สังคม
ตัดวงจรแก๊งคอลฯ ลากสายอินเทอร์เน็ตมุดดิน ข้ามแดนไปฝั่งกัมพูชา โทรหลอกคนไทย
โดย nattachat_c
3 เม.ย. 2567
888 views
บุกอาคารร้าง ตัดวงจร ขบวนการลากสายอินเทอร์เน็ตมุดดินข้ามประเทศ กว่า 700 เมตร ให้แก๊งคอลเตอร์-พนันออนไลน์ ฝั่งกัมพูชา พบขอใช้บริการเกือบ 400 เบอร์ เพื่อใช้โทรหลอกลวงประชาชน
วานนี้ (2 เม.ย. 67) พลตำรวจโทธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ
- พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
- พลตำรวจโทสมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2
ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และพนันออนไลน์ ที่ลักลอบลากสายอินเทอร์เน็ตมุดดินข้ามชายแดน
โดยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นสำนักงานขายคอนโดมิเนียมร้างในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว หลังสืบทราบว่า มีการลักลอบฝังสายอินเทอร์เน็ตใต้ดินลากผ่านที่ดินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ที่อยู่บริเวณด้านหลังอาคารดังกล่าว เป็นระยะทางยาวกว่า 700 เมตร เพื่อข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา
ทั้งยังพบว่า อาคารดังกล่าวมีการขอใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงมาติดตั้ง และมี IP เปิดให้บริการกว่า 384 หมายเลข โดยมีผู้ขอใช้บริการ 4 ราย แต่ผู้ชำระค่าบริการรายเดือนคนเดียวกัน เชื่อว่าเป็นการลักลอบนำสายอินเทอร์เน็ตออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และพนันออนไลน์ ที่ตั้งฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ใช้โทรมาหลอกลวงคนไทย ซึ่งจะทำให้เบอร์โทรศัพท์ปรากฏเป็นหมายเลขภายในประเทศ
จากการตรวจสอบ ยังพบว่า มีบริษัทในกรุงเทพมหานครเป็นผู้จ่ายค่าเช่าสัญญาอินเทอร์เน็ตในอาคารดังกล่าว จึงได้เข้าตรวจค้นบริษัทให้บริการอินเทอร์เน็ตในแขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และพบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง 9 รายการ โดยจากการสอบถาม นาย ก. ยอมรับว่า ได้รับจ้างมาอีกต่อหนึ่ง (จาก นาย ป.) ให้ตนเองเป็นผู้ขอใช้อินเตอร์เน็ต และติดตั้งสัญญาณด้วยตนเอง
เบื้องต้น ขบวนการดังกล่าว มีคนไทยในกัมพูชาเป็นผู้สั่งการเบื้องหลัง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม ฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต, จัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ , ฉ้อโกงประชาชน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และความผิดฐานฟอกเงิน ถือเป็นข้อหาหนัก
พลตำรวจโทธัชชัย ย้ำว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานจับกุมผู้ที่ร่วมติดตั้งลากสายอินเทอร์เน็ตข้ามประเทศ พร้อมย้ำว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ มีความสำคัญ เนื่องจากพบว่าคนร้ายมีการลักลอบนำสายอินเทอร์เน็ตออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และพนันออนไลน์ โดยใช้หลอกลวงประชาชนในประเทศ พฤติกรรมดังกล่าว หากไม่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือนายทุน ให้ความร่วมมือกับแก๊งอาชญากร ก็ไม่สามารถทำได้ หากทราบตัวผู้กระทำผิดแล้วจะดำเนินคดี และโอนสำนวนให้ตำรวจสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการต่อไป
และเร็ว ๆ นี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีปฏิบัติการครั้งใหญ่เพื่อกวาดล้าง และเอาผิดกลุ่มผู้กระทำผิด ทั้งตู้จำหน่ายซิมที่ขายมากกว่า 100,000 ซิม และผู้ให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
นอกจากนี้ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ร่วมกับ กสทช.ในการติดตามว่า มีการลากสายอินเตอร์เน็ตในลักษณะดังกล่าวอีกหรือไม่
ด้าน พลตรีเทพพิทักษ์ นิมิตร ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา กล่าวว่า กองทัพบกได้ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในประเทศ โดยปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งผลปฏิบัติการครั้งนี้คาดว่า จะช่วยให้เกิดความมั่นคงภายในพื้นที่ตามแนวชายแดน และในประเทศมากยิ่งขึ้น
-------------
วานนี้ (2 เม.ย.) ที่รัฐสภา ประชาชนที่ถูกหลอก จากกระบวนการค้ามนุษย์ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เข้ายื่นหนังสือ ต่อ นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก คณะกรรมาธิการ(กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
ด้านตัวแทน กล่าวว่า ตนได้หางานจากในเพจเฟซบุ๊ก จากนั้นมีผู้ติดต่อเข้ามาเสนองานเป็นแอดมิน คอยตอบลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยมีการตกลงค่าจ้าง ที่พัก รวมถึงค่าอาหาร จึงได้ตกลง จากนั้นตนจึงได้เดินทางไปยัง จ.สระแก้ว จากนั้นมีรถยนต์มารับหน้ารพ.อรัญประเทศ จากนั้นได้ขึ้นเรือข้ามคลองผ่านด่านไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งมีรถมารอรับ โดยสถานที่ทำงานเป็นตึก และมีการกักขังไม่ให้ออกไปไหน ลักษณะการทำคือการสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอม สร้างความเคลื่อนไหว จากนั้นก็นำบัญชีดังกล่าวไปหลอกประชาชน โดยมีการตั้งยอดที่จะต้องหลอกประชาชนไว้คนละไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท หากไม่ทำตามจะถูกข่มขู่ว่าจะฆ่า รวมถึงทำร้ายร่างกาย เปิดรูปภาพผู้ที่ถูกทำร้ายให้ดู
เมื่อตนทราบแล้วว่าถูกหลอก จึงได้มีการประสานงานกับทีมงานของนายสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ สส.กทม.พรรคก้าวไกล เมื่อนายจ้างทราบจึงนำตนขึ้นรถตู้โดยไม่ทราบว่าจะพาไปไหน ตนจึงได้หนีมาโดยได้รับการช่วยเหลือจากประชาชนชาวกัมพูชา รวมถึงได้ติดต่อกับสส.พรรคก้าวไกล ให้ประสานขอความช่วยเหลือผ่านทางสถานทูตไทยถึงได้กลับมาได้
การที่ตนมาร้องเรียนในครั้งนี้หวังให้ช่วยเหลือคนไทยอีกหลายคนที่ยังติดอยู่ในประเทศกัมพูชา รวมถึงหามาตราการป้องกันเพื่อไม่ให้คนไทยถูกหลอกอีก
ด้านนายปิยรัฐ กล่าวว่า ผู้ที่กลับมาได้ถือเป็นผู้โชคดีในอีกหลายๆ รายที่ยังที่หลอกไปทำงาน ทาง กมธ.จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมอย่างเร่งด่วน ถือเป็นวาระแห่งชาติ จึงอยากผลักดันแก้ปัญหาให้กับประชาชน
-------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kDYVXMf6o4I
แท็กที่เกี่ยวข้อง ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ,พนันออนไลน์ ,กัมพูชา ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ,กองทัพบก ,สระแก้ว ,อรัญประเทศ ,พลตำรวจโทธัชชัย ปิตะนีละบุตร ,พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ,ตำรวจภูธรภาค 2 ,อาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ ,แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ,พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ,พลตรีเทพพิทักษ์ นิมิต ,การกองกำลังบูรพา ,ปิยรัฐ จงเทพ