เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 13 มี.ค.67 กกต.ชงศาลสั่งยุบพรรคก้าวไกล-แท็กซี่ด่าหยาบผู้โดยสาร-บิ๊กโจ๊กยังยิ้มได้

1.ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 3 ตำรวจ – 1 พลเรือน พัวพันเว็บพนัน

2.บิ๊กโจ๊ก ยังยิ้มได้ หลังมีข่าวถูกออกหมายเรียกให้ทนายแจงแทน

3.เจ้าอาวาสขอโทษ สาวสองนางรำอัปสรา ปมโพสต์บูลลี่

4.แท็กซี่หัวร้อน ด่าหยาบ-บีบโอนเงินค่าเสียเวลา เพราะกดยกเลิกเรียกรถ

5.พ่อ ด.ญ.4ขวบ ถูกจับแข่งใส่เสื้อผ้า จ่อฟ้องผู้ปกครองเขียนพาดพิง

6.สพฐ.สั่งยกเลิก ข้อสอบปากเปล่า รร.มัธยมวัดธาตุทอง

7.เจอแล้ว พระพุทธรูปวัดประตูสาร ถูกขโมยทิ้งริมถนน



เรื่องเล่าการเมือง

-กกต. มติเอกฉันท์ ชงศาล รธน. สั่งยุบพรรคก้าวไกล

คดีของพรรคก้าวไกล หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมี คำวินิจฉัย เมื่อ 31 ม.ค. ว่าการเสนอแก้ไข มาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ล่าสุด กกต. เดินหน้าเอาผิด ถึงขั้นยุบพรรค

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการ กกต. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต. มีมติเอกฉันท์ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคก้าวไกล เพราะมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 31 ม.ค. จากการเสนอแก้ไข ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

โดยขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างที่ กกต. กำลังจัดทำคำร้องและเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญตามกระบวนการต่อไป

ซึ่งตามกระบวนการแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา รับคำร้องหรือไม่ หากศาลรับคำร้องศาลก็จะพิจารณาว่าจะสั่งยุบพรรคก้าวไกล หรือไม่

หากยุบพรรค กรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรค เมื่อครั้งมีการเสนอแก้ไข มาตรา 112 รวมถึงกรรมการบริหาร ที่ออกนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง อาจจะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองด้วย



-โรม ลั่นโฟกัสสู้คดียุบก้าวไกล ปัดตอบรับไม้ต่อ ผู้นำรุ่น 3

ท่าทีจาก สส.พรรคก้าวไกล โดยนายรังสิมันต์ โรม ตัดพ้อ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะ กกต. ไม่มีการรับฟังข้อเท็จจริงก่อนส่งศาลรัฐธรรมนูญ ก็ยังไม่ขอตอบกับการขึ้นเป็นผู้นำรุ่นที่ 3 ระบุตอนนี้ขอโฟกัสกับการต่อสู้คดีก่อน

เมื่อวานนี้ ที่รัฐสภา มีการประชุม ส.ส.พรรคก้าวไกล ประจำสัปดาห์ ซึ่งบรรยากาศก็มีสส.เข้าร่วมกันพร้อมเพรียง นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค

ภายหลังการประชุม นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค บอกว่า ในที่ประชุมไม่มีการพูดคุยเรื่องคดียุบพรรค แต่เป็นเพียงการแจ้งข่าวมติของกกต. และสื่อสารกับสมาชิกว่า “เรายังมุ่งมั่นทำงานต่อ พร้อมสู้ทุกประเด็น และ ไม่มีความกังวลประเด็นการยุบพรรค”

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีที่ถูกจับตาว่าจะขึ้นมาเป็นผู้นำรุ่นที่ 3 หากถูกยุบพรรค ก็บอกว่า ตอนนี้ตนพยามโฟกัสกับการไม่ไปถึงจุดนั้นก่อน คือการเตรียมตัวต่อสู้คดี

ช่วงนึงได้ตัดพ้อ กกต. ว่ารีบส่งสำนวนให้ศาลรัฐธรรมนูญ โดยไม่รับฟังข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งอาจจะไม่เป็นธรรมต่อพรรคก้าวไกล ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกตั้งมา

พร้อมตั้งคำถามว่า การยุบพรรคการเมือง ประเทศชาติจะได้อะไร นอกจากจะทำให้สังคมกลับไปสู่ความไม่แน่นอน และคิดว่าเราควรมีบทเรียนได้แล้ว ว่าการยุบพรรค ทำให้การเมืองไม่พัฒนาก้าวไปข้างหน้า มีแต่จะทำให้ถอยหลัง

ส่วน สส.ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ย้ำว่าพรรค พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ และวางแผนทุกฉากทัศน์อยู่แล้ว ก็ยืนยัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทุกความคิด ทุกนโยบาย ที่พยายามจะผลักดัน เราต้องมี “ยานพาหนะ” ที่ขับเคลื่อนชุดความคิดต่อไปในการเมืองไทยแน่นอน



-สว.สมชาย ชี้คดีก้าวไกล เป็นบทเรียนคนรุ่นใหม่ แนะเลิกเซาะกร่อน

ขณะที่ สว.สมชาย แสวงการ บอกว่า นี่คือบทเรียนทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ บทเรียนของคนที่เลือกพรรคก้าวไกล สังคมไทยต้องเรียนรู้ว่าการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศ ไม่ใช่การใช้สิทธิเสรีภาพตามใจชอบ

สว.สมชาย บอกด้วยว่า ตนเองรู้สึก เสียดายอุดมการณ์และจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนว่าต้องเปลี่ยน ถ้าไม่เปลี่ยนต่อให้ตั้งเป็นชื่อพรรคใหม่แล้วเดินแบบเดิม ก็ต้องถูกยุบอีก

และเชื่อว่า คดีนี้จะใช้เวลาไม่นาน เพราะ ไม่มีเหตุต้องไต่สวนอีกแล้ว ศาลได้วินิจฉัยการกระทำไปแล้ว เหลือแต่เพียงแต่สั่งยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคจากนั้นจะมีเวลาให้สมาชิกที่อยู่ในพรรคก้าวไกล ย้ายไปอยู่พรรคใหม่



-ทักษิณ เตรียมแอ่วคลองแม่ข่า ไหว้พระธาตุดอยสุเทพ

กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ที่มีข่าวจะเดินทางกลับบ้านเกิดเชียงใหม่เป็นครั้งแรก เมื่อวานนี้มีกำหนดการล่าสุดออกมาแล้ว นอกจาก การไปไหว้สุสานบรรพบุรุษแล้ว ยังไปที่ "คลองแม่ข่า" แลนด์มาร์กใหม่ของเมืองเชียงใหม่ และไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพด้วย

โดยช่วงเช้าวันที่ 14 มี.ค. ก่อนเดินทางไปเชียงใหม่ คุณทักษิณ จะไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครก่อน และจะเดินทางถึงเชียงใหม่ เวลา 09.30 น. จากนั้นไปอุทยานราชพฤกษ์ และช่วงบ่าย ไปคลองแม่ข่า แลนด์มาร์กใหม่ของเมืองเชียงใหม่ (คลองโอตุรุเมืองไทย)

วันที่ 15 มี.ค.

ช่วงเช้า - จะไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ

บ่าย - ไปสุสานบรรพบุรุษ ที่ฝังศพนายเลิศ และนางยินดี ชินวัตร พ่อและแม่ของนายทักษิณ ที่ตั้งอยู่ บริเวณเนินเขาด้านทิศตะวันตกติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน ต.ออนเหนือ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่

วันที่ 16 มี.ค.

พักผ่อนกับครอบครัว และ ช่วงบ่ายหรือเย็น ก็จะเดินทางกลับ กทม.

ขณะที่พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พูดถึงการไปเชียงใหม่ของคุณทักษิณ ซึ่งอาจมีมวลชนเสื้อแดงมารอรับ อยู่ในกรอบที่สามารถทำได้หรือไม่ว่า อธิบดีกรมคุมประพฤติ รายงานมาว่า ระหว่างวันที่ 14 ถึง 16 มีนาคมนี้ คุณทักษิณขออนุญาต เดินทางไปเพื่อพบแพทย์ทางเลือก และ เยี่ยมญาติบรรพบุรุษ ซึ่งทำได้อยู่แล้ว เพียงแต่ห้ามออกนอกประเทศ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/TnbRQrFgC7E