อาชญากรรม

หนีพ้นประเทศแล้ว หญิงไทย-ชายไต้หวัน ผู้ต้องสงสัยร่วมฆ่า ‘หนุ่มไต้หวัน’ ตร.จ่อออกหมายจับ

โดย paweena_c

26 ก.พ. 2567

63 views

ตำรวจจ่อออกหมายจับ หญิงไทย 1 คน และชายชาวไต้หวัน 4 คน ร่วมฆ่า ชาวไต้หวัน ทิ้งศพอำพราง ในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังพบกลุ่มผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้ หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

จากเหตุการณ์ที่เมื่อวานนี้ พบศพ นายชิ โหมว เชียง อายุ 43 ปี ชาวไต้หวัน ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ แล้วนำศพไปทิ้งอำพรางไว้ที่เพิงขายอาหาร ซึ่งปิดให้บริการไปแล้ว ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงบำบัดน้ำเสีย ภายในพื้นที่ของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบสภาพศพ พบว่ามีรอยสักทั่วตัว ส่วนที่เกิดเหตุตรงบริเวณหน้าร้านอาหาร พบรอยเลือดเป็นกอง และกระเซ็นอยู่ทั่วบริเวณ รวมถึง ยังมีรอยคราบเลือดถูกลากเป็นทางเข้าไปภายในร้านอาหาร

ต่อมาพลตำรวจตรีวิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้เข้าไปตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ภายในซอยลาดปลาเค้า

โดยบ้านหลังนี้จากการสืบสวนพบว่า ก่อนที่จะมีคนพบศพนายชิ ได้มีรถเก๋งสีแดง ขับเข้ามายังจุดที่เจอศพนายชิ จากนั้นได้รีบร้อนขับรถออกไป โดยคนที่ขับรถเข้ามาคือหญิงชาวไทย ชื่อน้ำตาล และน้ำตาลได้เช่าบ้านอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งภายในซอยลาดปลาเค้า

จากการตรวจสอบภายในบ้านตำรวจพบหลักฐานสำคัญหลายอย่าง เช่นรอยคราบเลือดภายในบ้าน ส่วนที่ห้องน้ำพบมีร่องรายการล้างพื้นด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำ นอกจากนี้ยังพบยาเค จำนวน 500 กรัมอยู่ในบ้าน ขณะที่เพื่อนบ้านของน้ำตาล บอกว่านอกจากน้ำตาลที่อยู่บ้านหลังนี้แล้ว ยังมีคนจีนหลายคนเข้ามาที่บ้านหลังนี้ด้วย

โดยคืนก่อนที่จะมีการพบศพ พบว่าน้ำตาลได้ขับรถเก๋งสีแดง เข้ามาที่บ้าน ต่อมา นายชิ ได้ขี่มอเตอร์ไซด์ตามเข้ามา และหลังจากนั้นตอนประมาณ ตี 3 ก็มีชายชาวจีนนั่้งแท็กซี่ตามเข้ามาที่บ้าน จากนั้นช่วงประมาณหลัง ตี 3 ไปแล้ว ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ซึ่งตนไม่กล้าออกไปดูเพราะกลัว จนกระทั่งมาทราบจากข่าวว่า มีคนถูกยิงตายแล้วเอาศพไปทิ้ง

ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุ พบว่าบ้านถูกปิดและไม่มีการอนุญาตให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไป โดยเพื่อบ้านรายหนึ่งบอกว่า บ้านหลังดังกล่าวก่อนหน้านี้เป็นบ้านร้าง และตนไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ และน้ำตาลเพิ่งจะเข้ามาเช่าได้ประมาณ 2 เดือน จากการสังเกตพบว่าจะมีชายชาวจีนหลายคนแวะเวียนมาหาน้ำตาลที่บ้านหลายครั้ง และจะพูดคุยกันเป็นภาษาจีน ซึ่งเพื่อนบ้านที่นี่ ไม่มีใครสนิทกับน้ำตาล

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ในช่วงเช้าวันนี้ พลตำรวจตรีวิชิต ได้เรียกประชุมชุดพนักงานสอบสวน ที่ สภ.สุวรรณภูมิ โดยพลตำรวจตรีวิชิต เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวน้ำตาล กับ ชายชาวไต้หวัน 4 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ

โดยจากการตรวจสอบพบว่า น้ำตาลกับชายชาวไต้หวันทั้ง 4 คน ได้เดินทางออกจากไทยไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยผ่านทาง ตม.จังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยน้ำตาลเดินทางออกตอน 13.28 นาที ส่วนชายชาวไต้หวันเดินทางออกตามหลังในเวลาไล่เลี่ยกัน

ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ตอน 7 โมงเช้า ของเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พบรถเก๋งสีแดง อยู่ที่ถนนใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และเข้ามาที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นได้มีการนำรถไปจอดทิ้งไว้ที่ริมถนนมอเตอร์เวย์ จากการตรวจสอบภายในรถ พบรองเท้า 1 ข้าง ซึ่งเหมือนกับรองเท้าที่เจอในบ้านของน้ำตาล และพบน้ำยาล้างห้องน้ำซึ่งมีการใช้ไปแล้ว 1 ขวด กล่องใส่ปืน ซึ่งขณะนี้ได้ส่งรถไปตรวจหาดีเอนเอ ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จังหวัดปทุมธานี

ทั้งนี้ยังมีพยานให้ข้อมูลว่าก่อนจะมีการทิ้งศพ หนึ่งในชาวไต้หวัน ที่มากับน้ำตาล ได้แวะซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำ ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง จากนั้นจึงได้ขับรถเข้ามาที่สนามบินสุวรรณภูมิ

มีรายงานว่าการประชุมวันนี้ ชุดทำงานอยู่ระหว่างเร่งสรุปหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะความเชื่อมโยงของน้ำตาล กลุ่มชาวไต้หวันและคนตาย ว่าชนวนเหตุมาจากสาเหตุอะไร เพราะจากการตรวจสอบประวัติของคนตายอยู่ระหว่างหนีหมายจับของไต้หวันในคดีปล้นและครอบครองอาวุธปืน อีกทั้งยังน่าจะหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย

ที่สำคัญในบ้านของน้ำตาลยังพบยาเค ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าพัวพันกับเรื่องยาเสพติดในลักษณะใดด้วย ซึ่งหากได้หลักฐานทุกอย่างชัดเจนก็จะดำเนินการขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป

สำหรับคดีนี้ กุญแจที่ทำให้รู้ตัวว่าคนตายเป็นใครได้อย่างรวดเร็วคือรอยสัก โดยมีพยานปากสำคัญ ซึ่งเป็น เจ้าของร้านสัก ในศูนย์การค้าอเวนิว จังหวัดชลบุรี ให้ข้อมูลว่าคนตาย ได้มาสักที่ร้านประมาณเดือนกรกฎาคม และ สิงหาคม ปีที่แล้ว เพื่อต้องการให้แก้ลายสักของเดิมเกือบทั้งตัว ระหว่างที่ผู้ตายเดินทางมาใช้บริการก็มีท่าทีปกติทั่วไป แถมยังใจดีเลี้ยงน้ำช่างสักทุกคนในร้าน

เมื่อเห็นข่าวตนจำรอยสักได้ จึงรีบแจ้งตำรวจและส่งรูปคนตายและรอยสักให้ดู จนยืนยันได้ว่าคนตายคือลูกค้าของตนจริง ซึ่งตนตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก



https://youtu.be/9ROHG-8zTWM

คุณอาจสนใจ