ทหารยศสิบเอกคบกับเมียมา 10 ปี แต่งงานมีลูกด้วยกัน สุดท้ายจับได้เมียคบชู้กับทหารอีกนายยศสิบตรี

ทหารยศสิบเอกคบกับเมียมา 10 ปี แต่งงานมีลูกด้วยกัน สุดท้ายจับได้เมียคบชู้กับทหารอีกนายยศสิบตรี ตามจับได้คาม่านรูด สิบตรีโทรฯเรียกพวกมารุมล็อกตัวสิบเอกไว้ก่อนพาเมียหนี สิบเอกสุดช้ำ ทหารยศน้อยกว่าแต่คว้าเมียไปครอง ต้องการร้องวินัยถึงที่สุด



คุณนฤชา กมุทโยธิน ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายทหารยศสิบเอกนายหนึ่ง บอกว่า ตนเองรู้จักกับภรรยาเพราะทำงานที่เดียวกันที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งและตัดสินใจคบหาเป็นแฟนกันตอนปี 2555 และแต่งงานกันปี 2557 ก่อนจะพากันไปจดทะเบียนสมรสตอนปี 2558 เนื่องจากภรรยาตั้งครรภ์ จะได้ใช้สิทธิ์สวัสดิการต่างๆของทางราชการและภรรยาคลอดลูกสาวตอนช่วงปลายปี



หลังจากคลอดลูกสาวตนเองและภรรยาก็ช่วยกันดูแลเลี้ยงลูกทำหน้าที่พ่อแม่ จนกระทั่งปี 2562 ตนเองได้รับคำสั่งไปช่วยราชการที่จังหวัดลพบุรี 2 ปี ทำให้ต้องห่างกับภรรยาและครอบครัว แต่ตนเองก็พยายามกลับมาหาภรรยาและลูก ช่วงศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์



จนกระทั่งปี 2564 ตนเองมีคำสั่งให้ย้ายกลับมาทำงานที่เดิม จึงได้กลับมาอยู่กับภรรยา ส่วนลูก ทางแม่ของภรรยารับไปช่วยเลี้ยง ช่วงนี้ที่ตนเองกลับมาอยู่กับภรรยา ทำให้ไปเจอ หลักฐานบางอย่างในโทรศัพท์ของภรรยามีการแคปหน้าจอที่วีดีโอคอลคุยกับชายปริศนา ลักษณะหัวเกรียน ขายทหารตนจึงสอบถามกับภรรยาอ้างว่า เป็นน้องชาย และ ภรรยาก็ตั้งรหัสโทรศัพท์ทำให้ตนเองไม่สามารถเข้าไปดูอะไรได้อีกเลย



แต่หลังจากนั้นเพื่อนที่ทำงานมักจะมาเล่าให้ฟังว่า ภรรยาของตนเองแอบคบหาและคุยกับชายอื่น พากันไปกินข้าว ไปเที่ยวในที่ต่างๆ เป็ยประจำ ตนจึงตามสืบหาข้อมูล จนทราบว่า ชายปริศนาหัวเกรียนที่ Video Call คุยกับภรรยาตนเองเป็นนายทหารเหมือนกันยศสิบตรี และมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน



ตนเองจึงขอหย่า แต่ตอนนั้นฝ่ายหญิงไม่ยอม ตนจึงรวบรวมหลักฐานฟ้องหย่าและฟ้องชู้ ตอนปี 2565 ตนและภรรยาได้แยกกันอยู่ หลังจากฟ้องชู้ตนเอง สิบตรีชายชู้จะยื่นอุทธรณ์จึงติด GPS ที่รถของภรรยา จนไปพบว่า ทั้งคู่พากันเข้าม่านรูดย่านฝั่งธนฯ



ตนจึงขับรถตามไปที่ม่านรูด ก็พบว่ามีรถของภรรยาจอดอยู่จริงๆ ซึ่งภรรยาและสิบตรีชายชู้ไม่ยอมออกมาจากห้อง แต่สิบตรีชายชู้มีการโทรศัพท์ตามพรรคพวก 5-6 ที่เป็นทหารหน่วยเดียวกัน มาที่ม่านรูดและเข้ามาล็อคแขน ล็อคตัวตนเอง ซึ่งตนได้แต่ตะโกน ว่า ทำอะไร มาล็อคกูทำไม มาจับกูทำไม , รปภ. ของม่านรูดจึงเข้ามาระงับเหตุและขอว่าอย่ามีเรื่องทำร้ายร่างกายกัน จังหวะนั้นสิบตรีชายชู้พาภรรยาตนเองวิ่งขึ้นรถกระบะอีกคันและขับออกไปจากม่านรูดทันที



ส่วนรถของภรรยาที่จอดทิ้งไว้ตนเองมีกุญแจพอเปิดรถ ดูก็พบว่ามีเครื่องแบบของนายทหารยศสิบตรีชายชู้อยู่ในรถด้วย ตนจึงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน




พอเช้าวันรุ่งขึ้น ภรรยาตนเองไม่พอใจตามมา หาตนที่ทำงานและด่าทอโวยวายก่อนจะปรี่เข้ามาทำร้ายจนตนเองคิ้วแตก



ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเอง รับไม่ได้ที่ถูกหยามเกียรติและศักดิ์ศรีแบบนี้ด้วยความที่เป็นนายทหารเหมือนกันและ ชายชู้เป็นทหารยศน้อยกว่าแต่ไม่มีความเกรงกลัวกฎหมาย ขนาดตอนขึ้นศาลที่ฟ้องชู้ สั่งสิบตรีชายชู้ ยังยักคิ้วเยาะเย้ยตนเองด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนเองต้องการร้องเรียนและอยากเอาผิดทางวินัยฝ่ายชายชู้ให้ถึงที่สุด เพราะเคยร้องเรียนไปยังต้องสังกัดแล้วแต่เรื่องเงียบเกรงว่านายทหารยศสิบตรีอาจมีเส้นสายหรือผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ