สังคม

ก้าวไกลเปิดตัวทีมสู้ไฟป่า หวังบรรเทา PM 2.5 พร้อมแนะเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

โดย panwilai_c

2 มี.ค. 2567

33 views

พรรคก้าวไกล เปิดตัวทีมสู้ไฟป่า หวังบรรเทาปัญหา PM 2.5และมลพิษทางอากาศ หัวหน้าพรรคก้าว แสดงความเห็นว่า มาตรการห้ามเผา ไม่ใช่ทางออก แต่อาจกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจเชิงลบ ทำให้เกิดผลกระทบเรื่องอื่น ควรแก้ปัญหาที่แหล่งกำเนิดของปัญหามากกว่า



ภายหลังแถลงข่าวเปิดตัว "ก้าวไกลสู้ไฟป่า" พรรคก้าวไกล นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ส.ส. และนายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center นั่งรถกระบะลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบขาน จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสำรวจ และแลกเปลี่ยนสถานการณ์ไฟป่า จากทางเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งนำ โดรนตรวจจับความร้อน (Thermal Drone) บินสำรวจบริเวณที่ยังเกิดไฟป่า



ซึ่งปัจจุบันส่วนควบคุมไฟป่ามีเพียงโดรนถ่ายภาพธรรมดา เมื่อถ่ายจากมุมสูงลงมา จึงมองไม่เห็นเส้นไฟ จึงต้องใช้วิธีปล่อยให้เจ้าหน้าที่เดินตามแนวไฟเพื่อหาต้นตอแทน ด้วยความที่มีจำนวนเจ้าหน้าที่น้อย จึงทำให้เหนื่อย และเสียเวลาในการทำงานเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว



นายรวมพล พานิกร หัวหน้าอุทยานแก่งชาติออบขาน กล่าวว่า สาเหตุหลักของไฟป่าบริเวณนี้ แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือเกิดตามข้างทางลามขึ้นพื้นที่ป่าจากความคึกคะนองของคนเมา /เกิดจากการเผาตามสวนของชาวบ้านที่มีพื้นที่อยู่ติดป่า เพื่อเผาให้โล่ง และ เกิดบริเวณใจกลางป่า ซึ่งมีสาเหตุมาจากการหาของป่า ล่าสัตว์



ส่วนอุปกรณ์ที่ต้องการอย่างเร่งด่วน คือเครื่องเป่าลมคราดอ่อน รวมถึงอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ เช่น เปล มุ้ง ให้สามารถนอนในพื้นที่ได้ รองเท้ากันไฟ ซึ่งในส่วนนี้ไม่สามารถของบประมาณได้จึงพยายามร้องขอการสนับสนุนจากหน่วยงานเอกชนไปหลายที่



ด้านนายชัยธวัช กล่าวว่า วันนี้ต้องการลงพื้นที่จริง และเรียนรู้จากหน้างาน ว่า การเกิดไฟป่าแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อสอบถามปัญหาต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นเพียงพอต่อการทำงานหรือไม่ พร้อมทั้งให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สะท้อนถึงปัญหา และความจำเป็นในการใช้โดรนตรวจจับความร้อน โดยตนและทีมก้าวไกลสู้ไฟป่า จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้เพื่อพัฒนาแนวทางนโยบายมาตรการในการจัดการไฟป่าที่มากขึ้นในอนาคต



สำหรับทีมก้าวไกลสู้ไฟป่า ที่เปิดตัววันนี้ มี สส.เขตในพื้นที่ภาคเหนือ คือเชียงใหม่ เชียงราย และลำปาง จำนวน 12 คน จาก 11 ทีม นำโดย นายชัยธวัช โดยนายชัยธวัช กล่าวว่า จากการแลกเปลี่ยนในเวทีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน พูดถึงเรื่องแนวทางและเครื่องมือสำหรับการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศ มีความเห็นตรงกันว่า การจัดการไฟป่า ไม่ใช่ทั้งหมดของการแก้ไขปัญหา แต่ยังต้องมีการแก้ปัญหาแหล่งกำเนิด PM 2.5 และมลพิษทางอากาศ ที่เกิดจากแหล่งอื่นด้วย เพราะในแต่ละพื้นที่มีบริบทที่ต่างกัน การจัดการปัญหาที่สำคัญจึงต่างกัน และอาจต้องมองไปถึงขั้นทุติยภูมิด้วย



นายชัยธวัช ย้ำว่า แม้เรื่องการจัดการไฟป่าสำคัญ แต่การพยายามห้ามไม่ให้เผาเลย ไม่ใช่ทางออก สิ่งที่เราเรียนรู้จาก ’เชียงใหม่โมเดล’ หัวใจสำคัญอยู่ที่การมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อออกแบบมาตรการให้สอดคล้องกับบริบทและสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ปัญหาเบาบางลง มากกว่าการสั่งห้ามเผา ใช้คำสั่งที่ออกจากส่วนกลางแต่ใช้ปฎิบัติเหมือนกันทั้งประเทศ

คุณอาจสนใจ

Related News