนจะมีแถลงการณ์เรื่องนี้ให้เป็นไปตามฉันทางมติ 5 ข้อ และเชื่อว่าแต่ละฝ่ายในเมียนมากำลังเจรจาเพื่อหาแนวทางที่ไม่ให้เกิดผลกระทบกัชายแดนไทยด้วย



ขณะที่นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัยชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ลงพื้นที่ด่านพรมแดนแม่สอด 2 เป็นห่วงสถานการณ์ที่ท้าทายกับรัฐบาลไทย โดยเฉพาะกรณีทหารเมียนมาที่หนีทัพบริเวณตรงข้ามสะพานแห่งที่ 2 นี้ หากปล่อยให้เกิดการปะทะก็จะกระทบกับประชาชนไทย ซึ่งเป้น 1 ใน 3 ทางเลือกที่จะเกิดขึ้นหากยังจัดการปัญหาตรงนี้ไม่ได้ ส่วนอีกสองแนวทางหากทหารกลุ่มนี้ขอมาไทยก็ต้องปลดอาวุธเป็นพลเรือน ไทยสามารถรับมาได้ตามกฏหมายมนุษยธรรมแต่ต้องไม่ส่งกลับ ส่วนแนวทางที่ 2 หากทหารเหล่านี้มอบตัวกับฝ่ายต่อต้านก็จะกลายเป็นเชลยศึกที่ต้องได้รับความคุ้มครองจากฝ่ายต่อต้านด้วย



ล่าสุด สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ออกแถลงการณ์ หลังจาก KNU นำกำลังฝ่ายต่อต้านนำโดยกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU องค์กรป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง KNDOและกองทัพประชาชน pDF เข้ายึดฐาน 275 ของกองทัพเมียนมา



ซึ่งทหารกลุ่มนั้นได้ล่าถอยไปยังสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 และได้สร้างที่กำบังและหลบภัยอยู่ใกล้สะพาน และขณะเดียวกัน กองกำลังพันธมิตรฝ่ายต่อต้านกำลังปฏิบัติการทางทหารเพื่อสกัดกั้น และขัดขวางกองกำลงเสริมของสภาบริหารแห่งรัฐเมียนมา SAC เพื่อไม่ให้สูญเสียเมืองเมียวดี



เพื่อปกป้องประชาชนในเมืองเมียวดี ซึ่งขณะนี้เมืองเมียวดีอยู่ในภาวะที่ปลอดภัยแล้ว KNU โดยการมีส่วนร่วมของคนในท้องถิ่นจะกำหนดการบริหาร ป้องกันธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ธุรกิจเถื่อน และการค้ามนุษย์ และจะดำเนินการด้านความมั่นคง การบังคับใช้กฎหมาย บริการสาธารณะที่จำเป็น และขนส่งสินค้าในพื้นที่เมียวดีจากตำแหน่งที่เป็นไปได้ แม้จะมีความท้าทายก็ตาม



โดยทาง KNU มีจุดยืนสำคัญ 4 ประเด็น ประกอบด้วย



1. KNU มีความกังวลอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายแดนไทย-เมียนมาทั้งสองฝั่งที่ต้องเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

2. KNU มุ่งมั่นที่จะรักษาและฟื้นฟูความปลอดภัยและเสถียรภาพข้ามพรมแดน

3. เพื่อฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงของประชาชนที่อาศัยอยู่ทั้งสองฝั่งชายแดนไทย-มียนมา KNU ซึ่งกำลังทำงานเพื่อให้บรรลุความร่วมมือที่มีความหมายกับรัฐบาลไทย องค์กรพันธมิตรระดับท้องถิ่นและระหว่างประเทศ รวมถึงชาวกะเหรี่ยงที่มีชายแดน องค์กรและเชื่อมโยงกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

4. KNU เคารพและให้เกียรติสหายของเราทุกคนที่สละชีวิต เลือด และหยาดเหงื่อเพื่อกำจัดเผด็จการทุกรูปแบบ รวมถึงเผด็จการทหาร และสถาปนาสหภาพประชาธิปไตยของรัฐบาลกลางชุดใหม่ที่นำโดยพลเรือน เคารพความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก KNU จะยังคงต่อสู้เพื่อบรรลุเป้าหมายของชาวรัฐกะเหรี่ยงกลอทูเล ร่วมกับองค์กรชาติพันธุ์ และพันธมิตรประชาธิปไตย ต่อสู้อย่างไม่หยุดยั้ง

คุณอาจสนใจ

Related News