คุมตัวเค้นสอบ รปภ.คนสนิท เจ้าของสวนทุเรียนถูกฆ่าเปลือย พบเบาะแสอยู่ด้วยเป็นคนสุดท้าย

คดีฆ่าเปลือย ป้าอี๊ด ศพทิ้งน้ำ ตำรวจพบเบาะแสผู้ต้องสงสัย เป็นเพื่อนชายคนสนิท มาชวนคนตายไปกินข้าวริมทะเล และพาไปเบิกเงินก่อนหายตัว



จากกรณีพบศพหญิงถูกมัดมือไพล่หลัง เอากล่องพลาสติกสีขาวคลุมหัว โยนทิ้งสระน้ำในสวนทุเรียน ใน ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง โดย ตำรวจ สภ.ปากน้ำประแสร์ สืบจากไฝที่หน้า จนรู้ว่าผู้เสียชีวิต คือ นางฉวีวรรณ หรือป้าอี๊ด อายุ 69 ปี



ขณะที่การสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ลงมือฆ่าโหดในครั้งนี้ ได้พุ่งเป้าไปยังคนใกล้ชิดของผู้ตาย มีการลงพื้นที่เก็บหลักฐานทั้งบ้านของผู้ตายป้าอี๊ด ที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง กับบ้านของลูกชาย คือนายอลงกต หรือแอ๊ว ซึ่งจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้พบหลักฐานสำคัญ เป็นกางเกงวอร์มที่เชือกผูกเอวหายไป ตำรวจจึงยึดกางเกงไปตรวจสอบ เพราะสันนิษฐานว่า เชือกที่มัดมือไพล่หลังผู้ตาย คือเชือกของกางเกงตัวนี้



ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายแอ๊ว พร้อมด้วยลูกอีก 4 คน มาสอบสวนเพิ่มเติม ทุกคนให้การปฏิเสธ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะ นายแอ๊ว ปรากฎว่าผลออกมาเป็นสีม่วง มีสารเสพติดจึงควบคุมดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย



แต่ล่าสุดตำรวจพบเบาะแสใหม่ในคดีนี้ โดยแนวทางการสืบสวน พบว่าผู้ตายมีความสนิทสนมกับ รปภ.ของธนาคารแห่งหนึ่ง ในพื้น อ.นายายอาม จ.จันทบุรี และก่อนผู้ตายจะหายตัวไปจนพบศพ ผู้ตายไปเบิกเงินที่ธนาคาร



นายณรงค์ หรือ รงค์ อายุ 74 ปี คนดูแลสวนทุเรียนให้กับป้าอี๊ด เป็นอีกคนที่ตำรวจเชิญมาให้ข้อมูล บอกว่า ตัวเขาเองมีความสนิทสนมกับป้าอี๊ด ตั้งแต่เด็ก และมีหน้าที่เป็นคนดูแลสวนทุเรียนให้ป้าอี๊ด จะคอยมารดน้ำทุเรียนให้ ทุกๆ 2 วัน ช่วงนี้ผู้ตายมีคนมาหาบ่อย เพราะเป็นช่วงทุเรียนใกล้จะตัดได้แล้ว



ขณะเดียวกันได้ให้ข้อมูล ผู้ตายมีคนที่สนิทสนมด้วยและไว้เนื้อเชื่อใจ เชื่อว่า แดง ทำงานเป็น รปภ.ธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้ตายเบิกเงินถอนเงินไม่เป็น จะให้นายแดง เป็นคนเบิกเงินถอนเงินให้ตลอด



ขณะที่ทีมข่าวสอบถาม ยายหนู อายุ 73 ปี พี่สาวป้าอี๊ดผู้ตายให้ข้อมูลว่าตนเองได้เจอกับน้องสาวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2 วันก่อนจะพบเป็นศพ โดยน้องสาวมากับนายแดง อดีต รปภ. ของธนาคารสาขาหนึ่งใน จ.จันทบุรี ซึ่งมีความสนิทสนมกับน้องสาวมาระยะหนึ่ง เพราะน้องสาวจะฝากเงินเวลาขายทุเรียนได้ที่ธนาคารแห่งนี้เป็นประจำ



แต่น้องสาวยังไม่เคยพานายแดงมาเจอกับตนเอง วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เจอกับนายแดง เป็นครั้งแรก ซึ่งทั้งสองคนมาหาตอนประมาณเที่ยงกว่าๆ

บอกว่าไปทำธุระเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆ ถ้าจำไม่ผิด น้องสาวบอกว่า ไปไถ่ทองออกมาจากโรงรับจำนำเพราะไม่อยากเสียดอก



ซึ่งตนเองก็นั่งพูดคุยกับน้องสาวตามปกติ จากนั้นน้องสาวออกจากบ้านตนเองไปตอนบ่ายสอง บอกว่าจะไปกินอาหารแถวริมทะเล และชวนตนเองไปด้วย แต่ตนติดธุระจึงไม่ได้ไป จากนั้นก็มาทราบอีกทีว่า น้องสาวถูกฆาตกรรม



ทีมข่าวเดินทางไปยังธนาคารสาขาที่นายแดง เคยทำงานอยู่ได้ข้อมูลว่า นายแดง เป็น รปภ.ขององค์การทหารผ่านศึก ซึ่งมาทำงานที่นี่ได้ประมาณ 1 ปี แต่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง คือ ลางานหลายวันโดยไม่แจ้ง และชอบตีสนิทกับลูกค้าอาสาประมูลของหลุดจำนองของธนาคาร ซึ่งเคยรับเงินจากลูกค้ามาแล้ว หลายหมื่นบาทแต่ไม่นำเงินมาประมูลของ จนถูกลูกค้าร้องเรียน ทางธนาคารจึงขอเปลี่ยนตัว รปภ.และส่งกลับยังต้นสังกัด



ซึ่งหลังจากนั้นนายแดงก็ถูกย้ายสาขา ไปอยู่แถวเขาคิชฌกูฏและถูกย้ายอีกรอบไปอยู่สาขาในเมืองจันทบุรี โดยตั้งแต่ถูกย้ายออกจากสาขานี้ ก็ไม่มีใครได้เจอนายแดงอีกเลย



ล่าสุดตำรวจได้มีการควบคุมตัว รปภ.รายนี้ไปทำการสอบสวน ที่สภ.ปากน้ำประแสร์แล้วคดีฆ่าเปลือย ป้าอี๊ด ศพทิ้งน้ำ ตำรวจพบเบาะแสผู้ต้องสงสัย เป็นเพื่อนชายคนสนิท มาชวนคนตายไปกินข้าวริมทะเล และพาไปเบิกเงินก่อนหายตัว



จากกรณีพบศพหญิงถูกมัดมือไพล่หลัง เอากล่องพลาสติกสีขาวคลุมหัว โยนทิ้งสระน้ำในสวนทุเรียน ใน ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง โดย ตำรวจ สภ.ปากน้ำประแสร์ สืบจากไฝที่หน้า จนรู้ว่าผู้เสียชีวิต คือ นางฉวีวรรณ หรือป้าอี๊ด อายุ 69 ปี



ขณะที่การสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ลงมือฆ่าโหดในครั้งนี้ ได้พุ่งเป้าไปยังคนใกล้ชิดของผู้ตาย มีการลงพื้นที่เก็บหลักฐานทั้งบ้านของผู้ตายป้าอี๊ด ที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง กับบ้านของลูกชาย คือนายอลงกต หรือแอ๊ว ซึ่งจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้พบหลักฐานสำคัญ เป็นกางเกงวอร์มที่เชือกผูกเอวหายไป ตำรวจจึงยึดกางเกงไปตรวจสอบ เพราะสันนิษฐานว่า เชือกที่มัดมือไพล่หลังผู้ตาย คือเชือกของกางเกงตัวนี้



ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายแอ๊ว พร้อมด้วยลูกอีก 4 คน มาสอบสวนเพิ่มเติม ทุกคนให้การปฏิเสธ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะ นายแอ๊ว ปรากฎว่าผลออกมาเป็นสีม่วง มีสารเสพติดจึงควบคุมดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย



แต่ล่าสุดตำรวจพบเบาะแสใหม่ในคดีนี้ โดยแนวทางการสืบสวน พบว่าผู้ตายมีความสนิทสนมกับ รปภ.ของธนาคารแห่งหนึ่ง ในพื้น อ.นายายอาม จ.จันทบุรี และก่อนผู้ตายจะหายตัวไปจนพบศพ ผู้ตายไปเบิกเงินที่ธนาคาร



นายณรงค์ หรือ รงค์ อายุ 74 ปี คนดูแลสวนทุเรียนให้กับป้าอี๊ด เป็นอีกคนที่ตำรวจเชิญมาให้ข้อมูล บอกว่า ตัวเขาเองมีความสนิทสนมกับป้าอี๊ด ตั้งแต่เด็ก และมีหน้าที่เป็นคนดูแลสวนทุเรียนให้ป้าอี๊ด จะคอยมารดน้ำทุเรียนให้ ทุกๆ 2 วัน ช่วงนี้ผู้ตายมีคนมาหาบ่อย เพราะเป็นช่วงทุเรียนใกล้จะตัดได้แล้ว /ขณะเดียวกันได้ให้ข้อมูล ผู้ตายมีคนที่สนิทสนมด้วยและไว้เนื้อเชื่อใจ ชื่อว่า แดง ทำงานเป็น รปภ.ธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้ตายเบิกเงินถอนเงินไม่เป็น จะให้นายแดง เป็นคนเบิกเงินถอนเงินให้ตลอด



ขณะที่ทีมข่าวสอบถาม ยายหนู อายุ 73 ปี พี่สาวป้าอี๊ดผู้ตายให้ข้อมูลว่าตนเองได้เจอกับน้องสาวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2 วันก่อนจะพบเป็นศพ โดยน้องสาวมากับนายแดง อดีต รปภ. ของธนาคารสาขาหนึ่งใน จ.จันทบุรี ซึ่งมีความสนิทสนมกับน้องสาวมาระยะหนึ่ง เพราะน้องสาวจะฝากเงินเวลาขายทุเรียนได้ที่ธนาคารแห่งนี้เป็นประจำ



แต่น้องสาวยังไม่เคยพานายแดงมาเจอกับตนเอง วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เจอกับนายแดง เป็นครั้งแรก ซึ่งทั้งสองคนมาหาตอนประมาณเที่ยงกว่าๆ

บอกว่าไปทำธุระเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆ ถ้าจำไม่ผิด น้องสาวบอกว่า ไปไถ่ทองออกมาจากโรงรับจำนำเพราะไม่อยากเสียดอก



ซึ่งตนเองก็นั่งพูดคุยกับน้องสาวตามปกติ จากนั้นน้องสาวออกจากบ้านตนเองไปตอนบ่ายสอง บอกว่าจะไปกินอาหารแถวริมทะเล และชวนตนเองไปด้วย แต่ตนติดธุระจึงไม่ได้ไป จากนั้นก็มาทราบอีกทีว่า น้องสาวถูกฆาตกรรม



ทีมข่าวเดินทางไปยังธนาคารสาขาที่นายแดง เคยทำงานอยู่ได้ข้อมูลว่า นายแดง เป็น รปภ.ขององค์การทหารผ่านศึก ซึ่งมาทำงานที่นี่ได้ประมาณ 1 ปี แต่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง คือ ลางานหลายวันโดยไม่แจ้ง และชอบตีสนิทกับลูกค้าอาสาประมูลของหลุดจำนองของธนาคาร ซึ่งเคยรับเงินจากลูกค้ามาแล้ว หลายหมื่นบาทแต่ไม่นำเงินมาประมูลของ จนถูกลูกค้าร้องเรียน ทางธนาคารจึงขอเปลี่ยนตัว รปภ.และส่งกลับยังต้นสังกัด



ซึ่งหลังจากนั้นนายแดงก็ถูกย้ายสาขา ไปอยู่แถวเขาคิชฌกูฏและถูกย้ายอีกรอบไปอยู่สาขาในเมืองจันทบุรี โดยตั้งแต่ถูกย้ายออกจากสาขานี้ ก็ไม่มีใครได้เจอนายแดงอีกเลย



ล่าสุดตำรวจได้มีการควบคุมตัว รปภ.รายนี้ไปทำการสอบสวน ที่สภ.ปากน้ำประแสร์แล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/iIPvgGJtZLg