สังคม

'วัชระ' ร้องตรวจสอบจริยธรรม 'เรืองไกร' หาที่มารถหรู-เช็กเงินสด 25 ล้านบาท

โดย parichat_p

7 ก.พ. 2567

33 views

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้าเอกสารถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อสอบจริยธรรม นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายปี 2567 หลังพบกรณีน่าสงสัยในที่มาที่ไปของรถเบนซ์ 2คัน และ เช็คเงินสด 25 ล้านบาท


นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรมร้ายแรงกับ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 โดยระบุว่า นายเรืองไกรเป็นกรรมาธิการงบประมาณมาตั้งแต่ปี 2563 / 2565 / 2566 / และ 2567 ซึ่งก่อนหน้านี้นายเรืองไกรได้โพสต์ Facebook ว่าได้รับรถเบนซ์ 2 คัน คือ สีดำ 1 คัน และ สีขาว 1 คัน โดยอ้างว่ามีผู้ใหญ่ใจดีให้มา ซึ่งในวันที่โพสต์ภาพรถเบนซ์ดังกล่าวเป็นวันเดียวกันกับการประชุมกรรมาธิการงบประมาณพอดี


ที่ผ่านมา นายวัชร ได้นำเรื่องนี้ไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือนแล้ว และทราบว่านายเรืองไกร ได้จดทะเบียนครอบครองรถเบนซ์สีดำ 1 คัน ส่วนสีขาวไม่ระบุชื่อผู้ครอบครอง จึงขอให้สืบสวนเรื่องนี้ต่อไป


นอกจากนี้ยังมีกรณีแคชเชียร์เช็คจำนวน 25 ล้านบาทที่สั่งจ่ายให้นายเรืองไกรเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งนายเรืองไกรก็ได้โพสต์เรื่องนี้เช่นกัน จึงเป็นที่น่าสงสัยว่านายเรืองไกรได้รับเช็คดังกล่าวเป็นค่าอะไร และจากผู้ใด


นายวัชระ ระบุว่า เรื่องนี้ได้มีการร้องต่อ คณะกรรมการ ปปช. ซึ่งผ่านมา 2 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าทั้ง 2 กรณีนี้ เมื่อถูกร้องเรียนก็มีการลบเนื้อหาตรงนี้ออกไป ดังนั้นในฐานะที่นายเรืองไกร พิจารณางบประมาณปีละ 3 ล้านล้านบาท ก็ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ควรต้องมีความโปร่งใส จึงขอให้มีการสอบจริยธรรม และส่วนตัวนายเรืองไกรควรมีจิตสำนึก ดังนั้นการกระทำใดๆ หรือการรับทรัพย์ หรือสิ่งของใดๆ ที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ก็ต้องเป็นไปตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการทุกประการ และถ้ามีจิตสำนึกก็ควรลาออก จากกรรมาธิการงบประมาณฯด้วย


ส่วนตัวนายวัชระ ในฐานะเป็นผู้เสียภาษีจึงอยากให้มีความโปร่งใส และตรวจสอบว่านายเรืองไกรได้รับเช็คและรถยนต์มาโดยถูกต้องหรือไม่ เพราะข้อเท็จจริงที่ปรากฎ มีเหตุอันสงสัยได้ว่า นายเรืองไกรอาจจะได้รับทรัพย์สิน จากการเป็นกรรมาธิการ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 3 ( 5 ) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยในวันพรุ่งนี้ก็จะนำเรื่องดังกล่าวไปยื่นหนังสือต่อเลขาธิการ ปปง. ร่วมด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News