รวบทีมฆ่า ‘หนุ่มไต้หวัน’ เค้นสอบปมสังหาร

ความคืบหน้าคดีหนุ่มไต้หวันโดนฆ่าหมกศพในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านอุดมสุข ตำรวจใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็สามารถตามจับทีมสังหารได้แล้ว เบื้องต้นพบผู้เกี่ยวข้อง 4 คน

จากกรณีพบศพนายชูเชียง เฉิน อายุ 48 ปี ชาวไต้หวัน สภาพนอนคว่ำหน้าสวมเสื้อยืดคอกลมสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีดำ ที่ปากถูกปิดด้วยสกอตช์เทปใสหลายรอบ มือ 2 ข้างถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกฟางและสกอตช์เทปใสคาดด้วยเข็มขัดมัดรอบตัว หน้าแข้งถูกรัดด้วยเข็มขัด ข้อเท้าถูกมัดด้วยสกอตช์เทปใสหลายรอบ เหนือคิ้วขวาถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์ ผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือด และมีผ้าขนหนูเปื้อนเลือดที่พื้นอีก 2 ผืน ส่วนภายในห้องพบตู้เซฟขนาดย่อม 2 ตู้ วางอยู่บนพื้น

เวลาราว 01.00 น. ของวันที่ 16 พ.ย. กล้องวงจรปิดที่หน้าลิฟต์ของโรงแรม มีผู้ชายผิวขาวสวมเสื้อแขนสั้น กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ สวมหมวก และหน้ากากอนามัย สะพายกระเป๋า 1 ใบ ถือมาอีก 1 ใบ ออกจากลิฟต์มาที่ชั้น 6 แล้วเดินตรงไปที่ห้องของ นาย ชู เชียง เฉิน อายุ 47 ปี ชาวไต้หวัน 1 นาทีกว่า ชายคนนี้เดินออกมากดลิฟต์ แล้วมีผู้ชายสวมกางเกงขาสั้น เสื้อคลุมแบบมีฮู้ด เดินตามมาแล้วลงลิฟต์ไปพร้อมกัน ขณะที่กล้องวงจรปิดที่ชั้น 1 จับภาพชายผิวสีได้อีก 1 คน เดินออกมาจากลิฟต์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันเพียงลำพัง

จากข้อมูลการสืบสวบของตำรวจ พบว่า ชายที่สวมกางเกงขาสั้น คือ นาย ชเวลิน แปร่ หรือ เจนซี่ ชาเมียนมา อายุ 21 ปี เป็นคนลงมือสังหาร โดยร่วมกับชายต่างชาติผิวขาวที่สะพายกระเป๋า ส่วนชายผิวสีเสื้อเหลือง คือ นาย จอห์น แอบอนี อายุ 40 ปี ชาวแคเมอรูน ทำหน้าที่ดูต้นทาง นอกจากนี้มีผู้จ้างวานเป็นหญิงชาวไทยอีก 1 คน ซึ่งตอนนี้ตำรวจตามจับได้แล้ว 2 คน คือ นาย ชเวลิน และ นายจอห์น ส่วนที่เหลืออีก 2 คน ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัว

สำหรับนาย ชเวลิน ถูกจับได้ที่ย่านราชเทวี แต่ยังให้การภาคเสธ อ้างว่ามีคนโพสต์หาคนสนใจทำงานสอดแนม สะกดรอย ถ่ายรูป ทางเฟซบุ๊ก เลยติดไป และนัดเจอผู้ว่าจ้างเป็นหญิงไทย ที่ ร้านกาแฟในห้างดัง แถวฝั่งธนบุรี จากนั้นก็สะกดรอยตามมาตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน โดยเปิดห้องพักอยู่ชั้น 5 ส่วนวันเกิดเหตุ 16 พฤสจิกายนได้ร่วมก่อเหตุกับนาย จอห์น แอบเบอ และชายผิวขาว ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ เพราะหญิงไทยผู้จ้างวานแจ้งว่าผู้ตายมีทรัพย์สินจำนวนมาก และมีประวัติอาชญกรรม

โดยชายผิวขาว เป็นคนจับผู้ตาย นายชเวลิน เป็นคนมัด ผู้ตายด้วยเทป และเข็มขัดกับผู้ตาย นายจอห์น ทำหน้าที่ดูต้นทางด้านหน้าประตู จากนั้นได้รื้อค้นหาทรัพย์สิน แต่ไม่พบเงิน จึงนำเอาเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน็ตบุ๊ค และเครื่องโทรศัพท์ แล้วแยกย้ายกันหลบหนี นายชเวลินขี่รถจักรยานยนต์หนีไป นายจอห์น นั่งแท็กซี่  ส่วนชายผิวขาวไม่ทราบว่าออกไปยังไง และยังอ้างว่าตอนที่ออกมาจากห้องชายไต้หวัน ยังไม่ตาย ส่วนนายจอห์น ให้การปฏิเสธ อ้างว่าเขาเป็นแค่ "ครูสอนภาษา"

พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางมาร่วมประชุมกับคณะทำงาน ระบุว่า ขอศาลอาญาพระโขนงออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว 3 คน ชายสัญชาติเมียนมา 1 คน ชายผิวสีสัญชาติ แคมเมอรูน 1 คน และชายผิวขาวยังไม่ทราบสัญชาติอีกหนึ่งคน

ส่วนของประเด็นที่มีการระบุว่ามีผู้หญิงชาวไทยเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในฐานจ้างวานผู้ก่อเหตุ ขณะนี้ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่สามารถเปิด เพราะต้องรอดูพยานหลักฐานว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไร รวมถึงเรื่องของทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดตู้เซฟทั้ง 2 ใบได้ ต้องสอบถามกับทางญาติของผู้เสียชีวิตว่าผู้เสียชีวิตมีทรัพย์สินใดติดตัวมาบ้าง ถึงจะรู้ว่าอะไรหายไป

มีรายงานว่า สำหรับวัตถุประสงค์การก่อเหตุ คนร้ายอาจจะไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่ประสงค์ต่อข้อมูลบางอย่างซึ่งผู้ตายมีเก็บไว้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/HDqAtIPI63E