สังคม

พระราม 2 สยองอีก! กระเช้าสลิงขาด คนงานร่วงดับ 1 สาหัส 1 คนขับรถเครนยันไม่ได้ประมาท คาดระบบเซฟตี้มีปัญหา

โดย petchpawee_k

19 ม.ค. 2567

72 views

อีกแล้ว! พระราม 2 กระเช้าสลิงขาด คนงานร่วงดับ 1 เจ็บ 1 คนขับรถเครนเล่านาทีระทึก ยันไม่ได้กระทำการโดยประมาท แต่อาจจะเกิดจากอุบัติเหตุ


เกิดอุบัติเหตุบริเวณพื้นที่ก่อสร้างถนนพระราม 2 อีกแล้ว เมื่อวานนี้ (18 ม.ค.67) เวลาประมาณ 13.00 น. บริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (M82) ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ตอน 1 พื้นที่เขตบางขุนเทียน สลิงรถเครนยกกระเช้าคนงานเกิดขาด ทำให้กระเช้าที่อยู่บนความสูงประมาณ 15 เมตร ตกลงมาด้านล่าง ทำให้คนงานตกลงมาพร้อมกระเช้า เสียชีวิต 1 คน คือ นายวิภาค พรหมประสงค์ อายุ 44 ปี และมีคนงานที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน คือ นายธีรภัทร์ อายุ 24 ปี

โดยมีกล้องวงจรปิดบริเวณนั้น จับภาพช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ซึ่งตัวกระเช้าอยู่พ้นจากมุมกล้องไป  แต่ก็เห็นฝุ่นตลบขึ้นมา เพราะแรงกระแทกของกระเช้า จากนั้นก็มีทั้งคนงาน และคนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว วิ่งเข้าไปดูที่เกิดเหตุ


จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุ เป็นช่วงที่รถเครนกำลังดึงกระเช้าพาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งเป็นช่างวิศวกรแมคคาทรอนิกส์ขึ้นไปเปลี่ยนน้ำมันไฮโดรคิคโช้คคานเหล็กยก segment หรือ รางรองรับพื้นถนน ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นวิศวกรที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่ได้ส่งสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของเครนและกระเช้าแต่อย่างใด


 คนขับรถเครนได้เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขึ้นไปขับรถเครนคันดังกล่าวโดยมีนายวิภาค และนาย ธีรภัทร์ ขึ้นไปบนกระเช้าเพื่อจะไปเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นไฮโดรลิคโช้คคานเหล็กยก segment หรือรางรองรับพื้นถนนทางด่วน  ซึ่งปกติจะมีการสื่อสารระหว่างวิศวกรบนกระเช้ากับคนขับรถเครนผ่านทางโทรศัพท์  แต่ก่อนเกิดเหตุ วิศวกรทั้งสองไม่ได้โทรศัพท์หรือส่งสัญญาณถึงความผิดปกติของเครนและกระเช้า  จู่ๆ ก็มีเสียงดังสนั่นขึ้น คล้ายกับวัตถุหล่นกระทบพื้น ตนจึงได้วิ่งออกจากรถเครนไปดู  ก็พบว่าสายสลิงยึดกระเช้าขาด และทั้งสองคนตกลงมา  จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย 


คนขับรถเครน ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ประมาท แต่อาจจะเกิดจากอุบัติเหตุและระบบเซฟตี้ของตัวเครน  เพราะช่วงที่กระเช้าขึ้นไปจนสุดระยะเครน  หนึ่งในวิศวกรได้โทรศัพท์มาว่า  ให้นำกระเช้าขึ้นไปให้สูงกว่านี้ เพราะยังไม่ถึงจุดโช้คไฮโดรลิคที่จะไปเปลี่ยนน้ำมัน  


ส่วนที่ผ่านมาตัวเครนหรือชิ้นส่วนอื่นมีลักษณะบ่งบอกว่าชำรุดหรือไม่นั้น ตนเองไม่สามารถบอกได้ ต้องให้ทางบริษัทเป็นผู้ตรวจสอบ ว่าเครื่องจักรมีสภาพชำรุดหรือไม่  ส่วนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตนั้น ก็เคยทำงานร่วมกันมา ทั้งคู่มีความชำนาญในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ก่อนหน้านี้ก็เคยขึ้นกระเช้าไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไฮโดรลิคในลักษณะนี้มาแล้ว ก็ไม่เคยเกิดความผิดพลาด


ด้านนายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ  


โดยนายกฤชนนท์ เปิดเผยว่า  ในช่วงเวลาเกิดเหตุนั้น อยู่ระหว่างการบำรุงรักษารถเครน และอุปกรณ์ในการยกหิ้วแขวนของงานก่อสร้างฯ ซึ่งไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาของการก่อสร้าง แต่ด้วยผู้ขับรถเครนที่มาจากสำนักงานใหญ่เกิดความผิดพลาด คือ เมื่อยืดเครนขึ้นไปในระดับสูง แต่ไม่ได้ปลดสลิงให้หย่อนตัว จึงทำให้สลิงที่หิ้วกระเช้าตึงและขาด ทำให้วิศวกรของบริษัท ที่อยู่บนกระเช้ารถเครนร่วงหล่นลงมาด้านล่าง


ทั้งนี้ จะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะวิธีขั้นตอนการลำเลียงขนของในช่วงเกิดเหตุ ส่วนอุปกรณ์และสภาพของรถเครนนั้น ยังต้องตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง  แต่วิศวกรทั้งสองคนมีประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุ  ซึ่งทางต้นสังกัดต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ด้านอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า  กรณีนี้จะต้องนำมาเป็นบทเรียน โดยเฉพาะการใช้รถเครนยกกระเช้าด้วยลวดสลิง เพราะโดยปกติแล้ว การที่จะใช้กระเช้าลำเลียงคน จะต้องเป็นรถเครนที่มีกระเช้าติดอยู่ในตัว ไม่ใช่ใช้ลูกรอกยกกระเช้าขึ้นไป แม้ว่าการกระทำดังกล่าวไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย แต่กรมทางหลวงจะมีการคาดโทษ โดยการให้หยุดดำเนินการก่อสร้างและเสียค่าปรับ ซึ่งจะเป็นผลเสียกับผู้รับเหมาก่อสร้างหรือผู้รับผิดชอบไซต์งาน


 ส่วนเรื่องอุปกรณ์เซฟตี้นั้น จากที่ได้รับรายงาน ช่างวิศวกรทั้งสองไม่ได้ใช้อุปกรณ์เซฟตี้ในการขึ้นกระเช้า เป็นการทำงานที่ประมาททั้งวิศวกรและคนขับรถเครน การทำงานในไซต์งานก่อสร้างระดับนี้ ทุกอย่างจะต้องเพียบพร้อม โดยเฉพาะการไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในขณะทำงาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะส่งผลต่อบุคคลทำงานและประชาชนที่สัญจรอยู่ในถนนทางหลวง


จากเหตุการณ์นี้ กรมทางหลวงได้สั่งให้บริษัทหยุดดำเนินการเป็นเวลา 3 วัน เพื่อตรวจสอบสาเหตุดังกล่าว และตรวจเช็คอุปกรณ์ทั้งหมด ว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ก่อนจะอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างได้อีกครั้งหนึ่ง


ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างก่อสร้างดังกล่าว ดำเนินการโดยบริษัทกิจการร่วมค้าเอ็นทีเอ สัญญาเลขที่ สส. 23/2562 โดยที่ผ่านมาทางสำนักก่อสร้างสะพาน ได้สั่งการให้บริษัทผู้รับจ้างทุกสัญญา ดำเนินการตามมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ก่อสร้าง จึงไม่ส่งผลกระทบต่อรถที่สัญจรผ่านไปมา


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/LZNmctPWlQM


คุณอาจสนใจ