เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 23 ม.ค.67 นายกฯ ลงพื้นที่สร้างแลนด์บริดจ์-เน็ตไอดอลสาวถูกยิงดับ-บุกทลายโรงงานลูกชิ้นเถื่อน

-ตร.เข้มสอบพยานเพื่อนผู้ตายฆ่าหั่นศพ มั่นใจได้ตัวแน่

-ช็อก พบเน็ตไอดอลสาว ถูกยิงดับคาคอนโด สภาพนอนเปลือย มือถือปืน

-5 โจ๋พัทยาเหิม คว้ามีดขู่ปล้น นทท.คูเวต เจอขัดขืนรุมไล่ฟัน

-บุกทลายโรงงานลูกชิ้นเถื่อน ปทุมธานี ส่งขายเกลื่อนเมือง

-สั่งสอบด่วนปมแฉโพยผับ ปทุมธานี จ่ายส่วยนับแสนต่อเดือน

-สุดช็อก นักเรียนหญิงพลัดตกชั้น 4 ลานจอดรถห้างฯ กลางเมือง

-สาวเอนฯ แจ้งจับ อดีตนักการเมืองท้องถิ่น เชิดค่าตัว-ขืนใจไม่สวมถุงยาง



เรื่องเล่าการเมือง

-นายกฯ ลงพื้นที่สร้างแลนด์บริดจ์ เจอป้าย “No landbridge”

ความเคลื่อนไหวของท่านนายกฯ เมื่อวานนี้ขน ครม. ลงพื้นที่ จ.ระนอง ก่อนประชุม ครม.สัญจรเต็มคณะวันนี้ ท่ามกลางการจับตาประเด็น "แลนด์บริดจ์" หลังมีเสียงสนับสนุน และคัดค้าน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ไปลงพื้นที่จริงในโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเล อ่าวไทย - อันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ ชุมพร - ระนอง ที่ อุทยานแห่งชาติแหลมสน อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง

แต่ก่อนจะมาถึง ปรากฏว่า มีกลุ่มคัดค้านติดป้ายผ้าขนาดใหญ่ เขียนข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า "No landbridge" ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กันให้อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าอุทยานฯ เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้า

โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรี ได้ไปดูจุดที่จะก่อสร้างท่าเรือ และได้รับฟังบรรยายการก่อสร้างจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)

และให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีการคัดค้านจากประชาชน ก็บอกว่า การทำโครงการใหญ่ ๆ เป็นเรื่องธรรมดา ที่จะมีคนไม่เห็นด้วย ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ต้องรับฟัง

จากนั้นนายกฯ ได้ออกมารับหนังสือร้องเรียนจาก ตัวแทนกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ตำบลราชกรูด ที่อาศัยอยู่บริเวณที่จะมีการก่อสร้างแลนด์บริดจ์

ก็เรียกร้องให้รับฟังความเห็นจากประชาชนในพื้นที่ด้วย ไม่ใช่รับฟังความเห็นจากหน่วยงาน ว่าชาวบ้านเห็นด้วยทั้งหมด ซึ่งนายกฯ รับปากว่าจะรับฟังทั้ง 2 ทาง



-มนพร ตอก ศิริกัญญา อ่านรายงานแลนด์บริดจ์ผิดฉบับ

กรณีโครงการแลนด์บริดจ์ เมื่อวานนี้ทั้งรัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยคมนาคม ก็ออกมาตอบโต้ฝ่ายค้านอย่างดุเดือด โดยเฉพาะ น.ส.ศิริกัญญา ที่ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ต่อเนื่อง ว่าไปอ่านรายงานผลการศึกษาแลนด์บริดจ์ผิดฉบับ

เมื่อวานนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไปประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าและรับฟังการบรรยายสรุปโครงการดำเนินงานของหน่วยงาน โครงการแลนด์บริดจ์ จ.ระนอง

นายสุริยะ แถลงหลังรับฟังบรรยายสรุป ก็มีการตอบโต้ฝ่ายค้าน ว่า อย่าจินตนาการว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ และย้ำจากที่ท่านนายกฯ ไปพบนักลงทุนต่างประเทศจำนวนมาก ต่างให้ความสนใจ โดยมั่นใจว่า “แลนด์บริดจ์” จะเกิดขึ้นแน่นอน

ขณะที่ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยคมนาคม พูดถึงกรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เรียกร้องให้ทบทวนรายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ที่ตั้งข้อสังเกต รายงานดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่รัฐบาลจะดำเนินการ

ก็ตอบโต้ น.ส.ศิริกัญญา ว่า อ่านรายงานผิดฉบับ ไปอ่านความเห็นจากการศึกษาเดิม ซึ่งหากเราจะใช้ความเห็นของรัฐบาลชุดที่แล้ว คงไม่ต้องมีการตั้งกรรมาธิการแลนด์บริดจ์ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน

นางมนพร ยืนยันว่า ในการมาประชุม ครม.สัญจร จ.ระนอง ครั้งนี้ รัฐบาลจะมาเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และจะเปิดหูเปิดตาในการรับฟังทุกความเห็น



-ศิริกัญญา โต้ มนพร อ่านรายงานคนละฉบับ ย้ำต้องทบทวนรายงาน สนข.

ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ก็โต้กลับรัฐมนตรีมนพร ทันทีกรณีที่พูดถึงรายงานคนละฉบับ ก็ย้ำว่าสิ่งที่พูดถึงให้ทบทวน คือ รายงานการศึกษาของ สนข.

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เราพูดถึงรายงานคนละเล่ม สิ่งที่ตนเรียกร้องให้ทบทวนคือรายงานศึกษาความเป็นไปได้ของ สนข. ซึ่งขณะนี้ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ งบประมาณงวดสุดท้ายยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการงบประมาณ ส่วนที่ตนพูดถึงเป็นส่วนที่ศึกษาแล้วเสร็จไปแล้ว และพบว่ามีสมมุติฐานไม่สมเหตุสมผลในหลายเรื่อง จึงเรียกร้องให้ทบทวนตัวรายงาน

ส่วนที่รัฐมนตรีมนพร พูด น่าจะเป็นรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งหากตนต้องการให้มีการทบทวนคงไม่ลาออกจากกรรมาธิการ

น.ส.ศิริกัญญา บอกว่า หากรายงานการศึกษาของ สนข.ที่เสียงบประมาณไป 68 ล้านบาท ยังไม่มีรายละเอียดตามที่รัฐบาลอยากได้ เช่น ท่อส่งน้ำมัน หรือท่าเรือที่รองรับสินค้าเทกอง ก็ยิ่งต้องทบทวน



-98 สว. เข้าชื่อ เสนอญัตติอภิปรายซักฟอกรัฐบาล ทิ้งทวนก่อนหมดวาระ

การเปิดอภิปรายซักฟอกรัฐบาล ของ สว. เมื่อวานนี้ สว.เข้าชื่อกัน 98 คน เสนอญัตติ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง นำทีม สว. เข้ายื่นญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 โดย มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา รับยื่นญัตติด้วยตัวเอง

การเสนอญัตติครั้งนี้ มี 7 ประเด็นด้วยกัน เรื่องปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้องของประชาชน ที่มีการถามถึงความชัดเจน ของ โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

กับเรื่อง ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งประเด็นนี้แม้จะไม่ระบุเจาะจงว่าเป็นเรื่องของคุณทักษิณ ชินวัตร แต่ก็มีรายละเอียดที่มีการตั้งคำถามถึง การปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง ตามคำพิพากษาและสะท้อนถึงกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน

ซึ่ง สว.เสรี เชื่อว่า การเปิดอภิปรายครั้งนี้ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและการบริหารราชการแผ่นดิน

สำหรับรายชื่อ สว. 98 คน ที่เข้าชื่อกัน พบว่า มี สว. จากทุกสาย โดยเฉพาะ สายทหาร ตำรวจ ของ ทั้ง ฝ่ายที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ และ พลเอกประวิตร เดิมรวม 22 คน อาทิ พล.อ.อู๊ด เบื้องบน / พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม / พล.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป / พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ / พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร / พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ /พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร แต่ไม่มีรายชื่อ สว.ทหารที่เป็น ผบ.เหล่าทัพ โดยตำแหน่ง

กลุ่ม สว.พลเรือน ประมาณ 40 คน ซึ่งกลุ่มนี้ มีจำนวนมากสุด อาทิ นายเสรี สุวรรณภานนท์ / นายสมชาย แสวงการ/ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป /นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม/นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ/ครูหยุย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ / นายจตุรงค์ เสริมสุข/นายอับดุลฮาลิม มินซาร์ /นายอนุศักดิ์ คงมาลัย / นายคำนูณ สิทธิสมาน /นายมณเฑียร บุญตัน เป็นต้น

กลุ่ม สว.อดีตข้าราชการประจำ ประมาณ 25 คน อาทิ นายจเด็จ อินสว่าง /นายออน กาจกระโทก / หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล / นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน / นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ / นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์/นายจิรชัย มูลทองโร่ย / นายจรินทร์ จักกะพาก เป็นต้น

และ กลุ่ม สว. สายภาคธุรกิจ ประมาณ 11 คน อาทิ นางกอบกุล อาภากร ณ อยุธยา / นายเจน นำชัยศิริ / นางเพ็ญพักตร์ สีทอง / นายสุวรรณ เลิศปัญญาโรจน์ / นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร / นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา เป็นต้น

ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้ จะมีการตรวจสอบรายชื่อ และ กำหนดวันอภิปรายต่อไป



-เพื่อไทย ชี้ช่อง ถาม ศาล รธน. วินิจฉัย ทำประชามติ 2 ครั้ง ประหยัดงบประมาณ

ความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตอนนี้หลายฝ่ายกำลังหาข้อสรุป ถึงขั้นตอนการจัดทำประชามติ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ล่าสุดเมื่อวานนี้ พรรคเพื่อไทย ออกมาแถลง เห็นช่องทางที่จะลดขั้นตอน การทำประชามติให้เหลือ 2 ครั้งได้

นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นำ สส.พรรคเพื่อไทย 122 คนร่วมกันแถลงถึง ถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการตั้ง ส.ส.ร. มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยบอกว่า ความคืบหน้าการพิจารณาของรัฐบาลที่นำโดย นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี มีข้อสรุปว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเสนอให้มีการทำประชามติ 3 ครั้ง คือ

- ครั้งที่หนึ่งถามประชาชน ว่าสมควรให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

- ครั้งที่ 2 ทำเมื่อมีการแก้ไขให้มี ส.ส.ร.

- และครั้งที่ 3 เมื่อ ส.ส.ร. ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาเสร็จแล้ว

อย่างไรก็ตาม คณะทำงานของพรรคเพื่อไทยเห็นว่า สามารถลดได้ เหลือ 2 ครั้ง เพราะหากตีความคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2564 ที่ระบุ ให้ถามประชาชนก่อนว่าประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่นั้น อาจตีความว่า สามารถถามในขั้นตอนการแก้ไขมาตรา 256 ที่เป็นเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้ มี ส.ส.ร. เข้ามาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยไม่ต้องทำประชามติ ถามก่อนการแก้ไข

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า แนวทางนี้สามารถลดการทำประชามติเหลือ 2 ครั้ง ลดภาระงบประมาณได้มากถึง 3,000 ถึง 4,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ประเด็นนี้ให้ชัดเจนอีกครั้ง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/sk-v_XJr4fI