สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 29 ม.ค.67 หลักฐานมัดก๊วนพี่ศรีรีดเงิน / ลงนามฟรีวีซ่าไทย-จีน / เร่งล่ามือแทงปทุมวัน

โดย thichaphat_d

29 ม.ค. 2567

41 views

1.ปปป.มั่นใจหลักฐานมัดก๊วนพี่ศรี รีดเงินอธิบดี แลกยุติร้องเรียน

2.ฝ่ายกฎหมายกรมการข้าว มั่นใจหลักฐาน มัดกลุ่มศรีสุวรรณ หวั่นโทษลด

3.เร่งล่ามือแทงปทุมวัน-ปล่อยแถว คฝ.ระวังเหตุ วันสถาปนาสถาบัน

4.แท็กซี่ร้องถูกคนร้ายหลอกเรียกรถ-ใช้ขวานฟันหัว หวังชิงทรัพย์

5.ดาบแป๊ะยิงไรเดอร์ดับ ร่วมเผาศพ อัดคลิปขอโทษญาติคนตาย

6.ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร สั่งปิดผับดัง 5 ปี หลังพบยาเสพติดเกลื่อน

7.แฉคลิป พระวัดดังทำร้ายน้องหมา ตาหลุดออกมา 2 ข้าง



เรื่องเล่าการเมือง

-สส.เท้ง เผยพิรุธ ศรีสุวรรณ - เจ๋ง ร้อง กมธ. ลั่นไม่เกี่ยวปมตบทรัพย์


จากเรื่องร้อนกรณีจับกุมคุณศรีสุวรรณ และ เจ๋ง ดอกจิก ที่พาดพิงมาที่กรรมาธิการติดตามงบประมาณ ที่ นาย จ. อ้างเคลียร์ได้ ล่าสุด ประธานกรรมาธิการติดตามงบฯ สส.เท้ง ณัฐพงษ์ ยอมรับ เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ มาร้องสอบฮั้วงบซื้อเครื่องบินกรมฝนหลวงจริง แต่เห็นความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่แรก ย้ำไม่เกี่ยวคดีตบทรัพย์

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวการเมืองของเรา ถึงกรณีคลิปเสียงที่นาย จ. คุยกับภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ซึ่งบางช่วงมีการพาดพิงถึงกรรมาธิการติดตามงบฯ ว่า นาย จ. สามารถเคลียร์ไม่ให้เรื่องเข้าสู่ชั้นกรรมาธิการได้

โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า กรณีที่มีการกล่าวอ้างว่าเคลียร์กับกรรมาธิการได้นั้น ถือเป็นการกล่าวอ้างเกินจริง แต่ยอมรับว่า นายศรีสุวรรณ และเจ๋ง ดอกจิก ยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการฮั้วประมูลในกรมฝนหลวงต่อกรรมาธิการจริง ซึ่งอยู่ระหว่างการดูรายละเอียดข้อเท็จจริงว่า จะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระเมื่อไหร่ เพราะทางกรรมาธิการก็ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง

สส.เท้ง เปิดเผยว่า เห็นความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่แรก โดยหลังจากมายื่นเรื่อง ทางนายศรีสุวรรณ และเจ๋ง ดอกจิก ก็มีการติดตามมาเรื่อย ๆ ว่า เมื่อไหร่จะบรรจุเข้ากรรมาธิการสักที และมีการเอ่ยชื่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงท่านหนี่งที่ดูแลกำกับในส่วนที่เกี่ยวข้องว่าเป็นคนส่งเรื่องมาให้ ทำให้ทางกรรมาธิการเกิดความสงสัย จึงพยายามประสานไปว่ารัฐมนตรีช่วยฯฝากมาจริงไหม ซึ่งก็เหมือนท่านก็ไม่ได้รู้เรื่อง

ทั้งนี้ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาแล้ว กรรมาธิการก็ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะไม่อยากให้กรรมาธิการตกเป็นเครื่องมือของคนที่ไปตบทรัพย์คนอื่น

ต่อมา นายณัฐพงษ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตั้งแต่ที่นายศรีสุวรรณ และ เจ๋ง ดอกจิก มายื่นเรื่องให้กรรมาธิการตรวจสอบการใช้งบกรมฝนหลวง รวมถึงข้อพิรุธในการร้อง ที่ทำให้ยังไม่บรรจุเรื่องเข้าสู่การพิจารณา และยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกตบทรัพย์ใดๆ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ที่เจตนาทุจริตอย่างเต็มที่ หากมีผู้ใดพยายามใช้คณะกรรมาธิการเป็นเครื่องมือในการเรียกตบทรัพย์ ตนพร้อมให้ความร่วมมือในการเข้าให้การ และให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ



-นิด้าโพล เผย ปชช.ส่วนใหญ่ "ไม่โกรธ" หากนายกฯ ยกเลิกแจกเงินดิจิทัล

เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเดินหน้ายังไง เมื่อวานนิด้าโพลเปิดผลสำรวจ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าประเทศอยู่ในภาวะวิกฤติ แต่เมื่อถามว่าควรดำเนินนโยบายต่อไปหรือไม่ พบว่าประชาชนเสียงแตกเป็น 2 ฝ่ายเท่า ๆ กัน แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่โกรธนะ ถ้าจะยกเลิกโครงการนี้

ประเด็นแรกที่สอบถามคือ ความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ พบว่า

-ตัวอย่าง ร้อยละ 63.51 ระบุว่า เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน

-รองลงมา ร้อยละ 20.15 ระบุว่า เผชิญกับวิกฤติในระดับที่

ต้องหาทางแก้ไขแต่ไม่เร่งด่วน

-ร้อยละ 10.08 ระบุว่า เผชิญกับวิกฤติในระดับที่ไม่น่าวิตกกังวลใด ๆ

-และ ร้อยละ 5.65 ระบุว่า ไม่ได้เผชิญวิกฤติ

ส่วนการเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจของประชาชนในขณะนี้ พบว่า

-ตัวอย่าง ร้อยละ 36.72 ระบุว่า เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในระดับที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเร่งด่วน

-รองลงมา ร้อยละ 31.91 ระบุว่า เผชิญกับวิกฤติในระดับที่สามารถรับมือได้ด้วยตนเอง

-ร้อยละ 20.45 ระบุว่า เผชิญกับวิกฤติในระดับที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ไม่เร่งด่วน

-และร้อยละ 10.92 ระบุว่า ไม่ได้เผชิญกับวิกฤติใด ๆ

สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำเนินนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต พบว่า

-ตัวอย่าง ร้อยละ 34.66 ระบุว่า ควรหยุดการดำเนินการในนโยบายนี้ได้แล้ว

-ขณะที่รองลงมาก็สูสีกัน คือ ร้อยละ 33.66 ระบุว่า ดำเนินนโยบายต่อไปในปีนี้ ตามที่ได้ประกาศไว้

-ที่เหลือก็มีทั้งให้เลื่อนไปในปี 2568 และให้แจกเฉพาะกลุ่มที่เปราะบางทางเศรษฐกิจ

สุดท้าย ถามถึงความรู้สึกของประชาชนหากนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ตัดสินใจยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต พบว่า

-ตัวอย่างส่วนใหญ่คือ ร้อยละ 68.85 ระบุว่า ไม่โกรธเลย

-รองลงมา คือ ร้อยละ 12.37 ระบุ ค่อนข้างโกรธ

-ร้อยละ 9.39 ระบุ โกรธมาก

-และร้อยละ 8.85 ระบุว่า ไม่ค่อยโกรธ



-เพื่อไทย ยันรัฐบาลเดินหน้าแจกเงินดิจิทัล ย้ำช้าแต่ชัวร์

ขณะที่เมื่อวานนี้ สส.พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทแน่นอน ก็เชื่อว่าประชาชนเข้าใจ ว่าอาจช้าหน่อย แต่ช้าแล้วชัวร์ ชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อวานนี้ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีผลสำรวจนิด้าโพล เรื่อง วิกฤตเศรษฐกิจกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ระบุว่า มีประชาชนอยากให้เดินหน้าและหยุดนโยบายแจกเงินดิจิทัลในสัดส่วนใกล้เคียงกัน ก็บอกว่า รัฐบาลยืนยันตลอดที่จะผลักดันและเดินหน้าโครงการนี้ แต่ในระหว่างทางไม่ว่าจะเป็นข้อสังเกตจากหน่วยงานรัฐ รวมถึงผลโพลที่สะท้อนความคิดเห็นของประชาชน ตนเชื่อว่ารัฐบาลรับฟังอยู่แล้ว และคิดว่าประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าเร็วกว่านี้ได้

นายอนุสรณ์ ระบุ ยืนยันอีกครั้งว่า “รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเดินหน้าโครงการนี้ แต่จะเดินหน้าโครงการที่ชอบด้วยกฎหมาย-รอบคอบ รับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน อาจจะช้าหน่อย แต่ช้าแล้วชัวร์"



-ปานปรีย์-หวังอี้ ลงนามฟรีวีซ่าไทย-จีน เริ่ม 1 มี.ค.นี้

มีความคืบหน้ากรณีฟรีวีซ่าไทย-จีน เมื่อวานนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้ง 2 ประเทศ ได้ลงนามร่วมกันแล้ว โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้

เมื่อวานนี้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ร่วมลงนามความตกลงและเอกสารสำคัญไทย-จีน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตรา ซึ่งกันและกัน หรือฟรีวีซ่า โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป

สาระสำคัญ ก็คือ ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางจากทั้ง 2 ประเทศ จะสามารถเดินทางเข้าและพำนักอยู่ในอีกประเทศได้นาน 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยว หรือติดต่อธุรกิจต่าง ๆ

ซึ่งนายปานปรีย์ บอกว่า ความตกลงนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพไทย-จีนที่มีมาอย่างยาวนาน นอกจากการลงนามฟรีวีซ่าแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย ยังได้หารือกระชับความร่วมมือด้านต่างๆ โดยเห็นพ้องตรงกันที่จะเร่งสร้างรถไฟจีนไทย เพื่อเชื่อมโยงกันระหว่างจีน ลาว ไทย และ ยังตกลงที่จะจัดการหารือระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งด้วย และวันนี้ 29 ม.ค. นายหวัง อี้ มีกำหนดเข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย

พูดถึงเมื่อวานนี้ ท่านนายกฯ ได้โพสต์หลังมีการลงนามฟรีวีซ่า 2 ประเทศ ว่าเป็น "ก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ไทย-จีน และจะมีผลอย่างมากต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เพียงในแง่การค้า หรือการลงทุน การท่องเที่ยวระหว่างกันจะดีขึ้นเป็นอย่างมาก ส่งผลถึงรายได้จากนักท่องเที่ยว ที่ส่งตรงถึงพ่อค้าแม่ค้าในไทย"



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ivIXR0i7ekE

คุณอาจสนใจ

Related News