สังคม

'บิ๊กเต่า' ยัน ไฟไหม้ก.เกษตรฯ ไม่กระทบคดีตบทรัพย์ เชื่อหลักฐานสำคัญต้องมีเก็บไว้ที่อื่นด้วย

โดย parichat_p

5 ก.พ. 2567

34 views

คืบหน้าคดีรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว 'บิ๊กเต่า' ยัน เหตุเพลิงไหม้กระทรวงเกษตรฯ ไม่มีผลกระทบคดี  'นายอัจฉริยะ' นำหลักฐานมอบให้ตำรวจ อ้างมีข้าราชการ ก.เกษตรฯ 2 คน ให้ข้อมูลกับ 'เอก ปากน้ำ' เกี่ยวกับการทุจริตในกระทรวงฯ


วันนี้ (5 ก.พ.67) รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมายืนยันว่า เหตุเพลิงไหม้กระทรวงเกษตรฯ ไม่มีผลกระทบกับคดีรีดเงินอธิบดีกรมการข้าว ตำรวจมีหลักฐานเพียงพอและเชื่อว่าหากมีหลักฐานสำคัญจริง ก็จะต้องมีเก็บไว้ที่อื่นด้วย ส่วน 'นายอัจฉริยะ' ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานมอบให้ตำรวจ เเละอ้างว่ามีข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2 คน ให้ข้อมูลกับ 'นายเอกลักษณ์' หรือ เอก ปากน้ำ เกี่ยวกับการทุจริตในกระทรวงฯ


พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์


โดยพบว่าต้นเพลิงมาจากห้องครัว และลุกลามไปที่ห้องคณะทำงานที่ปรึกษา 'นายไชยา พรหมมา' รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ จะส่งผลต่อพยานหลักฐาน คดีรีดเงินนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวหรือไม่


ซึ่งในประเด็นนี้ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยว่ายังไม่มีความเกี่ยวโยงกัน แต่จะเกี่ยวกับวงอื่น ที่มีผู้เสียหายมาร้องเรียนหรือไม่ ยังไม่ทราบ


โดยย้ำว่าตำรวจทำงานไปตามพยานหลักฐาน อะไรที่เกี่ยวข้องเกี่ยวโยงก็พยายามเจาะข้อมูล ส่วนจะไปเกี่ยวข้องกับใคร หากไม่มีพยานหลักฐานก็ยังพูดไม่ได้ เพราะคดีการทุจริตต้องทำอย่างต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวถาม มีพยานหลักฐานอะไรที่ตำรวจอยากได้จากจากชั้น 2 ของกระทรวงเกษตรฯบ้างหรือไม่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า "หลักฐานเบื้องต้นมีเพียงพอไม่จำเป็นต้องเผาทำลายให้หายไป และเชื่อว่ามีพยานหลักฐานเก็บในที่อื่นอยู่แล้ว" เเต่ก็ไม่ยืนยันว่า เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น เป็นอุบัติเหตุ หรือมีเจตนาเผาทำลาย ซึ่งอยู่ขั้นตอนของทีมพิสูจน์หลักฐาน


ขณะที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐาน รายชื่อข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2 คน ซึ่งนายอัจฉริยะอ้างว่า 2 คนนี้ เป็นคนที่นำข้อมูลกรมการข้าวและกรมฝนหลวง ส่งให้นายเอกลักษณ์ หรือ เอก ปากน้ำ หนึ่งในผู้ต้องหาในคดีร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากอธิบดีกรมการข้าว โดยนำมามอบให้ 'พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว' รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้สืบสวนสอบสวนถึงการทุจริตในกระทรวงเกษตรฯ


นายอัจฉริยะ บอกว่า ประเด็นสำคัญที่นำหลักฐานมามอบให้ในวันนี้ ก็เพื่อต้องการให้ออกหมายเรียกบุคคลทั้ง 2 มาสอบปากคำในฐานะพยาน เพราะเป็นคนที่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตภายในกระทรวงเกษตรฯ และมีความสนิทสนมกับ 'นายเอก ปากน้ำ'


โดยคนแรก คือนายโอ เป็นข้าราชการระดับสูงในกรมการข้าว และเป็นบุคคลที่อธิบดีกรมการข้าว เคยตั้งกรรมการสอบ และนี่เป็นแชทข้อความที่นายโอ คุยกับข้าราชการระดับสูงของกระทรวงเกษตร จะเห็นว่ามีข้อมูลเรื่องการทุจริตส่งมาด้วย ซึ่งเป็นข้อมูลชุดเดียวกับที่นายโอ เคยให้กับ"นายเอก ปากน้ำ"


ส่วนอีกคน คือ นาย ก. นายอัจจฉริยะ อ้างว่า เป็นคนใหญ่คนโตในกระทรวงเกษตรฯ เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังในการทำเรื่องลับๆ ให้รัฐมนตรี แต่ไม่ใช่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า และยังเป็นคนให้ข้อมูลของกรมฝนหลวงจนมีการร้องเรียน เเละยังเป็นคนเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบด้วย


นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มของ"นายเจ๋ง ดอกจิก" เคยไปพบกับนาย ก. ที่ห้องของที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่เพิ่งถูกไฟไหม้ด้วย เเละยังนำข้อมูลเกี่ยวกับโครงการทุจริตฮั้วประมูล ที่กลุ่มขบวนการนี้เคยร้องให้คณะกรรมาธิการฯรัฐสภา ตรวจสอบ เมื่อกลางปี 2566 ทั้งโครงการทุจริตเรือดำน้ำมูลค่าแสนล้านบาท และโครงการก่อสร้างอาคารตำรวจ 191 มูลค่า 7,000 ล้านบาท ที่มีการไปร้องว่า มีระดับบิ๊กตำรวจเกี่ยวข้องกับการทุจริต แต่ภายหลังก็มีการถอนเรื่องให้ตรวจสอบทั้ง 2 เรื่อง


นายอัจฉริยะ ยังพูดถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้ 'เจ๋ง ดอกจิก' ได้ออกมาแถลงข่าวเเละสาบานว่า "หากตัวเองเรียกรับผลประโยชน์อยู่ในแก๊งตบทรัพย์ขอให้มีอันเป็นไป" โดยนายอัจฉริยะ บอกว่า ต้องขอบคุณที่ออกมาแถลงข่าว เพราะเหมือนเป็นการยอมรับว่าคลิปเสียงและข้อความแชทสนทนา เป็นหลักฐานจริง

คุณอาจสนใจ

Related News