นักกิจกรรมสวมเสื้อขาว ขอศาลทบทวนคำสั่งฝากขัง ‘ตะวัน - แฟรงค์’ จุดเทียนร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา

‘ทิชา ณ นคร’ พร้อมนักกิจกรรม สวมเสื้อขาวยื่นหนังสือถึงศาลอาญาพิจารณาทบทวนคำสั่งอนุญาตฝากขัง ‘ตะวัน – แฟรงค์’ ฝากผู้พิพากษาแก้วิกฤติศรัทธาก่อนเกิดหายนะ พร้อมจุดเทียนร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา

ช่วงสายวันนี้ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเยาวชนเด็ก พร้อมด้วยนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ และกลุ่มนักกิจกรรม นัดกันใส่เสื้อสีขาว เพื่อมายื่นหนังสือขอให้ศาลพิจารณาทบทวนคำสั่งอนุญาตฝากขัง ตะวัน และแฟรงค์ ที่พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง มายื่นคำร้องขอฝากขังผัดที่ 3 ก่อนหน้านี้

นางทิชา ระบุว่า ที่ต้องเดินทางมาในวันนี้เนื่องจากอยาก ชี้ให้สังคมเห็นถึงสถิติของการคุมขังนักโทษว่าปัจจุบันมีนักโทษในเรือนจำมากกว่า 2.5 แสนคน ซึ่ง 20% อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีและไม่ได้ประกันตัว ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนมากมีหลักฐานยืนยันว่าในที่สุดศาลจะมีการลงคำสั่งยกฟ้อง นั่นหมายถึงได้มีการคุมขังบุคคลที่ไม่มีความผิด ซึ่งส่งผลให้บุคคลเหล่านั้นสูญเสียโอกาสในการทำมาหากิน ที่สามารถทำได้ในระหว่างการต่อสู้คดี

ยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายของทางกรมราชทัณฑ์ ทราบว่าทุกวันนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายตะวันอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาท หากนับเป็นหนึ่งปีจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 7200 ล้านบาท ดังนั้นควรมีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ รวมถึงรัฐธรรมนูญยังมีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่าสิทธิ์ในการประกันตัว เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ระบบกับส่งคนเหล่านี้เข้าไปอยู่ในจำนวน 20% ของทั้งหมด

ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่าการต่อสู้ของตะวัน และแฟรงค์ รวมถึงบุ้ง ไม่ได้มีการต่อสู้เพื่อตัวเอง แต่เป็นการตั้งคำถามกับระบบที่เกิดมาก่อน ในวันนี้พวกพวกเขาเหล่านี้เป็นแค่เด็กที่เกิดตามหลังและสงสัยกับระบบการจัดการแบบนี้จึงเกิดการการตั้งคำถาม

นางทิชา ยังระบุอีกว่า การตั้งคำถามแบบนี้ของกลุ่มเยาวชนเป็นคำถามที่ใหญ่ และตบหน้าพวกเราที่เกิดก่อน ว่าเราไม่สามารถทำอะไรกับระบบแบบนี้ได้เลย

ซึ่งปัจจุบันมีคนจำนวนหนึ่งต้องจ่ายค่าเสรีภาพอย่างแพง นั่นรวมถึงเจ้าหน้าที่ศาลหลายคนที่รู้ว่าระบบที่ทำให้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่วิกฤติศรัทธา ดังนั้นการต่อสู้ของทุกคนจึงเป็นเรื่องที่พวกเราคนข้างนอกที่อยู่กับสิทธิ์เสรีภาพจะต้องมาอยู่เฉยเพราะพวกเขาที่โดนคุมขังไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเอง

การเรียกร้องการกระทำที่เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไม่ใช่การเรียกร้องเพื่อตัวเอง แต่คือการเรียกร้องเพื่อระบอบที่ยุติธรรม ซึ่งการกระทำของสามคนนี้ ตอนนี้อันตราย เราไม่รู้ว่าการมาในแต่ละวันเพื่อคัดค้านการตัดสินใจของศาล จะถูกแก้ไขหรือไม่ แต่ก็ดีกว่าเราอยู่เฉยๆ ซึ่งก็เป็นเพราะเรายังเหลือศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น ผู้พิพากษาที่มีความเป็นมนุษย์ จะกล้าหาญพอที่จะชักฟืนออกมาจากกองไฟนั้นให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดหายนะ ไม่เกิดบาดแผลอีก เรามีประวัติศาสตร์บาดแผลมากมายแล้วในประเทศ ตอนนี้เราจะเปลี่ยนวิกฤติให้เหมาะสมเพื่ออยู่ร่วมกันให้ได้

ด้านนายนภสินธุ์ ระบุว่า เมื่อคืนนี้พ่อของตะวันก็นอนไม่หลับ เนื่องจากเป็นห่วงลูกสาว และวันนี้จะมายื่นขอประกันตัวอีกครั้ง เพื่อรอว่าศาลจะอนุญาตให้ ประกันตัว ฃหรือไม่ พร้อมย้ำว่าข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ที่กำลังเรียกร้องอยู่นั้น เป็นผลดีต่อประชาชนทุกคน ที่อาจสามารถทำให้ระบบถูกแก้ไข

หลังจากนั้น กลุ่มนักกิจกรรมได้มีการจุดเทียน และร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา ก่อนที่จะพูดถึงข้อเรียกร้องคือ ปฏิรูปกระบวนยุติธรรม ปล่อยเพื่อนเรา และนำเทียนมาเรียงกันที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานศาลยุติธรรม พร้อมร้องเพลงเพื่อมวลชน

โดยก่อนหน้าจะมีการเริ่มกิจกรรมอ่านคำแถลง น้องหยก เยาวชนนักกิจกรรม ได้นำลิปสติกเขียนข้อความที่บริเวณเสาของศาล แต่เจ้าหน้าที่และนักกิจกรรมคนอื่นๆ ได้ห้ามไว้ ก่อนเดินไปเขียนข้อความที่ฟุตบาท บริเวณลานจอดรถ ด้วยคำพูดหยาบคายต่อศาล ก่อนที่เพื่อนนักกิจกรรมจะพาตัวกลับออกไปจากพื้นที่ศาลทันที

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/uxnr9kt1VIk