สังคม

สาวใหญ่วัย 57 พ้อ 'เป็นชู้กับตำรวจ' ถูกสามีตัดสัมพันธ์ ลั่นไม่ยอมผิดคนเดียว จี้ชู้ตร.รับกรรมด้วย

โดย paweena_c

11 มี.ค. 2567

469 views

หญิงวัย 57 ปี ร้องเพจโหนกระแส ยอมรับว่าตนเองแอบไปคบชู้กับเพื่อนเก่าที่เป็นนายตำรวจและสามีจับได้จึงแยกทางกัน และสามีก็ร้องสอบวินัยตำรวจ ผลสอบบอกว่า ผิดไม่ร้ายแรง พักงานไม่กี่วันก็กลับมาทำงานต่อ โดยไม่มีการรับผิดชอบใด ๆ อีก

ผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งส่งเรื่องมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านเพจโหนกระแส โดยหญิงรายนี้อายุ 57 ปี เป็นชาวจังหวัดขอนแก่น บอกว่าเธอมีสามีที่คบหาจดทะเบียนสมรสกัน แต่คบกันได้ไม่นานเธอได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่

เพราะแอบไปคบกับเพื่อนสมัยประถม ซึ่งปัจจุบันเป็นนายตำรวจอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น จนเรื่องราวบานปลายสามีจับได้ และร้องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สอบวินัยตำรวจคนดังกล่าว ซึ่งผลสอบออกมาว่าเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรงและสั่งขังนายตำรวจคนดังกล่าว 30 วัน

ทำให้เธอรู้สึกว่า ตำรวจคนนี้ได้รับโทษน้อยไป หากเทียบกับสิ่งที่เธอได้รับครอบครัวต้องแตกแยกสามีขอเลิกรา ซึ่งเธอยอมรับว่าเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเธอด้วยแต่เธอจะไม่ยอมเป็นฝ่ายผิดอยู่ฝ่ายเดียวจึงติดต่อมาร้องขอความเป็นธรรมกับทางเพจโหนกระแส

จากการสอบถาม คุณมล (นามสมมติ) อายุ 57 ปี ผู้ร้อง โดยคุณมล บอกว่า เธอมีแฟนคนแรกตอนปี 2532 ชื่อคุณใหญ่ มีลูกด้วยกัน 2 คนปัจจุบันลูกทั้งสองคนเรียนจบปริญญาตรี มีงานทำหมดแล้ว

ต่อมาเธอได้เลิกรากับคุณใหญ่และมีแฟนใหม่ตอนปี 2543 ชื่อคุณต่าย คบกันได้ประมาณ 10 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน คุณต่ายเสียชีวิต ตอนปี 2553

จากนั้นเธอก็อยู่เป็นสาวโสดเรื่อยมา จนกระทั่งมาพบรักอีกครั้ง กับคุณน้อยตอนปี 2559 กับคุณน้อยก็ไม่มีลูกด้วยกัน คบกันเรื่อยมาจนจดทะเบียนสมรสปี 2564 แต่ระหว่างทางตั้งแต่ปี 2559 ถึง 2564 คุณมล บอกว่าเธอเองได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่

โดย เธอเล่าว่า เธอไปงานเลี้ยงรุ่นเพื่อนสมัยประถมฯ ตอนปี 2561 เธอได้เจอกับ "ผู้กอง ต.เต่า" เพื่อนเก่าสมัยประถมฯ ทำให้พูดคุยแลกเบอร์แลกไลน์ติดต่อกันเรื่อยมา ซึ่งผู้กอง ต.เต่า จะส่งดอกไม้มาสวัสดีตอนเช้าทุกวันจันทร์ถึงอาทิตย์ สติ๊กเกอร์หัวใจบ้าง สติ๊กเกอร์กอดบ้าง จนเกิดความสัมพันธ์ลึกซึ้ง และแอบคบกัน

ซึ่งปกติตัวเธอเองจะอยู่ที่กรุงเทพฯกับสามี แต่ช่วงที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้กอง ต.เต่า เธอจะเดินทางไปหาผู้กอง ต.เต่า ถึงขอนแก่นอยู่เป็นประจำ และก็พากันไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนเป็นคู่ผัวเมียปกติ

เธอบอกว่า ตอนนั้นก็ทราบดีว่า ผู้กองมีเมียมีลูกอยู่แล้ว แต่ผู้กอง ต.เต่า บอกว่า ได้แยกกันอยู่ กับภรรยา และ อยากได้เธอมาเป็นเมียอีกคนมาคอยปรนนิบัติดูแล ซึ่งเธอก็ยอมและดูแลผู้กองเป็นอย่างดี

ต่อมาคุณน้อย สามีของเธอเริ่มผิดสังเกต เธอจึงจดทะเบียนสมรสกับคุณน้อย(สามี)ตอนปี 2564 เพื่อความสบายใจของฝ่ายสามี ขณะเดียวกันเธอยังสานความสัมพันธ์กับผู้กองต่อไป กระทั่งปี 2565 สามีของเธอ ทนไม่ไหวจึงขอหย่า

และทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบทางวินัย ผู้กอง ต.เต่า ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผลสอบปรากฏว่า ผู้กอง ต.เต่า มีความผิด แต่เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรงจึงมีคำสั่งกักขัง 30 วัน หลังจากนั้นก็กลับมาทำงานตามปกติ ทำให้เธอรู้สึกว่า ตำรวจนายนี้ได้รับโทษเบาไปควรเป็นความผิดวินัยร้ายแรง และต้องให้ออกจากราชการ เพราะหากเทียบกับสิ่งที่เธอได้รับตอนนี้เหมือนถูกปล่อยลอยแพอยู่คนเดียว

สามีก็แยกทางขอเลิกรา, ผู้กอง ก็หายเงียบไปเลย ตั้งแต่เกิดเรื่อง แถมยังข่มขู่ด้วยว่า จะให้ภรรยามาฟ้องชู้เธออีก คุณมล ยอมรับว่า สิ่งที่เธอทำนั้นผิด แต่ไม่ยอมเป็น ฝ่ายผิดฝ่ายเดียว ที่ออกมาเรียกร้องไม่ได้ต้องการเงินทองอะไร แต่ต้องการให้ ผู้กอง ต.เต่า ออกจากราชการ

ล่าสุดจากการสอบถาม ไปยังต้นต้นสังกัดของ ผู้กอง ต.เต่า ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ แต่ระบุว่า ได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนและผลสอบวินัย เป็นไปตามหนังสือที่ชี้แจ้งกลับไป แต่ไม่สามารถเปิดเผนข้อมูลบทลงโทษทางวินัย เนื่องจากเป็นความลับ ซึ่งตอนนี้ได้ส่งเรื่องไปถึงสำนักงานจเรตำรวจแล้ว ต้องไปตรวจสอบจากตรงนั้น

https://youtu.be/YSJ_ThVCWms

คุณอาจสนใจ

Related News