กกต.เตรียมพร้อมเลือก สว.ชุดใหม่ คาดมีผู้สมัครกว่าแสนคน

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เตรียมพร้อมในการจัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ชุดใหม่ หลังชุดปัจจุบันหมดวาระ ในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม ประธาน กกต.คาดว่าจะมีผู้สมัครกว่า 1 แสนคน เพื่อเลือก สว.200 คน โดยจะเป็นการให้ผู้สมัครเลือกกันเอง ประชาชนไม่ได้เลือกโดยตรง และพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองจะส่งผู้สมัครไม่ได้ ขณะที่เลขาธิการ กกต.เป็นห่วงการจัดตั้งและการบล็อกโหวตตามที่มีกระแสข่าว จึงเชิญชวนประชาชนสมัครให้มากป้องกันการบริหารจัดการในการเลือก สว.



สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดประชุมให้ความรู้สื่อมวลชนในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ แทนชุดปัจจุบันที่จะหมดวาระในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 กกต.จะจัดให้มีการเลือก สว.จำนวน 200 คน ซึ่งจะไม่ใช่การเลือกตามบทเฉพาะกาลเหมือนปี 2561 จึงถือเป็นการเลือก สว.อย่างเต็มรูปแบบตามรัฐธรรมนูญ 2560 โดยประชาชนสามารถเข้ามีส่วนร่วมด้วยการสมัครรับเลือก สว.ตาม 20 สาขาอาชีพ ก่อนจะมีการเลือกในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ซึ่งมีผู้สิทธิเลือกจะเป็นผู้สมัครเท่านั้น ประชาชนไม่มีสิทธิเลือกโดยตรงเหมือนการเลือกตั้ง สส. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง คาดว่า จะมีผู้สมาสมัครเลือก สว.มากกว่า 1 แสนคน จากการคาดการณ์ตามจำนวน 928 อำเภอใน 77 จังหวัด และย้ำว่ากฏหมายเลือกตั้งได้ห้ามพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมือง เช่นคณะก้าวหน้าที่มีการส่งผู้สมัครลงท้องถิ่น จะส่งผู้สมัคร สว.ไม่ได้ ส่วนสถาบันการสร้างชาติจะมีการจัดอบรมให้ความรู้ในการเลือก สว.ทำได้



สำหรับขั้นตอนการเลือก สว.จะมีขึ้นภายใน 57-59 วัน หลังจากมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. โดย กกต.จะประกาศกำหนดวันเลือก สว.ทั้ง 3 ระดับ ภายใน 5 วัน และเริ่มสมัครไม่เกิน 15 วัน โดยจะเปิดรับสมัครได้ 5-7 วัน โดยการเลือกระดับอำเภอ จะทำการเลือก 2 รอบ รอบที่ 1 ให้เลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน โดยจะเลือกได้ 2 คน คือเลือกตนเองได้ และลงให้บุคคลอื่นได้ไม่เกิน 1 คะแนน ซึ่งผู้ได้คะแนนลำดับที่ 1-5 เป็นผู้ได้รับเลือก ก่อนจะทำการเลือกในรอบที่ 2 เป็นการเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่สายเดียวกัน เพื่อคัดให้ได้ผู้คะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรกในแต่ละกลุ่ม เข้าสู่การเลือกระดับจังหวัด ประมาณ 55,000 คน จากกว่า 1 แสนคน ซึ่งในระดับจังหวัดจะทำการเลือกเหมือนระดับอำเภอทั้งสองรอบ แต่รอบ 2 จะคัดเลือกให้เหลือผู้ได้คะแนนสูงสุด 2 ลำดับแรก ของแต่ละกลุ่ม จะเหลือ 3,080 คน เพื่อเข้าสู่การเลือกระดับประเทศ ซึ่งในรอบที่ 1 ให้เลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน ผู้ได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1-40 จะได้เข้าไปรอบที่ 2 ซึ่งแต่ละคนจะเลือกกันเองในกลุ่มไม่เกิน 10 คน ส่วนรอบที่ 2 ฟเป็นการเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นในสายเดียวกัน โดยผู้ได้รับคะแนนลำดับที่ 1-10 ใน 20 กลุ่มจะได้รับเลือกเป็น สว.200 คน โดยคุณสมบัติสำคัญของผู้สมัคร สว.เช่นอายุ 40 ปีขึ้นไป มีความรู้ในสาขาอาชีพนั้นไม่น้อยกว่า 10 ปี หรือมีลักษณะอย่างหนึ่งในพื้นที่ที่สมัคร แต่จะต้องไม่ใช่ สว.ชุดปัจจุบัน กำหนดห้ามไม่ให้ลงสมัคร



เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งยอมรับว่ามีกระแสข่าวถึงการมีความพยายามในการจัดตั้งผู้สมัครเลือก สว. ทาง กกต.ได้ติดตามข้าวและวางแนวทางป้องกันและตรวจสอบว่ามีการจัดตั้งหรือการฮ้วเลือกสว.หรือไม่ กกต.จึงขอให้สื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ให้มีผู้มาสมัครจำนวนมาก เพื่อปิดโอกาสการบริหารจัดการเลือกสว.แม้จะมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติที่ให้บุคคลรับรองไม่ใช่องค์กร จึงอาจทำให้กกต.ตรวจสอบได้ยากขึ้น



ส่วน 20 สาขาอาชีพที่ลงสมัครเลือก สว. ประกอบด้วย กลุ่มราชการ กลุ่มกฏหมาย กลุ่มการศึกษา สาธารณสุข กลุ่มอาชีพทำนา กลุ่มอาชีพทำสวน แรงงาน สิ่งแวดล้อม เอสเอ็อี ผู้ประกอบการธรุกิจ อุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ สตรี ผู้สูงอายุ พิการ กลุ่มชาติพันธ์ กลุ่มอัตลักษณ์ ศิลปะวัฒนธณรม นักกีฬา ประชสังคม สื่อสารมวลชน อาชีพอิสระ และอื่นๆ ซึ่งเปิดให้หลากหลาย โดยคาดว่า การเลือก สว.จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมปีนี้