สุลต่านอิบราฮิม แห่งรัฐยะโฮร์ เสด็จเข้าพิธีสาบานตน ทรงรับตำแหน่งกษัตริย์มาเลเซียองค์ใหม่

สุลต่านอิบราฮิม สุลต่าน อิสกันดาร์ ประมุขของรัฐยะโฮร์ เสด็จเข้าพิธีสาบานตนขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ที่ 17 ของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 31 มกราคม ณ พระราชวังแห่งชาติ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์

ประมุขของราชวงศ์มาเลเซีย 9 ราชวงศ์จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย หรือ ยังดีเปอร์ตวนอากง ทุกๆ 5 ปี โดยสุลต่านอิบราฮิมทรงขึ้นสืบทอดอำนาจต่อจากสมเด็จพระราชาธิบดีอัล-สุลต่าน อับดุลลอฮ์ ที่จะเสด็จกลับไปเป็นประมุขของรัฐปะหัง

สุลต่าน อิบราฮิม พระชนมายุ 65 พรรษา ทรงเป็นคนที่ตรงไปตรงมาเกี่ยวกับเรื่องการเมือง รวมถึงเป็นที่รู้จักจากการที่พระองค์ทรงโปรดปรานการสะสมรถยนต์หรูและจักรยานยนต์จำนวนมาก โดยพระองค์ยังทรงมีความสนใจในเรื่องธุรกิจหลายด้าน ตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ไปจนถึงการขุดเหมือง รวมถึงมีหุ้นในโครงการ "ฟอเรสต์ ซิตี้  โครงการเวียนคืนและพัฒนาที่ดินมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรัฐยะโฮร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศจีน

ทั้งนี้ สถาบันกษัตริย์ของมาเลเซียมีบทบาทเกี่ยวข้องกับพิธีการต่างๆ เป็นส่วนใหญ่ แต่อิทธิพลของสถาบันกษัตริย์ได้เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้กษัตริย์มาเลเซียทรงใช้อำนาจในการตัดสินใจเพื่อแก้ไขความไม่มั่นคงทางการเมืองของมาเลเซีย ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง

ก่อนหน้านั้น สุลต่านอิบราฮิมได้ทรงให้สัมภาษณ์สื่อ ว่า พระองค์ตั้งใจจะเป็นกษัตริย์ที่มีบทบาทเชิงรุก และเสนอให้ บริษัทน้ำมัน ปิโตรเลียม เนชั่นแนลซึ่ง บริษัทน้ำมันของทางการมาเลเซีย และหน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชั่นของมาเลเซียรายงานตรงต่อพระองค์ รวมถึงมีแผนที่จะรื้อฟื้นโครงการรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมระหว่างมาเลเซียและสิงคโปร์ที่หยุดชะงักไป แต่นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม กล่าวว่าความเห็นต่างๆ ทั้งหมดสามารถนำมาพูดคุยกันได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงรัฐธรรมนูญของรัฐ