เลือกตั้งและการเมือง
ยกฟ้องกลุ่มพันธมิตรฯ ยึดสนามบิน – 'หมออ๋อง' โพสต์เทียบ ปิดสนามบิน ปรับ 2 หมื่น แต่โพสต์เบียร์ ปรับ 5 หมื่น
โดย thichaphat_d
18 ม.ค. 2567
387 views
ศาลยกฟ้องคดี ‘ก่อการร้าย’ กลุ่มพันธมิตรฯ บุกสนามบินดอนเมือง แต่สั่งปรับคนละ 20,000 ในจำเลย 13 คนจาก 32 คน ฐานฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน-บุกรุก
เมื่อวานนี้ (17 ม.ค.67) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาครั้งที่ 2 ในคดี กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกสนามบินดอนเมือง ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตร และแนวร่วม รวม 32 คน เป็นจำเลยในความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นกบฏก่อการร้าย”
จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2551 จำเลยได้ร่วมกันโฆษณาชักชวนให้ประชาชนมาร่วมกันชุมนุมใหญ่กระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ และปิดล้อมอาคารวีไอพี ท่าอากาศยานดอนเมือง แล้วนำจานรับสัญญาณของพวกจำเลยไปติดตั้งใกล้เครื่องรับสัญญาณเรดาร์ของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ปิดกั้นสะพานกลับรถของกรมทางหลวง และชุมนุมปิดล้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ด้วย เพื่อกดดันให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี (ณ ขณะนั้น) ลาออก คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ โดยศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.66
เมื่อวานนี้ (17 ม.ค.67) จำเลยเดินทางมาศาล เช่น นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายพิภพ ธงไชย, นายรัชต์ชยุตม์ หรือ อมร ศิริโยธิน, นายพิชิต ไชยมงคล, น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสันธนะ ประยูรรัตน์
ส่วน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ นายเทิดทูน หรือ เกิดภูมิไท ใจดี ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล แต่ใช้การวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ฟังคำพิพากษา ขณะที่มีมวลชนกลุ่มพันธมิตรเดินทางมาให้กำลังใจจำเลย
ศาลใช้เวลาอ่านประมาณ 1 ชั่งโมง ได้พิเคราะห์แล้ว พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1-5 จำเลย 7-13 และ จำเลยที่ 31 ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง จำเลยที่ 1, นายสนธิ ลิ้มทองกุล จำเลยที่ 2, นายพิภพ ธงไชย จำเลยที่ 3, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข จำเลยที่ 4, นายสุริยะใส กตะศิลา จำเลยที่ 5, นายศิริชัย ไม้งาม จำเลยที่7, นายสำราญ รอดเพชร จำเลยที่ 8, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า จำเลยที่ 9, นายสาวิทย์ แก้วหวาน จำเลยที่ 10, นายสันธนะ ประยูรรัตน์ จำเลยที่ 11, นายชนะ ผาสุกสกุล จำเลยที่ 12, นายรัชต์ชยุตม์ หรืออมรเทพ หรืออมร ศิริโยธินภักดี หรืออมรรัตนานนท์ จำเลยที่ 13 และ บ.เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด จำเลยที่ 31 กระทำความผิดฐานบุกรุกและฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักสุด คือ ความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 พิพากษาให้ลงโทษปรับคนละ 20,000 บาท ส่วนข้อหาอื่น พยานและหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิด ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่เหลือ ศาลได้ยกฟ้องทั้งหมด
------------------------------------
ในวันเดียวกัน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์หรือเอ็กซ์ โดยระบุว่า
“ประเทศนี้
ปิดสนามบิน ปรับ 20,000
โพสต์กระป๋องเบียร์ ปรับ 50,000
ครับ”
ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2566 นายปดิพัทธ์ ได้เดินทางมาพบ สสจ.เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ตามมาตรา 43 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หลังจากเจ้าตัวโพสต์รูปภาพคู่กับคราฟท์เบียร์ผ่านสื่อโซเชียล
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/w6e9zNWDV7Q
