สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 6 ก.พ.67 จำคุก 8 แกนนำคดีแฟลชม็อบ-ลุงพิการโยกสามล้อเข้ากรุง-ตร.ชี้พรไม่เกี่ยวอุ้มฆ่าผัว

โดย thichaphat_d

6 ก.พ. 2567

70 views

1.ลุงโยกสามล้อเข้ากรุงเทพฯ หลังถูกตัดสิทธิเบี้ยคนพิการ ลั่นจะเรียกร้องสิทธิ

ลุงพิการโยกรถสามล้อจากสุโขทัยมุ่งหน้ากรมบัญชีกลาง หลังถูกตัดสิทธิเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท มาตั้งแต่ปี 2563 แถมไม่มีบัตรประชาชน โดนเจ้าหน้าที่ตอกกลับ ให้ไปยืนยันสิทธิด้วยตัวเองที่กรมบัญชีกลาง กรุงเทพฯ ขอให้เจ้าหน้าที่พาไป แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าช่วยได้แค่นี้ ตัดสินใจโยกรถสามล้อ ออกเดินทางไปทวงสิทธิตัวเอง

ด้านรองผู้ว่าฯ อยุธยา พบข้อมูลลุงไม่มีบัตรประชาชน ชื่อถูกย้ายไปอยู่ทะเบียนกลาง เพราะมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและทำร้ายร่างกายพ่อตัวเอง จึงถูกตัดสิทธิตามระเบียบ ก่อนจะเร่งประสานย้ายชื่อเข้าสารระบบ คืนสิทธิให้เหมือนเดิม พร้อมทำบัตรประชาชนให้ แต่ลุงไม่ยอมรับความช่วยเหลือ ลั่นจะไปกรุงเทพฯ ให้ได้

2.แจ้ง 3 ข้อหาทีมอุ้มใหม่ หนุ่มโรงงาน ตำรวจชี้นางสาวพรไม่เกี่ยวอุ้มฆ่าผัว


ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา 4 ผู้ต้องหาร่วมแก๊งช่างกิต อุ้มฆ่าใหม่ หนุ่มโรงงาน ทั้งร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ข่มขืนใจผู้อื่น และหน่วงเหนี่ยวกักขังจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ก่อนถูกฝากขัง

ด้านนางสาวพรเข้าพบตำรวจให้ปากคำเพิ่มเติม ผู้บังคับการตำรวจฉะเชิงเทรา เผย พรไม่น่าเกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่าสามี สอบปากคำช่างกิต ยอมรับว่าขโมยคีย์การ์ดจากฝ่ายหญิง เพราะรู้ว่าพรโกหกปกปิดบางอย่าง จึงขโมยคีย์การ์ดเข้าหมู่บ้านเพื่อค้นหาข้อมูลของพร นอกจากนี้ยังพบข้อความแชทที่พรด่าคนก่อเหตุ ส่วนช่างกิตให้กำลังใจและบอกให้รอดูคนร้ายในคดีนี้

3. ลุงวัย 77 งง เจอหนุ่มต่อยจนฟันหัก แค่ตะโกนเรียกกระเป๋ารถเมล์ให้เก็บเงิน

หลานชายร้องขอความเป็นธรรม คุณลุงวัย 77 ปี ขึ้นรถเมล์สาย 131 เรียกกระเป๋าให้มาเก็บค่าโดยสาร แต่กลับถูกชายแปลกหน้า ลุกขึ้นมาต่อยจนฟันหัก เลือดกบปาก แถมยังด่าทอ บังคับให้ลุงยกมือไหว้ขอโทษ ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องกันมาก่อน หลังจากนั้น ชายผู้ก่อเหตุยังไม่หยุด ด่าทอคำหยาบคายไปเรื่อย จนผู้โดยสารผวา คนขับรถเมล์ต้องจอด ด้านพนักงานขับรถเมล์เผย ผู้ก่อเหตุนั่งพูดคนเดียวมาตลอดทาง ก่อนจะเข้ามาทำร้ายคุณลุง เห็นท่าไม่ดี จึงต้องหยิบคันเกียร์มาปราม

4. พ่อแม่ไม่ทน แจ้งความจับครูล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวชั้น ป.4 ในห้องเรียน

พ่อแม่ไม่ทน พาลูกสาววัย 10 ขวบขึ้นโรงพัก หลังถูกครู ล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียนที่จังหวัดนครสวรรค์ เผยก่อเหตุตั้งแต่เด็กอยู่ ป.3 จนถึง ป.4 จนเด็กทนไม่ไหวเล่าให้พี่ชายกับแม่ฟัง หลังแจ้งความ ครูผู้ก่อเหตุให้คนกลางมาไกล่เกลี่ยเพื่อขอขมา แต่พ่อแม่ไม่เอาด้วย ยืนยันจะเอาผิดให้ถึงที่สุด เผยมีนักเรียนหญิงตกเป็นเหยื่อครูคนนี้อีก 2 ราย ด้านตำรวจเร่งสอบปากคำเด็กผู้เสียหายพร้อมสหวิชาชีพ ส่วนครูที่ก่อเหตุติดต่อขอมอบตัวสู้คดีวันนี้ (6 ก.พ.67) ส่วนโรงเรียนต้นสังกัด ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และให้พ้นสภาพครูของโรงเรียนไปก่อน ยืนยันโรงเรียนจะดูแลเยียวยาอย่างเต็มที่

5. ลูกสาวร่ำไห้ กราบเท้าขอโทษ หลังตีแม่หน้าบวมช้ำ ยืนยันไม่เอาอะไรสักบาท

ลูกสาวร่ำไห้ กราบเท้าขอโทษแม่พิศมัย หลังร่วมกับสามี ก่อเหตุทำร้ายแม่จนบวมช้ำไปทั้งตัว ยอมรับผิด ทำไปเพราะโมโหที่แม่ดื่มหนักและพูดทวงบุญคุณบ่อยๆ วอนขอแม่ให้อภัย ไม่ขอเอามรดกอะไรจากแม่สักบาท หากแม่ไม่อยากเห็นหน้า ลูกคนนี้ก็จะไม่มาให้เห็นอีก ขอแค่แม่ให้อภัยก็พอแล้ว ด้านคุณแม่น้ำตาคลอ พูดไม่ออก แต่ก็ดีใจที่ลูกขอโทษ

เจ้าหน้าที่ พม.เผย ตอนนี้แม่ยังทำใจยกโทษให้ไม่ได้ แต่ท้ายที่สุดแม่คงจะให้อภัยลูกสาว แต่ต้องให้เวลาแม่-ลูกปรับตัว ปรับจิตใจสักระยะ ระหว่างนี้แม่จะอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ เพราะเข้าสู่กฎหมายคุ้มครองของ พม.แล้ว

6. อัจฉริยะร้องบิ๊กเต่าสอบ 2 ข้าราชการในกระทรวงเกษตรฯ ส่งข้อมูลทุจริตให้เอก ปากน้ำ

อัจฉริยะหอบหลักฐานข้อความแชตระหว่างข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ กับเอก ปากน้ำ มอบให้บิ๊กเต่าตรวจสอบ ชี้มีข้าราชการระดับสูงของกรมและกระทรวง ส่งข้อมูลทุจริตให้เอก ปากน้ำ ก่อนจะส่งข้อมูลต่อให้เจ๋ง ดอกจิกและพวกนำไปร้องเรียน พร้อมตั้งข้อสังเกตเหตุไฟไหม้ที่กระทรวงเกษตรฯ อาจไม่ใช่อุบัติเหตุ

ด้านผู้การเต่าเผย ไฟไหม้กระทรวงเกษตรฯ ไม่ส่งผลต่อพยานหลักฐานคดีรีดเงินอธิบดี ชี้หลักฐานเบื้องต้นมีเพียงพอและเชื่อว่ามีหลักฐานเก็บไว้ที่อื่นอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเผาทำลายให้หายไป คาดสัปดาห์นี้ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก

7. เจ้าของโรงงานผลิตกางเกงช้างของไทยที่เชียงใหม่ ไม่หวั่นผลกระทบจากสินค้าจีน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยัน จดลิขสิทธิ์กางเกงช้างและกางเกงแมวเป็นทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว กรมศุลกากรมีอำนาจยับยั้งสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ขณะนี้สั่งทุกด่านให้ควบคุมสกัดกั้นสินค้าตัวนี้ เตรียมให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ออกสัญลักษณ์หรือประทับตราบ่งบอกสินค้าจากไทย ยืนยัน กางเกงช้างกางเกงแมวของไทย มีคุณภาพดีกว่ามาก

ด้านผู้ผลิตที่เชียงใหม่ ไม่หวั่นผลกระทบจากสินค้าจีน ตั้งแต่มีข่าว มีลูกค้าคนไทยสอบถามและสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น เพราะอยากสนับสนุนสินค้าไทย ย้ำกางเกงช้างไทยมีคุณภาพมากกว่า ทนทาน ลายสวย สีชัด ใส่สบาย มีจุดสังเกตง่ายๆ ช้างไทยของแท้เท้าต้องติดดินเท่านั้น วอนรัฐบาลเร่งแก้ปัญหา หวั่นกระทบซอฟต์พาวเวอร์ไทย



เรื่องเล่าการเมือง

- จำคุก 8 อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ คดีแฟลชม็อบ


เมื่อวานนี้ มีคดีที่เกี่ยวกับอดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่และกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเมื่อปี2562 จากการจัดแฟลชม็อบในพื้นที่ต่างๆ ในที่สุดแล้วศาลพิพากษา สั่งจำคุก 4 เดือน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ / นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับพวก รวม 8 คน รออาญา 2 ปี ปรับ 20,200 บาท

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ / นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ / นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ / นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมอดีตผู้สมัคร สส.พรรคอนาคตใหม่อีก 2 คน เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลแขวงปทุมวัน กรณีชักชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมแฟลชม็อบที่สกายวอล์กปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 หลังกกต. มีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ คดีกู้ยืมเงินจากนายธนาธร 191 ล้านบาท

โดยทั้งหมดตกเป็นจำเลยในข้อหา ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งจัดการชุมนุม / ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะ / ชุมนุมสาธารณะในระยะไม่เกิน 150 เมตรจากพระราชวัง และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีความผิด จึงพิพากษาจำคุก 4 เดือนปรับ 10,000 บาท เมื่อคำนึงถึงอายุประวัติสถานะทางสังคมความมีชื่อเสียง และมีผู้ติดตามจำนวนมากจำเลย ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และการชุมนุมเป็นการแสดงออกแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไม่ใช่อาชญากรรมร้ายแรงเห็นควรให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี

ส่วนกรณีที่จำเลยไม่แจ้งการชุมนุม และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ปรับพินัย ศาลสั่งปรับ 10,000 บาท ร่วมกันโฆษณาหรือแสดงความคิดเห็นแก่ประชาชนโดยใช้เครื่องขยายเสียง โดยไม่ได้รับอนุญาต 200 บาท รวมเป็นเงินค่าปรับ 20,200 บาท

นายกฤษฎางค์ นุสจรัส ทนายความ กล่าวภายหลังศาลพิพากษาว่า จำเลยยังติดใจในประเด็นเรื่องของระยะ 150 เมตรของเขตพระราชฐานว่าวัดจากจุดใด และประเด็นไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงาน เพราะ ศาลแขวงจังหวัดเชียงรายเคยมีคำวินิจฉัยว่าไม่จำเป็นต้องขออนุญาต เพียงแต่ต้องแจ้งพนักงานสอบสวน หรือหากโพสต์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียก็ถือว่าเจ้าหน้าที่รับรู้แล้ว

ด้านนายพิธา กล่าว่า จากการหารือกับจำเลยคนอื่นอาจจะต้องยื่นอุทธรณ์คดีเพราะมีประเด็น ข้อเท็จจริงเรื่องของระยะของการชุมนุม ใกล้เขตพระราชฐาน ว่าอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของ 150 เมตรว่าวัดจากจุดไหน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานกับคดีอื่นๆ พร้อมระบุว่าการที่ศาลตัดสินในลักษณะนี้ ไม่ทำให้พรรคก้าวไกลเสียเครดิตทางการเมือง เนื่องจากประชาชนมีความเข้าใจในข้อเท็จจริง

ทางด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล บอกว่า คดีนี้มีหลายประเด็นในการยื่นอุทธรณ์ต่อเพื่อให้ศาลสูงพิจารณา ส่วนเรื่องความไม่เหมาะสมของกฎหมายก็อยากจะฝากให้พรรคก้าวไกลไปพิจารณาแก้ไขในสภาต่อไป



-ภูมิธรรม ชี้คำพูดก้าวไกลยิ่งยุบยิ่งโต แค่วาทกรรม

นายภูมิธรรม ให้ความเห็นเกี่ยวกับพรรคก้าวไกล ที่มีคนมองว่า "ยิ่งยุบ พรรคยิ่งโต" ว่าเป็นแค่วาทกรรม ก็บอกว่า จะยุบแล้วโตหรือเล็ก ขึ้นอยู่กับความเป็นจริง

นอกจากนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังย้ำจุดยืนของพรรคเพื่อไทย ว่าไม่ยุ่งกับมาตรา 112 ก็บอกว่า เรื่องใดที่ยังมีความอ่อนไหว ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งใหม่ ไม่ควรแตะต้อง ถ้ายังสรุปไม่ได้ ก็ไม่ควรหยิบยกขึ้นมา เพราะหน้าที่ของเราตอนนี้คือเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

ส่วนความเห็นของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่เสนอให้ออกกฎหมายแก้ไข พ.ร.บ.ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อลดอำนาจศาลนั้น นายภูมิธรรม บอกว่า นายปิยบุตรเป็นนักกฎหมาย ก็ต้องไปถามรายละเอียดจากคุณปิยบุตร ส่วนตนเป็นนักรัฐศาสตร์ ไม่เข้าใจรายละเอียด แต่คิดว่าทุกอย่างต้องมีเหตุผลรองรับ



-สว. รุมจวกรัฐบาล ยื้อเวลาซักฟอก ปมทักษิณ- เงินดิจิทัล

การเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามมาตรา 153 ของ สว. ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนเรื่องวันที่จะอภิปราย เนื่องจากฝั่งรัฐบาล ให้เวลาได้หลัง 20 มีนาคม เพราะติดภารกิจนายกฯต้องไปต่างประเทศ แต่ฝั่ง สว. อยากได้ เดือน ก.พ.นี้

เรื่องนี้ สว. ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ออกมาตำหนิรัฐบาล โดยบอกว่า การอภิปรายครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและประชาชน หน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลกลับเห็นว่าการเดินทางไป ภารกิจอื่นๆ สำคัญกว่าการมาตอบข้อซักถาม ซึ่งดูจะไม่ถูกต้อง ถือเป็นการละเลย และไม่ให้ความสำคัญในการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ

การปล่อยเวลาล่วงเลยไป บางเรื่องอาจเกิดความเสียหาย ให้กับประเทศอย่างแก้ไขไม่ได้ วุฒิสภาเห็นว่า มีความสุขงอมมากพอที่จะเปิดอภิปรายได้ และจำเป็นที่จะต้องเท่าทันกับห้วงเวลาที่จะเกิดปัญหา หากรัฐบาล จะปล่อยเวลาล่วงเลยไปจนถึงปลายเดือนมีนาคมจนถึงเดือนเมษายน หรือจะปล่อยไปจนถึง วันที่ สว. หมดวาระการดำรงตำแหน่ง เป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ ไม่มีประโยชน์กับรัฐบาล

สว. ดิเรกฤทธิ์ บอกด้วยว่า เดี๋ยวจะ ตั้งกระทู้ถามในที่ประชุม สว.ไปถึงประธานวุฒิสภา ว่าเหตุใดจึงยอมรัฐบาลให้เขาต่อรองได้ ทั้งที่เป็นการประชุม สว. หากเขาไม่มาเราก็อภิปรายข้างเดียวไปเลย เพราะถือว่าเขาปฏิบัติผิดรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ เพราะส่วนตัวเห็นว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ให้ความสำคัญไม่ได้ เพราะมิเช่นนั้นระบบรัฐสภาจะไปต่อไม่ได้

ส่วน สว.คำนูณ สิทธิสมาน ก็บอกว่า การเสนอญัตติให้รัฐมนตรีมาชี้แจงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และต้องเร่งด่วนพอสมควร ถ้าทิ้งเวลาไปช่วงเดือนมีนาคม แม้จะสามารถทำได้ แต่ถ้าเร็วว่านี้ จะเป็นประโยชน์ มากกว่า เพราะ หลังจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องรุมล้อมเข้ามา



-นายกฯ อุบถกจุลพันธ์ ดันเงินดิจิทัล ย้ำเดินคู่ขนานรอ ป.ป.ช.

ความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เมื่อวานนี้ท่านนายกฯ ได้เชิญ รัฐมนตรีจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ มาหารือที่ทำเนียบ แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ระบุเพียงว่า "ถึงเวลาสมควรแล้วจะบอก" และบอกตอนนี้เป็นการเดินคู่ขนานระหว่างรอความเห็นจาก ป.ป.ช.

เมื่อวานนี้ช่วงบ่าย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าหารือกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นการส่วนตัวบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ถึงความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท (แน่นอนคำถามว่า สรุปแล้วป.ป.ช.ได้ส่งข้อเสนอแนะมาถึงรัฐบาล แล้วหรือไม่ และกระบวนการของรัฐบาลจะต้องรอหรือไม่)

ภายหลังพูดคุยเสร็จ ท่านนายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ก็บอกเพียงว่า "เรียบร้อยดี เดี๋ยวถึงเวลาสมควรแล้วจะบอก" ส่วนจะเป็นข่าวดีหรือไม่ ท่านนายกฯ บอกว่า เป็นขั้นตอนในการทำงาน

เมื่อถามย้ำว่า จะต้องรอความเห็นของคณะกรรมการป.ป.ช. ก่อนใช่หรือไม่ ท่านนายกฯ บอกว่า "ก็คอยอยู่ ต้องทำงานคู่ขนานกันไป เดี๋ยวนายจุลพันธ์ คงบอกเรื่องการนัดหมายประชุมของคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต"

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า ยังไม่มีหนังสือจาก ป.ป.ช. เรื่องความเห็นโครงการแจกเงินดิจิทัล มาถึงรัฐบาล แต่ย้ำว่าต้องเดินหน้าต่อ เพราะได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว พร้อมฝากถึงคนคัดค้าน ให้นึกถึงวิกฤติต้มยำกุ้ง เพราะหากเกิดขึ้นจะส่งผลเสียหายอย่างรุนแรงต่อประเทศ


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/w1pQELEjZkA


คุณอาจสนใจ

Related News