ลงพื้นที่ตรวจสอบวิลลาหรู รุกล้ำชายหาดภูเก็ต-ประธานชมรมต้านทุจริต เรียกร้อง ให้คืนเป็นที่สาธารณะของทุกคน

ชาวต่างชาติเจ้าของปางช้างที่จังหวัดภูเก็ตใช้เท้าทำร้ายแพทย์หญิง ที่ไปนั่งเล่นบริเวณบันไดริมหาดหน้าวิลล่าหรู ที่บริเวณชายหาดยามู หมู่ 7 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง แม้ว่า ทางผู้ก่อเหตุ จะกล่าวขอโทษไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือน ยังมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจ หนึ่งในนั้นคือ มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำเข้าไปบริเวณชายหาดของวิลล่าและที่พักริมหาดหรือไม่กี่จุด นอกจากนี้ ยังขยายวงไปถึงบางแห่ง ที่ปิดกั้นชายหาดไว้เป็นพื้นที่ส่วนตัว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบแล้ว


เพื่อนสนิทของแพทย์หญิงธารดาว จันทร์คำ ถูกชาวต่างชาติซึ่งเป็นเจ้าของปางช้าง และเช่าวิลล่าหรูอยู่ที่อ่าวยามู กลับมาสำรวจชายหาดที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อมาดูว่า บันไดที่สร้างรุกล้ำที่ชายหาดมีการจัดการ ตามที่หน่วยงานรัฐประกาศไว้ยัง


บันไดที่เห็นนี้ เป็นจุดเกิดเหตุ สำนักงานเทศบาลตำบลป่าคลอกนำคำสั่งให้รื้อถอนอาคารตามมาตร 42 แจ้งให้เจ้าของอาคาร คือ บริษัท ภูเก็ต เพ็นนินซูล่า เอสเตท จำกัด มีสิ่งก่อสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ 4 จุด คือ แนวบันไดไม้ ,ลานนั่งเล่นไม้,กำแพงดิน และ บันไดคอนกรีต ซึ่งเป็นบริเวณที่ แพทย์หญิงธารดาว มานั่งพัก ก่อนถูกทำร้ายร่างกาย


ชาวบ้านที่ยามู บอกว่าชายหาด ซึ่งด้านบนติดวิลล่า ชาวบ้านมักจะไม่กล้าเข้ามาใช้ประโยชน์มาก มีแต่เจ้าหน้าที่เทศบาล หรือ คนงานมาเก็บขยะมรสุมตามชายหาดเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วควรมีทางสาธารณะที่ทุกคนได้ใช้ชายหาดร่วมกัน


ทางลาดยางมะตอย ใต้อุโมงค์ซุ้มไผ่ เป็นทางสาธารณะ จากถนนภายในโครงการของวิลล่าเดินลงไปยังชายหาด แต่การจะเข้ามาถึงทางสาธารณะได้ ต้องผ่านป้อมยามรักษาความปลอดภัยของวิลล่า ดั้งนั้น นักท่องเที่ยวทั่วไปคงจะไม่กล้าเข้า ก็มีแต่ชาวบ้านที่เข้ามาจับสัตว์น้ำเวลาน้ำทะเลลดเท่านั้น ชายหาดนี้จึงกลายเป็นเสมือนสถานที่ส่วนตัว


ภาพถ่ายทางอากาศ นี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเหนือชายหาดขึ้นไปมีแต่วิลล่าหรู ที่สร้างเกือบเต็มพื้นที่ไปจนสุดแนวแหลมที่ยื่นลงไปทะเล สุดชายหาดทั้ง 2 ด้าน เป็นโขดหิน และ พื้นที่ชัน คนที่จะเข้ามาให้พื้นที่ชายหาดต้องผ่านพื้นที่ของวิลล่าเท่านั้น


นางสาวณปภัช เศรษบุบผา ประธานชมรม สตรอง จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดภูเก็ต ให้ข้อมูลว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ชายหาดในจ.ภูเก็ตหลายแห่ง คนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปใช้ได้ เช่นกรณีตัวอย่างที่ยามู คือ เมื่ออาคารที่พักขึ้นตามแนวริมชายหาดปิดทางเข้า-ออกหรือทางลงหาด คนทั่วไปหรือนักท่องเที่ยวไม่สามารถผ่านเข้าไปในที่ของเอกชนได้ ชาดหาดเหล่านั้นจึงกลายเป็นชายหาดส่วนตัว ถือเป็นปัญหาของภูเก็ต ที่รอการแก้ไขอย่างจริงจัง


ขณะที่เพื่อนชายชาวโปแลนด์ของแพทย์หญิงธารดาว สะท้อนว่า ชายหาดสาธารณะควรเป็นของทุกคน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง และชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยควรให้เกียรติคนไทย และอยู่ภายใต้กฎหมาย