สังคม

รอง ผอ.โรงเรียน แจ้งความ ครูแนะแนว ยักยอกเงินค่าเทอมนักเรียน

โดย paranee_s

23 ม.ค. 2567

1.2K views

นายภคพล อายุ 32 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนสอนพนักงานผู้ช่วยพยาบาลแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ ถ.เขื่อนธานี ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.อุบลราชธานี เดินทางมาพบ ร.ต.อ.ปัญญา คูณยอ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายธนทรัพย์ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นครูของโรงเรียน ทำหน้าที่เกี่ยวกับฝ่ายการตลาดแนะแนวการศึกษา ในข้อหายักยอกทรัพย์นายจ้าง ซึ่งมี ผศ.ดร พนธ์พันธ์ เป็นที่ปรึกษาโรงเรียน


จากการสอบสวนเบื้องต้น นายภคพล ให้การว่า นายธนทรัพย์ มีพฤติกรรมยักยอกเงินของ น.ส.หฤทัย ซึ่งเป็นนักเรียน จำนวน 7,100 บาท ที่ฝากให้ นายธนทรัพย์ จ่ายเทอมการศึกษาแต่ไม่นำมาจ่าย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566


นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังได้ตรวจสอบ พบว่า นายธนทรัพย์ ยังมีพฤติกรรมแอบเข้าไปในห้องฝ่ายการตลาด เพื่อแอบเข้าไปเอาใบเสร็จรับเงินของโรงเรียน แล้วนำไปออกใบเสร็จรับเงินจากนักเรียนจำนวน 2 ครั้งๆ ละ 5,000 บาท รวม 10,000 บาท เมื่อ วันที่ 16 ธ.ค.2566 และ 16 ม. ค. 2567 ซึ่งตรวจสอบ จากกล้องวงจรปิดของโรงเรียนที่บันทึกภาพเอาไว้ได้ โดยนายธนทรัพย์ ได้ลงชื่อในใบเสร็จรับเงินค่าเทอมเอง เป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจ


นายภคพล วังสการ กล่าวว่า โรงเรียนได้ให้นายธนทรัพย์ ออกจากการเป็นพนักงานลูกจ้างครู ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค .2567 เป็นต้นไป ฐานความผิดยักยอกเงินโรงเรียน โดยเฉพาะเงินของเด็กนักเรียนเอง หากนายธนทรัพย์ ไปหลอกลวงบุคคลอื่นอีกทางโรงเรียน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด


ขณะทางด้าน ผศ.ดร พนธ์พันธ์ ที่ปรึกษาโรงเรียน เปิดเผยต่ออีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนสั่งการให้ รอง ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ตั้งทนายเพื่อแจ้งความ เร่งดำเนินคดีกับอดีตพนักงานครู รายนี้อย่างที่สุด เพราะถือว่าให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง และเป็นการกระทำไม่สมควร


เนื่องจากนักเรียนทุกคนที่เข้ามาเรียน พ่อ - แม่ ผู้ปกครองเด็กแต่ละคน กว่าจะหาเงินมาจ่ายค่าเทอมลูก ๆ เพื่อศึกษาเล่าเรียนวิชาผู้ช่วยพยาบาล ในแต่ละครั้ง ต้องยอมรับว่า เลือดตาแทบกระเด็น แม้ดูจะเป็นยอดเงินจำนวนไม่มาก แต่หากไล่ ๆ ดู เพราะความโชคดีที่ฝ่ายบริหารโรงเรียน สามารถตรวจสอบ รู้ทันกลโกงของครูจ้างรายนี้ และระงับหน้าที่ก่อนความเสียหายจะเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง


จากการสืบทราบมาว่า บุคคลรายนี้มีความตั้งใจโกงเอาเงินของนักเรียนและเงินของโรงเรียน เพื่อหลบหนีไปอีกมาก ทั้งนี้ ทางโรงเรียนต้องฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองอุบลราชธานี ช่วยสืบสวนหาข้อเท็จจริงในการดำเนินคดีเพิ่มเติม ทางกฎหมายอย่างละเอียดต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News