อาชญากรรม

สายไหมต้องรอด รุดประกันตัว แม่ให้นมลูกอ่อนในขัง เหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ จนกลายเป็นผู้ต้องหาบัญชีม้า

โดย attapan_n

25 ม.ค. 2567

962 views

วันที่ 25 ม.ค.2567 ที่สน.ทองหล่อ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าประกันตัวแม่ลูกอ่อน อายุ 22 ปี หลังตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ ถูกหลอกให้เปิดบัญชี ก่อนนำหมายเลขบัญชี ไปใช้หลอกลวงขายกระเป๋าในราคา 9 หมื่น โดยให้ผู้เสียหายที่ซื้อกระเป๋า โอนเงินเข้ามาบัญชีที่เปิดใหม่ แต่ไม่มีกระเป๋าขายจริง สุดท้ายผู้เสียหายจึงแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชี แต่ที่น่าเศร้าใจ คือห น.ส.ชุติกาญจน์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหา ต้องนำลูกชาย ทารกวัย 6 เดือน เข้าไปให้นมให้ห้องขังของโรงพัก เนื่องจากไม่มีเงินซื้อนมชงเพราะฐานะยากจน

นายเอกภพ เปิดเผยว่า ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า น.ส.ชุติกาญจน์ ถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ จับกุมเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยตำรวจเข้าควบคุมตัว มาจากจั.สมุทรสงคราม จากนั้นทางน.ส.ชุติกาญจน์ จึงขอความช่วยเหลือเข้ามาทางเพจสายไหมต้องรอดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อ 2เดือนที่แล้ว น.ส.ชุติกาญจน์เพิ่งจะคลอดลูกชายได้เพียง 4 เดือน ส่วนสามีก็ยังไม่มีงานทำฐานะยากจน ไม่มีเงินซื้อนมผงให้ลูกกิน ต้องให้ลูกชายกินนมแม่

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2566 น.ส.ชุติกาญจน์ เปิดเฟซบุ๊ก และเห็นว่ามีข้อความที่ชักชวนให้ลงทะเบียนเทรดหุ้รจะได้รับเงิน 300 บาท น.ส.ชุติกาญจน์ ก็ตั้งใจว่าถ้าได้เงิน 300 จะเอาไปซื้อแพมเพิสให้ลูก จึงตัดสินใจลงทะเบียนไป จากนั้นมิจฉาชีพได้ทักแชทมาพูดคุย หลอกล่อขอข้อมูลบัตรประชาชน เมื่อได้ข้อมูลไปแล้วมิจฉาชีพเอาไปเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์กับธนาคารเกียรตินาคิน แต่เงิน 300 ที่รับปากว่าจะให้ น.ส.ชุติกาญจน์ก็ไม่ได้รับเงิน

ผ่านไปประมาณ 1 เดือน มีตำรวจโทรศัพท์มาหา แต่น.ส.ชุติกาญจน์คิดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นตำรวจปลอม จึงให้ข้อมูลมั่วๆไป กระทั่งมีตำรวจในพื้นที่ใกล้บ้านมาแจ้งว่า มีตำรวจจาก สน.ทองหล่อ ติดต่อมา และจะมีหมายเรียกส่งมา น.ส.ชุติกาญจน์จึงรอหมายเรียก แต่ตำรวจ สน.ทองลหล่อ ส่งหมายเรียกไปที่ภูมลำเนาบ้านเกิดที่จ.ลำพูน ซึ่งน.ส.ชุติกาญจน์ มาอยู่กับแฟนที่จ.สมุทรสงคราม ทำให้ไม่ได้รับหมายเรียก ตำรวจจึงออกหมายจับ และไปควบคุมตัวมาจากจ.สมุทรสงครามมาที่ สน.ทองหล่อ

เมื่อมาถึง สน.ทองหล่อ จึงทราบว่า มิจฉาชีพที่เอาข้อมูลน.ส.ชุติกาญจน์ไป นำข้อมูลไปเปิดบัญชีแล้วไปหลอกขายกระเป๋า ให้ผู้เสียหายรายหนึ่งในราคา 9 หมื่นบาท ผู้เสียหายโอนเงินมาในชื่อบัญชื่อน.ส.ชุติกาญจน์ แต่ไม่ได้รับกระเป๋า จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ทองหล่อ เมื่อตำรวจควบคุมตัวน.ส.ชุติกาญจน์ มาที่ สน.ทองหล่อ ลูกชายวัย 6 เดือน และสามีของน.ส.ชุติกาญจน์ จึงมาที่ สน.ด้วย เพราะลูกติดแม่มาก และยังต้องกินนมแม่ จึงเกิดเป็นภาพเด็กทารกอยู่ในห้องขังกับแม่ เพราะไม่มีเงินประกันตัว โดยหลังประกันตัว ทางทีมงานเพจสายไหมต้องรอด เตรียมพาน.ส.ชุติกาญจน์ ไปกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความช่วยเหลือตามกระบวนการทางกฎหมาย เนื่องจากน.ส.ชุติกาญจน์ ก็ถือว่าตกเป็นเหยื่อที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงเช่นกัน

ด้านน.ส.ชุติกาญจน์ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เจอกับแก๊งมิจฉาชีพในเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2566 โดยแก๊งมิจฉาชีพได้โพสต์จ้างเปิดแอปฯในราคา 300 บาท ตนเองสนใจจึงทักแชทไป โดยมิจฉาชีพให้ส่งรูปถ่ายบัตรประชาชนไป ส่งรูปแอปฯที่สมัครไปให้ดู ตนเองจึงเข้าไปดูพบว่าเป็นแอปฯเทรดหุ้น ตนเองไม่รู้จักแต่ก็สมัครไป พร้อมให้ข้อมูลส่วนตัวกับแก๊งมิจฉาชีพไป

ต่อมา 27 พ.ย.2566 มีตำรวจโทรมา ว่าตนเองตกเป็นผู้ต้องหา แต่ตนเองไม่เชื่อคิดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงให้ข้อมูลไปมั่วๆ เมื่อไปถามกับตำรวจ สภ.ใกล้บ้านจึงรู้ว่าตนเองตกเป็นผู้ต้องหาจริง ตนเองจึงเครยดและตกใจมาก เมื่อตำรวจแจ้งว่ายอดฉ้อโกงทั้งหมดเป็นเงิน 9 หมื่นบาท ตนเองก็ตกใจมาก

ทั้งนี้น.ส.ชุติกาญจน์ ฝากไปถึงผู้เสียหายที่ซื้อกระเป๋าแล้วไม่ได้สินค้าว่า ตนเองขอโทษ ตนเองไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้จริงๆว่ามิจฉาชีพเอาไปเปิดบัญชี ถ้าตนเองได้ทำงานจะทยอยคืนให้ได้ แต่ตอนนี้ไม่มีเงิน เพราะไม่ได้ทำงาน ส่วนสามีก็มีอาชีพขนมะพร้าวขึ้นรถ ได้ค่าแรงเป็นราคาเหมา คันละ 150 บาท วันหนึ่งก็ขนขึ้นได้วันละ 1- 2 คัน ได้เงินวันละ 150 – 300 บาท / การที่เพจสายไหมต้องรอด มาช่วยวันนี้ดีใจมาก ไม่คิดว่าจะมาช่วย

คุณอาจสนใจ

Related News